“วิษณุ” ปัดตอบความเห็น “อานันท์” บอกอย่าเอาความคิดคนหนึ่งไปถามอีกคนมันจะบานปลาย ชี้ คณะกรรมการสมานฉันท์ต้องทำหน้าที่รับทุกความเห็นเพื่อนำมาหาทางออก แต่อาจไม่จบในทีเดียว
เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2563 เวลา 10.00น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ปฏิเสธให้ความเห็นกรณี นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกฯออกมาให้ความเห็นว่า รัฐบาลควรฟังเสียงกลุ่มผู้ชุมนุมว่า ตนไม่ทราบ ตนยังไม่ได้อ่านความเห็นดังกล่าว จึงยังไม่รู้เรื่อง และไม่รู้จะพูดอย่างไร
“อย่าไปเอาสิ่งที่ใครคนหนึ่งพูด แล้วเอามาถามต่ออีกคนหนึ่งเลย มันจะทำให้เกิดความบานปลาย เพราะถือว่า เป็นความคิดเห็นหนึ่ง” รองนายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่า คำพูดของนายอานันท์ อาจไปเพิ่มความชอบธรรมให้กลุ่มผู้ชุมนุม นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่ขอวิจารณ์
เมื่อถามอีกว่า ข้อเสนอของนายอานันท์น่าจะเป็นทางออกหนึ่งของประเทศในขณะนี้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ดีแล้ว ซึ่งถ้าตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ฯขึ้นมา ทุกอย่างก็ควรไปสู่ที่ตรงนั้นและสามารถรับเอาความคิดเห็นของใครต่อใครมา แล้วมาคิดดูว่า จะหาทางออกอย่างไร
เมื่อถามว่า ในส่วนของฝ่ายค้าน ดูเหมือนจะชัดเจนแล้วว่า จะไม่เข้าร่วมกับคณะกรรมการสมานฉันท์ฯด้วย จะเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่รู้สึกว่า เขายังไม่ได้ปฏิเสธการเข้าร่วมเลย เพราะเขาเองก็ยังไม่เห็นรูปแบบว่า เป็นอย่างไร ตอนนี้ทุกคนยังไม่รู้ว่า หน้าตาของคณะกรรมการชุดนี้จะเป็นอย่างไร อย่าว่าแต่ฝ่ายค้านเลย ฝ่ายไหนก็ยังไม่เห็นรูปแบบ เพราะฉะนั้นก็คงจะลังเลกันอยู่
เมื่อถามว่า ส่วนตัวอยากให้ทุกฝ่ายเข้าร่วมหรือไม่เพื่อหาทางแก้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะรัฐบาลไม่ได้เป็นคนตั้ง
“อย่าเพิ่งไปพูดตอนนี้เลย ตีปลาหน้าไซพูดซะตอนนี้เดี๋ยวก็จะตื่นตกใจกันหมดว่า มีเล่ห์กระเท่ห์อะไรแอบแฝงหรือไม่ ในส่วนของรัฐบาลจะเข้าร่วมหรือไม่นั้น ตอนนี้ยังไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้นและยังไม่ได้มีการวางอะไรไว้ เพราะยังไม่รู้เลยว่า จะทำอะไร ประกอบด้วยใครบ้าง ถ้ารู้แล้ว แล้วเขาขอให้มีตัวแทนจากรัฐบาลเราก็คงต้องเอามาพูดกันในคณะรัฐมนตรี” รองนายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่า มีการวิจารณ์ว่าการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์เป็นการซื้อเวลา นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบว่า เรียกว่าคณะกรรมการสมานฉันท์หรือไม่ แต่เท่าที่ฟังในการประชุมรัฐสภาทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลก็มีความเห็นตรงกันให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูในเรื่องเหล่านี้ โดยเอาทุกปัญหาขึ้นมาพูด โจทย์ที่จะส่งไปให้คณะกรรมการฯ มีหลายข้อ รวมทั้งข้อเสนอที่จะให้ไปฟังความเห็นจากประชาชนด้วยการทำประชามติ เพียงแต่มีคนติง ซึ่งตนก็เป็นคนหนึ่งที่ติงว่าตามมาตรา 166 รัฐบาลอาจมีการสอบถามความเห็นประชาชน ผ่านทางการทำประชามติหรือประชาพิจารณ์อะไรก็ได้ แต่การตั้งคำถามต้องไม่เป็นเรื่องบุคคล ดังนั้นถ้าตั้งโจทย์เป็น ก็อาจจะได้คำตอบให้กับสังคมโดยไม่เกี่ยวกับเรื่องตัวบุคคล พยายามตั้งให้เป็นหลักการ เพราะฉะนั้นจะเรียกว่าคณะกรรมการสมานฉันท์หรือไม่ตนไม่รู้
“ที่วิจารณ์กันว่า ซื้อเวลานั้น ผมคิดว่า ทุกอย่างต้องใช้เวลาทั้งนั้น เพียงแต่ว่า ถ้าใช้เวลานานเกินไปมันก็ซื้อ ถ้าใช้เวลาไม่นานมันก็ไม่ได้ซื้อ แต่อย่าไปหวังว่าทุกอย่างจะจบที่คณะกรรมการชุดนี้ ไม่ใช่พอจบแล้วก็เลิก แฮปปี้แล้ว มันคงไม่ใช่แบบนั้นแน่ การเสนอทางออกอาจจะเป็นหลายทางก็ได้” รองนายกฯ ระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี