วันเสาร์ ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
‘อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี’ ‘บิ๊กตู่’ปลุกคนไทย  ร่วมแก้วิกฤติประเทศ

‘อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี’ ‘บิ๊กตู่’ปลุกคนไทย ร่วมแก้วิกฤติประเทศ

วันพุธ ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2563, 06.00 น.
Tag : อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี
  •  

‘อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี’

‘บิ๊กตู่’ปลุกคนไทย

ร่วมแก้วิกฤติประเทศ

ม็อบดาวกระจายซ้ำ

หลายจุดทั่วกรุงเทพฯ

ขู่จะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์

นายกฯปลุกคนไทย “อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี” ย้ำเป็นหน้าที่ทุกคน ต้องร่วมกำจัดผู้มีเจตนาร้ายต่อประเทศ ไฟเขียวเชือด “สื่อบิดเบือนข่าวยุยง ปลุกปั่น กระทบความมั่นคงบ้านเมือง
ด้านกอร.ฉ.รอประเมินเซอร์ไพรส์ม็อบ ตั้งชุดเคลื่อนที่เร็ว ใช้กำลัง1.8พันนาย รักษาความสงบเรียบร้อย ขณะที่ม็อบคณะราษฎรดาวกระจายรายวันทั่วกรุง ขู่ ถ้ารัฐบาลไม่ทำตามข้อเรียกร้อง จะมีบิ๊กเซอร์ไพร์ส ในขณะที่ศาลมีคำสั่งปิด ทุกแพลตฟอร์มออนไลน์‘วอยซ์ทีวี’ฝ่าฝืนพรก.ฉุกเฉินแล้ว

เมื่อเวลา 11.30น.วันที่ 20ตุลาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กองอำนวยการร่วมแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง (กอร.ฉ.) โดยพล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษก ตร. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. และนายภุชพงค์ โนดไธสง รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมหรือดีอีเอส ร่วมกันแถลงสรุปภาพรวมสถานการณ์การชุมนุมและการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่


โดย พล.ต.ต.ปิยะ ได้สรุปการชุมนุมขอกลุ่มคณะราษฎร63 เมื่อเย็นวันที่ 19 ตุลาคม 6 จุดคือ คือ 1.แยกมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์(บางเขน) 2.หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร 3.มหาวิทยาลัยศิลปากร(วังท่าพระ) 4.บริเวณถนนตัดใหม่สาธุประดิษฐ์ 5.หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลพระราม 2 6. สภ.เมืองนนทบุรี เลิกชุมนุมเวลา 22.00 น.ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ส่วนการดำเนินคดีได้จับกุม 1.นายปฏิวัติ สาหร่ายแย้ม หรือหมอลำแบงก์ ถูกเจ้าหน้าที่สภ. เมืองขอนแก่น จับกุมได้ที่บ้านพักในอ.เมือง จ.ขอนแก่น ตามหมายจับศาลอาญาที่ ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2563 ในความผิดตามมาตรา 116 2.จับกุมนายขวัญ จีนา ตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ลงวันที่ 19 ตุลาคม 25863 ซึ่งกระทำผิดทุบทำลายป้อมกดสัญญาณไฟจราจรแยกบางนา ดำเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์, มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือการกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองประมวลกฎหมายอาญามาตรา 215 วรรคแรก รายที่ 3 จับกุมนายประวิทย์ สมรัตน์ ซึ่งเป็นบุคคลที่ปรากฏตามสื่อโซเชียลต่างๆ ว่าเป็นตำรวจปลอมตัวเข้าไปในกลุ่มผู้ชุมนุม ขอเรียนว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พิสูจน์ทราบแล้วว่าไม่ใช่ตำรวจ จึงได้ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหาพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้เสียทรัพย์ และชุมนุมเกิน 10 คนขึ้นไป

สำหรับการจับกุมกลุ่มผู้ชุมนุมช่วงที่ผ่านมา จำนวน 76 คน แบ่งเป็นความผิดตามกฎหมายอาญา 21 คน ความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 54 คน และ ขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน 1 คน

จัด12กองร้อย/หน่วยเครื่องที่เร็ว

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า ขณะนี้างกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) เตรียมกำลังไว้ 12 กองร้อย จำนวน 1,860 นาย เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ภายใต้การบังคับบัญชา พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปะชัย รอง ผบช.น. โดยเน้นการปฏิบัติเป็นชุดเคลื่อนที่เร็วในการเข้ารักษาความสงบเรียบร้อยในบริเวณที่มีการชุมนุมและป้องกันมือที่สามก่อความไม่สงบเรียบร้อย

เมื่อถามว่าผู้ชุมนุมขีดเส้นตายให้ประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ภายในเวลา 18.00 น. ทางศูนย์ กอร.ฉ. จะดำเนินการอย่างไร พล.ต.ต. ปิยะ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และมั่นใจว่าชุดเคลื่อนที่เร็วจะสามารถเข้าไปดูแลความสงบเรียบร้อยในทุกสถานที่ชุมนุม

ศาลสั่งปิด”วอยซ์ทีวี”

ด้าน นายภุชพงค์ โนดไธสง รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือดีอีเอส แถลงข่าวร่วมกับ กอร.ฉ.เปิดเผยว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง มีคำสั่งตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ให้ดีอีเอส ดำเนินการตรวจสอบและระงับการเผยแพร่ของสื่อที่เข้าข่ายฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ นั้น

ทั้งนี้ ดีอีเอสได้ตรวจสอบประมวลโดยฝ่ายกฎหมาย เสนอศาลปิดแพลตฟอร์มออนไลน์ทุกช่องทางของสื่อ 4 องค์กรคือ วอยซ์ทีวี ประชาไท The Reporters และ The Standard ล่าสุด มีคำสั่งจากศาลสั่งปิดทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ของวอยซ์ทีวีแล้ว ส่วนอีก 3 สื่อยังอยู่ในกระบวนการพิจารณา

รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยถึงกรณีของวอยซ์ทีวีนั้น เนื่องจากเข้าข่ายหลายองค์ประกอบความผิด ทั้งขัดพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในที่นีรวมถึงพ.ร.บ.คอมฯด้วย

“วอยซ์ทีวี’ยืนยันทำถูกต้องแล้ว

ด้าน นายเมฆินทร์ เพ็ชรพลาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทวอยซ์ ทีวี จำกัด ได้ออกแถลงการณ์ว่า เรียนผู้ชม และเพื่อนสื่อมวลชน ตามกระแสข่าวที่รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ระบุว่า วันนี้ศาลมีคำสั่งให้ปิดทุกแพลตฟอร์มในสื่อออนไลน์ของสำนักข่าว Voice TV นั้น ขณะนี้บริษัท วอยซ์ทีวี จำกัด ยังไม่ได้รับเอกสารคำสั่งศาลแต่อย่างใด

วอยซ์ทีวีขอยืนยันว่าสิ่งที่เรายึดถือปฏิบัติ เป็นการทำหน้าที่ตามวิชาชีพสื่อ ไม่มีการบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร ทำให้เกิดความเข้าใจผิด หรือทำลายความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยของประชาชน

ตลอดเวลา 11 ปีที่ผ่านมา วอยซ์ทีวีเป็นสื่อที่ยึดมั่นในหลักประชาธิปไตย ให้พื้นที่ทางความคิดของประชาชนอย่างเปิดเผย โปร่งใส และรับผิดชอบข้อเท็จจริงจากทุกฝ่ายเสมอมา ขอยืนยันว่าได้นำเสนอข้อมูลที่มีคุณค่าและมีประโยชน์ต่อสังคม และขอเรียกร้องต่อผู้เกี่ยวข้อง ให้มีการใช้อำนาจและรับผิดชอบต่อสังคมอย่างเที่ยงธรรม

เพนกวิน-รุ้ง ถูกคุมตัวต่อ

มีรายงานข่าวแจ้งว่า ตำรวจหลายท้องที่ได้ทำหนังสือขออายัดตัว นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง แล้ว หลังจากศาลอุทธรณ์ภาค 1 อนุญาตให้ประกันตัวเมื่อวานนี้ ทั้งนี้ สน.ชนะสงคราม ได้ทำหนังสืออายัดตัว นายพริษฐ์ และ น.ส.ปนัสยา ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 1585-1586/2563 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2563 และ สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้ทำหนังสืออายัดตัวนายพริษฐ์และน.ส.ปนัสยา ตามหมายจับของศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ 271, 273/2563 ลงวันที่ 15 ตุลาคม2563 อีกเช่นกัน

พท.เปิดช่องทางช่วยปชช.

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย ผู้อำนวยการพรรค น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรค และฝ่ายกฎหมายพรรค ติดตามพร้อมให้ความช่วยเหลือ ที่ศูนย์อำนวยการช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม ที่พรรคพท. โดยรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม และช่วยเหลือในทางคดีกับผู้ถูกจับกุม ทั้งนี้ สำหรับช่องทางติดต่อ โทร : 02-653-4050 ถึง 52 อีเมล์ : help@ptp.or.th , FB msg box : พรรคพท. และ Twitter DM : @PheuThaiParty

นพ.ชลน่าน ศรีเเก้ว ส.ส.น่านพรรคเพื่อไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กับพวกรวม 4 คน พร้อมด้วยนายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความฯได้ยื่นฟ้องพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ขอให้ศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษาเพิกถอนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานครฯ ศาลได้นัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 22 ตุลาคม

เช่นเดียวกับนายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ ยื่นต่อศาลแพ่งฟ้อง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นจำเลยที่ 1และที่2 ตามลำดับ ฐานละเมิดและขอให้เพิกถอนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่ กทม. ลงวันที่ 15 ต.ค.63 และประกาศทุกฉบับตามมาตรา 5 ของพรก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ.2548

อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี

เวลา 13.40น.ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการแถลงนายกฯได้ให้เจ้าหน้าที่สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลน.)ที่ทำหน้าที่ควบคุมการถ่ายทอดและเครื่องเสียง ทำการเปิดเพลง”อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี”เพียงสั้นๆในช่วงที่นายกฯเดินมายังโพเดียมแถลงข่าว โดยนายกฯกล่าวว่า ฟังเพลงแล้วรู้สึกอะไรขึ้นมาบ้างไหม เราลูกหลานไทย คนไทย อยู่กันอย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ถือเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน หน้าที่ของรัฐบาล แต่ตนก็ไปบังคับใครไม่ได้ ขึ้นอยู่กับจิตใจของพวกเราทุกคน นายกฯกล่าวว่า สวัสดีสื่อมวลชนทุกท่าน ตนมีประเด็นสำคัญที่ต้องการพูดกับสื่อมวลชนทุกท่านทุกคน พูดผ่านสื่อมวลชนที่อยู่ในทำเนียบรัฐบาลวันนี้ และส่งผ่านไปยังสื่อออนไลน์ต่างๆ สื่อทุกประเภท เรื่องสำคัญเรื่องที่มีเอกสารคำสั่งจาก ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง เรื่องการตรวจสอบและระงับการออกอากาศรายการของสื่อ รวมถึงสื่อออนไลน์ที่มีเนื้อหาสาระกระทบต่อความมั่นคง และความสงบเรียบร้อยของประเทศเมื่อวันก่อน

ไฟเขียวจัดการสื่อบิดเบือน

“ผมขอพูดอีกครั้งว่าสื่อมวลชนนั้น เป็นภาคส่วนสำคัญของสังคมไทย สื่อคือพลังที่จะสร้างความชอบธรรม สร้างสรรค์ สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับประเทศได้ บทบาทของสื่อต้องทำหน้าที่อย่างมีสิทธิเสรีภาพ และมีความเป็นกลาง สร้างคุณประโยชน์กับประเทศของเรามากมายมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปกป้องผลประโยชน์ประชาชน ด้วยการเฝ้าระวังตรวจสอบส่ิงต่างๆในสังคม การตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจ วันนี้ผมได้สั่งการมอบแนวทางให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นผู้ตัดสินใจออกคำสั่งเพื่อดำเนินการดังกล่าว โดยขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทบทวนคำสั่งระงับการออกอากาศต่างๆ โดยคำนึงสิทธิและเสรีภาพของสื่อมวลชนเป็นสำคัญ ยกเว้นบางกรณีที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จบิดเบือน ยุยงปลุกปั่น ล้ำเส้น ก้าวล่วง ละเมิดสิทธิ ของผู้อื่นตามกฎหมายมาตลอด ที่มีความชัดเจน ซึ่งวันนี้จำเป็นต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย และดำเนินการเฉพาะเป็นเรื่องๆไป โดยขอให้ครั้งนี้เป็นการทำความเข้าใจ ส่วนบางอันที่จำเป็นต้องปิดตามคำสั่งก็ต้องปิด และได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ผมไม่ได้ไปละเมิดใครทั้งสิ้น”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกฯกล่าวต่อว่า หน้าที่ของตนและพวกเราทุกคนต้องช่วยกันป้องกัน กำจัดการกระทำที่มีเจตนาร้าย ความพยายามยุยงปลุกปั่นสร้างความวุ่นวาย ความแตกแยก สับสนอลหม่านภายในประเทศ นั้นคือส่ิงที่เราต้องยอมรับไม่ให้เกิดขึ้น ต้องขอความร่วมมือจากพวกเราทุกคน จากประชาชนด้วย ตนไม่ต้องการละเมิดสิทธิของใคร แต่ท่านจะต้องระมัดระวังการละเมิดสิทธิผู้อื่นด้วย

นัดชุมนุมทุกสถานี

เย็นวันเดียวกัน) เพจเฟซบุ๊ก “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม - United Front of Thammasat and Demonstration” ได้แจ้งนัดการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร โดยระบุข้อความว่า CIA พร้อมรึยัง?นาตาชาพร้อมมั้ย?! 17:50 ที่สถานีรถไฟฟ้าทุกสถานี หากรัฐบาลไม่รับข้อเรียกร้อง ยังไม่ปล่อยเพื่อนเราทั้งหมดและยกเลิกพรก.ฉุกเฉิน เตรียมพร้อมรับ BIG SURPRISE! นอกจากนี้ ยังมีการให้ข่าวจะมีการชุมนุมที่บริเวณ5แยกปากเกร็ด จ.นนทบุรี ทางโรงเรียนชลประทานวิทยา อ.ปากเกร็ด ได้สั่งเลิกเรียนทันที เพราะจุดชุมนุมอยู่ใกล้กับที่ตั้งของโรงเรียน และอาจเกิดความไม่ปลอดภัยต่อนักเรียนได้

ม็อบขู่เจอบิ๊กเซอร์ไพรซ์

ต่อมาที่ทวิตเตอร์ @ธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้ประกาศข้อมูลระบุว่า “CIA พร้อมรึยัง นาตาชาพร้อมมั้ย?17:50 ที่สถานีรถไฟฟ้าทุกสถานี หากรัฐบาลไม่รับข้อเรียกร้อง ยังไม่ปล่อยเพื่อนเราทั้งหมดและยกเลิกพรก.ฉุกเฉิน เตรียมพร้อมรับBIG SURPRISE!”นอกจากนี้ ในโลกออนไลน์ยังนัดชุมนุมเพิ่มเติม อาทิ เดอะมอลล์บางแค ม.รามคำแหง หัวหมาก หน้าเดอะมอลล์บางกะปิและที่หน้าเนชั่น บางนา อีกด้วย

บางละมุงสวมเสื้อสีเหลือง

เช้าวันเดียวกัน ที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ประชาชนในเขตพื้นที่อำเภอบางละมุงและประชาชนชาวเมืองพัทยา ประกอบด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีเหลืองมาร่วมแสดงพลังรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ โดยมีนายอำนาจ เจริญศรี นายอำเภอบางละมุง คอยดูแลความสงบเรียบร้อย ทั้งนี้ ทั้งหมดได้มีการรวมกลุ่มกันกล่าวปฏิญาณตนแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันหลักของประเทศและร่วมกันร้องเพลงชาติไทย เพลงสรรเสริญพระบารมี แสดงเจตนารมณ์ในการช่วยกันปกป้องสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนคนไทยทั้งชาติ แม้สังคมไทยจะคิดต่างได้แต่ต้องไม่ก้าวล่วงสถาบัน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

ตร.รู้แล้ว! เร่งล่าเก๋งฮอนด้า ซิตี้ สีดำ ก่อเหตุยิงร้านชำดับที่สงขลา

'นฤมล'แจ้งข่าวดี ไทยถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม 'Low Risk' ตามกฎ EUDR เอื้อส่งออกสินค้าเกษตรไปยุโรปง่ายขึ้น

‘วรวัจน์‘ พึ่ง ChatGPT ป้อง 'ยิ่งลักษณ์' อ้างนโยบายรัฐใช้คำว่าขาดทุนไม่ได้

'ตั้ม วราวุธ'ออกจากห้องไอซียูแล้ว ผู้จัดการโพสต์ภาพยกมือไหว้ขอบคุณกำลังใจ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved