"วิปรัฐบาล"ยกโมเดลปี52 ชงตั้งคณะกรรมการปรองดองฝ่าวิกฤตประเทศ ยัน"นายกฯ"ไม่ต้องลาออก เพราะผลงานชัดเจน
เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2563 ที่รัฐสภา นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) อภิปรายสรุปว่า คนที่ไปชุมนุมก็ฟังแต่มือถือ ฟังคำสั่งจากมือถือ ดูแต่มือถือ ต้องมีคนสั่งการมา เราจึงเห็นการชุมนุมที่เป็นรูปแบบใหม่ ส่วนการสลายการชุมนุม มีการเตือนผู้ชุมนุมว่าจะฉีดน้ำ และเวลาฉีดก็ฉีดขึ้นไปข้างบน ผู้ชุมนุมก็เฮ น้ำตกลงมาโดนร่ม ร่มก็เป็นเหมือนเดิม น้ำก็เป็นความดันต่ำ แต่ถ้าดูภาพจะเห็นทั้งคีมและค้อนที่กระทำต่อเจ้าหน้าที่ มีการบอกว่ามีการใส่สีในน้ำที่ฉีด ตนไปถามว่าสีอะไร มีใครเข้าโรงพยาบาลหรือไม่ ก็มีผู้ชุมนุมมีรายเดียวที่เยื่อตาอักเสบ แต่เจ้าหน้าที่มีบาดเจ็บหลายราย โดนทั้งคีม ทั้งก้านร่ม แต่เจ้าหน้าที่เขาถือว่าผู้ชุมนุมคือลูกหลาน พยายามอดทนอดกลั้น
อย่างไรก็ตาม ความเห็นที่แตกแยกเกิดเป็นสงครามระหว่างวัย ความแตกแยกที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะสถาบันครอบครัว จากความรักและความเข้าใจกลายเป็นความไม่เข้าใจ พ่อแม่อาจจะเป็นห่วงลูก แต่ลูกก็อาจจะมีความคิดเป็นตัวของตัวเอง หลายคนบอกว่าให้นายกรัฐมนตรีลาออก แต่ตนมีความเห็นว่า นายกฯ ไม่ต้องลาออก เพราะถ้าลาออกแล้วสภาเลือกนายกฯ คนเดิมกลับมาจะทำยังไง ที่ผ่านมานายกฯ ตั้งใจทำงาน เช่น เรื่องการควบคุมการระบาดของโควิด-19 จนมาเป็นอับดับต้นของโลก เป็นเหตุหลักที่ท่านสมควรอยู่ต่อ นายกฯ มาจากกระบวนการประชาธิปไตยที่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ 2560 นายกฯ บอกว่าถอยมาแล้วหนึ่งก้าว ตนก็คิดว่าความจริงอาจจะถอยมาแล้วหลายก้าว
"ผมเห็นว่าควรตั้งคณะกรรมาธิการปรองดอง เหมือนปี 2552 ในสมัย นายชัย ชิดชอบ เป็นประธานรัฐสภา และทำอย่างไรว่ากรรมการชุดนี้จะสร้างความรักความปรองดองให้เกิดขึ้น ใกล้เคียงกับรูปแบบที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นผู้เสนอ แต่ให้เพิ่มเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญเข้ามา ผมจึงขอเสนอตั้งคณะกรรมการปรองดอง" ประธานวิปรัฐบาล กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี