‘กมธ.ตำรวจ’เรียก ‘ผบ.ตร.-ผบช.น.’ แจง 3 ปมคุมผู้ชุมนุม 5 พ.ย.นี้ หวั่น ‘ม็อบชนม็อบ’ เป็นน้ำผึ้งหยดเดียว ทำบานปลาย
3 พฤศจิกายน 2563 ที่รัฐสภา นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ(กมธ.) การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ตามที่มีการชุมนุมของประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครจนเป็นเหตุให้นายกรัฐมนตรีได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความรุนแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2563 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ สามารถใช้มาตรการเร่งด่วนเข้าระงับยับยั้งการกระทำที่อาจนำไปสู่ความไม่สงบเรียบร้อย กระทั่งเหตุการณ์อันเป็นเหตุให้ดำเนินการดังกล่าวได้คลี่คลายความรุนแรงและยุติลง ประกอบกับเจ้าหน้าที่ของรัฐสามารถดำเนินการบังคับใช้มาตรการตามที่กำหนดในกฎหมายต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาได้ตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีจึงได้ยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ในระยะเวลาที่มีการชุมนุม ของประชาชน ทั้งในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงและช่วงเวลาปกติ เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นกำลังหลักและมีบทบาทสำคัญในการเข้าควบคุมสถานการณ์ให้สงบเรียบร้อย
โฆษก กมธ.ตำรวจ กล่าวต่อว่า กมธ.การตำรวจ มีความห่วงใยต่อความปลอดภัยของผู้ชุมนุม และเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อดูแลและควบคุกลุ่มผู้ชุมนุมภายใต้กรอบและมาตรการตามกฎหมาย จึงได้กำหนดจะพิจารณาเรื่องมาตรการและแนวปฏิบัติในการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อควบคุมการชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพมหานครและพื้นที่อื่นๆ โดยในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2563 เวลา 10.00น. จะเชิญผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) มาชี้แจงใน 3ประเด็นหลัก คือ 1.ขั้นตอนในการปฏิบัติตมที่กฎหมายกำหนดในการดูแล และควบคุมการชุมนุมสาธารณะ 2.มาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยกรณีเกิดการเผชิญหน้ากันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุม 3.ขั้นตอนการดำเนินการของจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อควบคุมสถานการณ์การชุมนุมในระหว่างการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ก็จะมีการถามเรื่องการฉีดน้ำผสมสี รวมถึงเรื่องเบี้ยเลี้ยงของข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อย ที่ปรากฏออกมาตามสื่อต่างๆ
“กมธ.การตำรวจมีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ปัจจุบันที่มีม็อบชนม็อบ หรือมีการทำร้ายบุคคลที่ไปเดินในม็อบฝั่งตรงข้าม อาทิ สีเสื้อ หรือการเข้าไปแสดงสัญลักษณ์ จึงอยากถามว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีมาตรการเตรียมรับมือในเรื่องนี้อย่างไร เพราะถ้ามีการทำร้ายร่างกายแม้แต่คนเดียวก็เกรงว่าจะเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวทำให้สถานการณ์บานปลายได้ ซึ่งทางตำรวจ หรือสายสืบ ควรระวังจุดนี้เป็นพิเศษ เนื่องจากเสี่ยงอันตรายมาก ” โฆษก กมธ.ตำรวจ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี