"โรม"ซัดรัฐบาลสองมาตรฐานดูแล"ม็อบราษฎร-เสื้อเหลือง" เหน็บฝังหนึ่งเสิร์ฟน้ำ อีกฝั่งฉีดน้ำ พร้อมถามหาคนหักค่าหัวคิวเบี้ยเลี้ยงตำรวจ "บิ๊กช้าง"แจงเสื้อเหลืองรับเสด็จฯ ไม่ใช่ม็อบแต่ร่วมงานราชพิธี ยันนโยบายนายกฯดูแลตำรวจเต็มที่
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 4 พฤศจิกายน 2563 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญ นัดแรก มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม พิจารณาวาระกระทู้ถามสด ของ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ถามพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ว่า กรณีการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เพื่อสลายการชุมนุมของประชาชนในพื้นที่กทม.หลายครั้ง ที่ไม่ได้ขอหมายจากศาล และการดำเนินคดีของแกนนำผู้ชุมนุมและแนวร่วมตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 เพราะการชุมนุมทางการเมืองวันนี้ มีหลายกลุ่มทั้งคนเสื้อเหลือง และกลุ่มราษฎร โดยกลุ่มคนเสื้อเหลือง พบจัดกิจกรรมในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดโดยเป็นข้าราชการและบุคลากรท้องถิ่น โดยคำชักชวนของรัฐมนตรีบางพรรคและผู้ว่าราชการจังหวัด พบการอำนวยความสะดวกอย่างดีจากรัฐ ไม่มีการสลายการชุมนุม บางกลุ่มเผยแพร่ผ่านเพจกรมประชาสัมพันธ์ และใกล้เขตพระราชฐาน ขณะที่กลุ่มราษฎร ที่ถูกกระทำโดยเจ้าหน้าที่รัฐ ถูกทำร้ายจากคนอีกกลุ่ม แต่ไม่ได้รับความสะดวก พบการสลายการชุมนุมและนำรถผู้ต้องขังมารอรับ
"ดังนั้น ขอตั้งคำถามเกี่ยวกับมาตรฐานการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รัฐที่สองมาตรฐาน ฝั่งหนึ่งเสิร์ฟน้ำให้ อีกฝั่งฉีดน้ำใส่ ฝั่งหนึ่งมีรถห้องน้ำ อีกฝั่งมีรถผู้ต้องขังและอยากทราบว่าจนถึงวันนี้มีการดำเนินคดีกับกลุ่มคนเสื้อเหลืองที่ไปทำร้ายร่างกายนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยารามคำแหงว่ามีการดำเนินคดี แล้วหรือยัง นี่คือม็อบมีเส้นหรือไม่" นายรังสิมัต์ กล่าว
ด้าน พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ชี้แจงแทนนายกฯ โดยยืนยันว่าการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่เป็นไปตามกฎหมาย และใช้หลักการสากล อาทิ การชี้แจง การเจรจา และได้เตรียมหมอ พยาบาล เครื่องมือที่ใช้ดำเนินการ ซึ่งเป็นไปตามประกาศของนายกฯที่ยึดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการชุมนุมในที่สาธารณะ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลห่วงใยในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามขั้นตอน ดูแลความปลอดภัยตามกฎหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่เช่นนั้นจะถูกร้องเรียนว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และเจ้าหน้าที่ต้องให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย รัฐบาลตระหนักถึงการใช้สิทธิและเสรีภาพของประชาชนที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ แต่ตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแม้รับรองสิทธิเสรีภาพ แต่มีเงื่อนไขคือต้องเป็นไปตามกฎหมายและไม่ละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น โดยเฉพาะพฤติกรรม ยั่วยุ ก้าวร้าว ก้าวล่วง เพื่อสร้างความเกลียดชังที่จะเป็นชนวนสร้างความแตกแยกในสังคม
พล.อ.ชัยชาญ ชี้แจงต่อว่า การตัดสินใจขอคืนพื้นที่ วัในนที่ 13 ต.ค.ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพราะมีหมายกำหนดการขบวนเสด็จ เวลา 15.00 น.เจ้าหน้าที่จึงตรวจพื้นที่ เข้าเจรจาให้ผู้ชุมนุมรวมตัวบนทางเท้า เพื่อให้ปลอดภัยอย่างสมเกียรติ และก่อนจับกุม ได้เจรจาโดยเจ้าหน้าที่ใช้ความอดทน แม้จะถูกสาดสี ส่วน วันที่ 14 ต.ค.มีคำถามเส้นทางหลัก เส้นทางรอง ยอมรับว่าเจ้าหน้าที่หารือเพื่อปรับแนวทาง โดยเส้นทางรองต้องผ่านผู้ชุมนุมจำนวนมากเช่นกัน หากจะปรับทางอื่นต้องวางกำลังใหม่ อาจทำได้ไม่เรียบร้อย ดังนั้น ทุกหน่วยงานได้วางแผนอย่างละเอียดรอบคอบ ส่วนการขอคืนพื้นที่ วันที่ 16 ต.ค.ที่แยกปทุมวัน เป็นการปฏิบัติตามขั้นตอน
พล.อ.ชัยชาญ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีของคนเสื้อเหลืองที่แสดงความจงรักภักดี เป็นความรู้สึกของประชาชนที่แสดงความเห็นปกป้องสถาบันที่คนไทยทุกคนเชิดชู กรณีที่บอกว่าเมื่อมาแล้วทำไมดูแลอำนวยความสะดวกให้ เพราะวันที่ 1 พ.ย.มีพระราชพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้วมรกต ถือว่าประชาชนมาร่วมงานพระราชพิธี ไม่เข้าข่ายการชุมนุมตาม พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะ ทั้งนี้มีบางกลุ่มแจ้งการชุมนุมและไม่แจ้งการชุมนุม ดังนั้นเจ้าหน้าที่ดูแลตามกรอบกฎหมาย อย่างเท่าเทียมกัน
ทั้งนี้ นายรังสิมันต์ ได้กล่าวว่า ตนผิดหวังในคำตอบ เพราะต้องการทราบชื่อว่าใครสั่งการ ผิดหวังต่อการสลายการชุมนุม และผิดหวังต่อการไม่ดำเนินคดีคนเสื้อเหลือง ที่ถูกมองว่าเป็นม็อบมีเส้น ซึ่งทำร้ายกลุ่มราษฎรที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง และขอให้ระวังเพราะพูดเหมือนกับการชุมนุมและการรับเสด็จเป็นการกระทำแบบเดียวกัน
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ทราบว่าการดูแลพื้นที่มีเจ้าหน้าที่จากต่างจังหวัดถูกเกณฑ์เข้ามาดูแลสถานการณ์ จำนวน 1.4 หมื่นนาย และเชื่อว่าจะใช้งบประมาณต่อวัน ถึง 8.4 แสนบาท จึงขอทราบถึงงบประมาณที่ดำเนินการ และการร้องเรียนจากตำรวจที่ปฏิบัติงาน ที่ระบุว่าพบการหักหัวคิวเบี้ยเลี้ยงเจ้าหน้าที่ โดยตำรวจแต่ละนายได้รับค่าอาหารเป็นจำนวน 60 บาทต่อกล่อง แต่เมื่อเปิดดูหน้าตาอาหารต่อกล่อง มีแค่ปีกไก่ 1 ชิ้ง บางกล่องมีแค่ไข่ต้มกับน้ำพริก ดูแล้วมีความผิดปกติ เพราะส่งตำรวจมาปฏิบัติหน้าที่แต่ไม่ดูแลให้สมศักดิ์ศรี ตำรวจที่มาปฏิบัติหน้าที่ถูกประชาชนด่าเพื่อปกป้องคนที่สั่งการให้ได้หน้า เป็นเรื่องที่ถูกต้องหรือไม่ อยากทราบว่ามีการหักค่าหัวคิว ค่าเบี้ยงเลี้ยง ค่าอาหารจริงหรือไม่
พล.อ.ชัยชาญ ชี้แจงว่า เจ้าหน้าที่ดำเนินการกับทุกกลุ่ม โดยการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจจากต่างจังหวัดนั้น เพราะตำรวจควบคุมฝูงชนมีไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติตามแผน จึงต้องผลัดเปลี่ยนกำลังจากต่างจังหวัดมาช่วยปฏิบัติการ ส่วนอาหารนั้น เป็นนโยบายสำคัญของนายกฯที่ให้ดูแลสิทธิ ที่อยู่ เบี้ยเลี้ยง และอาหารเต็มที่ ซึ่งหมุนเวียน 15 - 20 วัน ส่วนการตรวจสอบหักหัวคิวนั้น ผบ.ตร.ตรวจสอบข้อเท็จจริง บางส่วนเบิกจ่ายงบประมาณ โดยไม่ได้เบิกจ่ายตามงบประมาณ แต่เป็นการบริหารงานของหน่วยงาน ทั้งนี้มีนโยบายให้ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างเต็มที่เพื่อขวัญและกำลังใจในการทำงาน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี