เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2563 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี แกนนำและประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา กล่าวสนับสนุนให้มีการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ เพื่อความปรองดอง ถือเป็นเรื่องที่ดี ตนเชื่อว่าสันติภาพทุกอย่างมาจากการเจรจา และบทบาทเรื่องนี้ถ้าสภาฯได้เป็นผู้เริ่มต้นในการให้มีคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อมาหาทางออกเป็นเรื่องที่ดี ไม่มีอะไรขาดทุนและไม่มีอะไรเสียหาย หากไม่ประสบความสำเร็จก็เท่าทุน แต่ถ้าประสบความสำเร็จสักเรื่องหรือสองเรื่องมันก็ช่วยลดความขัดแย้งลงมาได้ แต่การที่เกิดคณะกรรมการชุดนี้แล้วจะทำให้ได้รับความเชื่อถือและเกิดความหวังหรือไม่มันขึ้นกับองค์ประกอบถ้ามีความชอบธรรมที่มาจากสภาฯ และมีตัวละครหรือ Stakeholders ผู้ที่เกี่ยวข้อง ผู้มีส่วนได้เสียมาอยู่ในนี้ให้ครบ และมีความตั้งใจ มีความจริงใจจริงๆ ที่จะให้คณะกรรมการชุดนี้เป็นเวทีหาทางออก และต้องมีแผนมีไทม์ไลน์ที่ชัดเจนว่า คณะกรรมการชุดนี้จะศึกษาและหาทางออก จะพูดคุยกันให้จบภายในเมื่อไหร่ และมีแนวทาง มีแผนปฏิบัติที่ต้องชัดเจน เพื่อทำให้สังคมมีความเชื่อถืออันนี้มีความสำคัญมาก
นายสุวัจน์ กล่าวว่า เราเคยมีคณะกรรมการลักษณะนี้มา 3-4 ชุดแล้วในอดีต แต่ว่าไม่ค่อยมีการนำผลของข้อสรุปของคณะกรรมการแนวทางนี้มาใช้ หรือมาปฏิบัติให้เกิดความสำเร็จ ตนว่าวันนี้วิกฤติของบ้านเมือง เรามีวิกฤติเศรษฐกิจ และยังมีวิกฤติความเห็นที่ต่างกัน ดังนั้นการมีความคิดเห็นดีๆ ประสบการณ์ของแต่ละคน ใจกว้างพอที่จะรับฟัง ข้อคิดเห็น และเสียสละ ตนคิดว่าจะทำให้สังคมค่อยๆปรับตัวไปสู่ความเรียบร้อย ความขัดแย้งก็ลดลงไป เพียงแต่ขอว่ามีไทม์ไลน์ให้ชัดเจน ดึงตัวละครที่เกี่ยวข้องมาให้มากที่สุด อย่ามีทิฐิกัน และมา brainstorm หาทางออก ถอยกันคนละก้าว ได้ข้อสรุป-แนวทาง-แผนปฏิบัติที่ชัดเจน ก็เชื่อว่าจะช่วยลดความชัดแย้งได้ นี่คือหลักการในระบอบประชาธิปไตย โดยสภาฯเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหา
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยและแกนนำหรือตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมจะต้องเข้ามาร่วมในคณะกรรมการฯนี้ด้วยหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่าก็ต้องแล้วแต่ออแกไนเซอร์ สมมุติให้สถาบันพระปกเกล้าเป็นออแกไนเซอร์ก็ต้องไปดีไซน์ออกแบบว่าใครบ้างที่จะเข้ามาอยู่ในนี้ และก็ต้องมีวิธีการในการเชื้อเชิญเพื่อให้เกิดความร่วมมือ และยิ่งหลายฝ่ายที่อยากจะแสดงความคิดเห็นหรือเสนอข้อคิดเห็นว่าสังคมไทยยังไม่เรียบร้อยอย่างไร หรือยังเหลื่อมล้ำอย่างไร เรื่องเศรษฐกิจเป็นอย่างไร ตนว่าถ้ามากันหลายๆฝ่าย และเป็นตัวแทนที่มีความชอบธรรม และทุกคนมาร่วมกันระดมความคิดเห็นช่วยกันหาทางออก ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดี และถึงแม้ว่าไม่ประสบความสำเร็จก็ไม่ต้องท้อถอย เพราตนเชื่อว่าอย่างน้อยๆ ก็ต้องมีอะไรติดไม้ติดมือมาบ้าง แล้วยิ่งถ้ามีความจริงใจ มีความชอบธรรมจากสภาฯเป็นผู้ก่อกำเนิดคณะกรรมการชุดนี้เชื่อว่าหลายฝ่ายก็อยากจะให้ความร่วมมือก็เสียสละกันบ้าง
ส่วนที่มีการระบุว่า เป็นการยื้อเวลา ที่ทั้งกลุ่มผู้ชุมนุมและพรรคเพื่อไทยต้องการให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกก่อนถึงจะเดินหน้าได้นั้น นายสุวัจน์ กล่าวว่า ตนคิดว่าเรื่องนี้พล.อ.ประยุทธ์ ได้ชี้แจงในที่ประชุมแล้ว ข้อเรียกร้องบางข้อก็อาจจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับส่วนรวม เป็นเรื่องของบุคคลของละคน แต่ว่าโดยภาพรวมของประเด็นถ้าเรามาร่วมมือกันหาทางออก ใจกว้างที่จะรับฟังความคิดเห็น และเสียสละกันบ้าง หรือถอยกันคนละก้าวก็น่าที่จะเป็นเรื่องที่ดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี