“ส.ส.วิโรจน์” อภิปรายโวยรัฐบาลไม่ฟังเสียงประชาชน ปลุกความเกลียดชัง ยัดเยียดฝ่ายตรงข้ามเป็นปีศาจ ผลิตเหตุการณ์ 6 ตุลา “ถวิล” ลุกโต้ทันควัน ปี53 ไม่มีล้อมปราบ
27 ตุลาคม 2563 ที่รัฐสภา มีการประชุมรัฐสภาเพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินตามรัฐธรรมนูญมาตรา 165
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ความแตกต่างเป็นเรื่องปกติของสังคม จะบังคับให้มีความคิดเห็นให้เหมือนกันนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้ แต่จุดยืนที่ต้องมีร่วมกัน คือ การอยู่ร่วมกันบนความแตกต่าง เราไม่สามารถกำจัดคนเห็นต่างออกไปได้ ท่าทีของรัฐบาลมีความสำคัญมาก เพราะต้องใช้กลไกรัฐสภาคลี่คลายปัญหาและสร้างพื้นที่ปลอดภัยเพื่อพูดคุยกันอย่างมีวุฒิภาวะ จะทำให้ความหวาดระแวงลดลง ทว่ารัฐบาลกลับทำตรงข้าม คือ ไม่ฟังเสียงประชาชน และคิดว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรผิด พร้อมกับใช้กฎหมายดำเนินคดี และปิดกั้นการทำงานของสื่อมวลชน
“ที่ให้อภัยไม่ได้ คือ การผลิตซ้ำเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 เอาประเด็นอ่อนไหวมาปลุกให้ประชาชนเกลียดชังกัน มาจนถึงเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 ที่ราชประสงค์ ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ บอกตัวเองว่าการชุมนุมมีเบื้องหลัง และสร้างปีศาจให้อีกฝั่งเป็นศัตรู จงใจสร้างไม่สงบขึ้นมาเอง และใช้อำนาจพิเศษ รัฐบาลที่มาจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้เป็นรัฐบาลเพื่อประชาชน ผมทราบหัวใจประชาชนดีว่าอึดอัดแทบจะระเบิด แต่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อเงื่อนไขของความขัดแย้ง คนมีความคิดเห็นแตกต่างมีสิทธิแสดงออก ประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมต้องเข้าใจก่อนว่าการชุมนุมเกิดขึ้นเพราะมาจากการถูกกดทับอย่างไม่เป็นธรรม การแก้ไขปัญหานี้จะใช้อำนาจนิยมแบบเดิมไม่ได้ แต่ต้องพูดคุยอย่างเข้าใจอย่างมีสายใยต่อกันทั้งครอบครัว และเพื่อน” นายวิโรจน์ กล่าว
นายวิโรจน์ กล่าวว่า เรื่องการปฏิรูปสถาบันย่อมสามารถพูดคุยกันได้อย่างมีเหตุผลและลดความหวาดระแวงซึ่งกันและกัน วันนี้ยังมีทางออกโดยการสร้างบรรยากาศแห่งความไว้วางใจและสร้างพื้นที่ปลอดภัย การพูดคุยเพื่อหาทางออกเกี่ยวกับการปฏิรูปในเรื่องใดๆย่อมมีโอกาสหาฉันทามติร่วมกัน ยืนยันว่ายังไม่สายไปจริงๆ
“ขอเรียกร้องให้นายกฯลาออกและพรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลและเลือกนายกฯคนใหม่ที่เป็นอิสระจาก คสช.เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยการให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญและยุบสภา นายกฯเสียสละเถอะครับ เพื่อให้ประชาชนได้เริ่มนับอนาคตของเขาไปข้างหน้า” นายวิโรจน์ กล่าว
ด้านนายถวิล เปลี่ยนศรี สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ได้ประท้วงการอภิปรายของนายวิโรจน์ โดยอ้างว่านายวิโรจน์อภิปรายด้วยข้อมูลคลาดเคลื่อน เช่น การนำเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ไปเปรียบเทียบกับเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 เพราะเหตุการณ์ปี 2553 ไม่ได้ล้อมปราบประชาชน
แต่นายชวน กล่าวว่า เมื่อเหตุใดไม่เกี่ยวข้องหรือพาดพิงนายถวิลโดยตรง ย่อมไม่เป็นเหตุที่จะประท้วงได้ อย่างไรก็ตาม นายชวน ได้ให้สิทธินายถวิลชี้แจงในฐานะเป็นอดีตเลขานุการ ศอฉ.เมื่อปี 2553
โดยนายถวิล ชี้แจงว่า รัฐบาลขณะนั้นพยายามแก้ไขปัญหาการชุมนุมโดยไม่มีการล้อมปราบแม้แต่ครั้งเดียว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี