"สมศักดิ์"แจงตัด-ย้อมผม"รุ้ง"จนท.ห่วงเรื่องความสะอาด-ความปลอดภัย ยัน"3แกนนำ"สบายดีไม่ต้องห่วง ปัดต่อรองปล่อยตัวยุติชุมนุม
เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 26 ตุลาคม 2563 ที่รัฐสภา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม แถลงกรณีมีเผยแพร่ภาพพูดคุยกับแกนนำผู้ชุมนุมกลุ่มราษฎร 63 ที่ถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ว่า ที่ผ่านมาตนได้ติดตามการชุมนุมหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ว่ามีร่องรอยความเสียหาย หรือต้องซ่อมแซมอะไรหรือไม่ จึงถือโอกาสเข้าไปตรวจเยี่ยมในเรือนจำ และได้มีโอกาสสอบถามความเป็นอยู่และสารทุกข์สุขดิบของแกนนำทั้ง 3 คน คือ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง , นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน และ นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง ว่าได้รับความสะดวกสบายหรือไม่ ซึ่งได้รับการร้องขอกึ่งเล่าให้ฟังว่า อยากได้หนังสือ และเป็นห่วงเรื่องของการสอบ ตนจึงแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และประสานงานกับทางมหาวิทยาลัยให้ส่งหนังสือมาให้
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับความสะดวกสบายในเรือนจำของทั้ง 3 คนนั้น ก็เป็นไปตามอัตภาพ เพราะเป็นผู้ต้องหาก็ต้องมีการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ต่างๆ ส่วนข่าวที่ออกไปว่ามีการซอยผม ย้อมผมนั้น ก็ถือเป็นความห่วงใยของเจ้าหน้าที่ที่เห็นว่ามีความแตกต่าง โดยเฉพาะผู้ต้องขังที่อยู่ในเรือนจำหญิงกลาง เพราะเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียว เมื่ออยู่คนเดียว เจ้าหน้าที่เรือนจำจึงห่วงใย เพราะไม่ได้อยู่ด้วยตลอดเวลา เนื่องจากในห้องอยู่กัน 30 กว่าคน ค่อนข้างคับแคบ อาจไม่สะดวกสบายเหมือนอยู่ด้านนอก อย่างไรก็ตาม การตัดผม หรือซอยผมให้ อยู่ในมาตรฐานพอเหมาะ พอควร ก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับข้อห่วงใย การทำสีผมไม่ได้มีปัญหา แต่เป็นเรื่องความปลอดภัย และเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเชื้อโรคต่างๆ เพราะหากผมยาวและอยู่ในสถานที่คับแคบอาจมีปัญหาในเรื่องของเชื้อราได้ หรือเวลาอาบน้ำ ทั้งห้องใช้เวลาอาบน้ำเพียง 30 นาที ดังนั้น ด้วยเวลาจำกัดจึงไม่ควรไว้ผมยาว หรือไม่ควรจะมีสีผมแบบนี้ โดย น.ส.ปนัสยา ก็เข้าใจ ยืนยันว่าที่มีภาพข่าวออกมานั้นไม่มีอะไร ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง
เมื่อถามว่า ยืนยันใช่หรือไม่ว่าแกนนำผู้ชุมนุมยังอยู่ดีมีความปลอดภัย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า อยู่ดีทั้งหมดที่อยู่ในเรือนจำ 8 คน ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ 5 คน เรือนจำกลางบางขวาง 1 คน ทัณฑสถานหญิงกลาง 1 คน และเรือนจำกลางเชียงใหม่ 1 คน ทุกคนยังอยู่สบาย
เมื่อถามว่า มีการพูดคุยกันเรื่องอะไรบ้าง นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นการถามสารทุกข์สุขดิบ ขาดเหลืออะไร หรือมีปัญหาการเรียนการสอนอย่างไร
เมื่อถามว่า การพูดคุยกันนั้นเหมือนเป็นการเจรจาให้การชุมนุมยุติ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า คงไม่ถึงขนาดนั้น แต่ที่ไปเพราะไปดูว่าหน้าเรือนจำมีอะไรเสียหาย จะต้องดูแลหรือไม่ ก็ไปดูให้ครบทั้งในเรือนจำด้วย ซึ่งเป็นการไปดูหลังจากที่กลุ่มผู้ชุมนุมกลับไปแล้ว ไม่ได้เข้าไปในเรือนจำบ่อย ยืนยันว่า ตนต้องดูแลความเรียบร้อย เพราะรัฐบาลเป็นห่วงเรื่องสุขภาพและความเป็นอยู่ของผู้ต้องหา รวมถึงไม่อยากให้นายกรัฐมนตรีมาตำหนิตน และไม่คิดว่าจะให้เป็นข่าวใดๆ ทั้งสิ้น
เมื่อถามว่า ดูจากสภาพจิตใจของทั้ง 3 คน อุดมการณ์และท่าทีของทั้ง 3 คน เป็นอย่างไรบ้าง นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ได้พูดคุยถึงอุดมการณ์อะไรมากมาย เพียงแต่เราทำตามหน้าที่ เพื่อให้รู้ว่าเขาอยู่สบายหรือไม่ ส่วนมีการพูดคุยเพื่อขอให้ปล่อยตัวชั่วคราวหรือไม่นั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ทั้ง 3 คน ไม่ได้ขอจากตน เพราะเขาเข้าใจและรู้ดีว่าตนไม่ได้มีอำนาจอะไรที่เกี่ยวข้องกับตรงนี้ เพียงแต่อำนวยความสะดวกให้ตามสมควรเท่าที่จะทำได้เท่านั้น
เมื่อถามว่า มีมาตราการเตรียมการรับมืออย่างไรหากม็อบยังมาชุมนุมอยู่เรื่อยๆ หากแกนนำยังคงถูกคุมขังในเรือนจำต่อไปอีก นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ได้เตรียมตั้งรับอะไร แต่ในสถานที่ราชการม็อบต้องอยู่ข้างนอกอยู่แล้ว เพียงแต่ว่ามีการมาเพ้นท์สีหน้าเรือนจำ ซึ่งตนอยากบอกว่าอย่าไปเพ้นท์เลยเสียดายสี
เมื่อถามว่า ผมสีทองไม่ปลอดภัยอย่างไร นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ผู้ต้องหาส่วนใหญ่ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษบางคนเทิดทูน และอาจจะมีความเห็นต่างจากกลุ่มผู้ชุมนุม จึงไม่อยากให้เกิดปัญหา ส่วนกลุ่ม 32 คน ที่เป็นผู้ต้องหาใหม่ต้องกักตัว 14 วัน ถ้าเราไม่มีห้องกักโรคก็จะทำให้เชื้อติดกันได้ง่าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี