“หญิงหน่อย”ผุด3ทางออกประเทศ แนะออกกฎหมายฝ่าวิกฤตขัดแย้ง จี้เร่งพิจารณาแก้รธน.ขีดเส้นธ.ค.นี้ “บิ๊กตู่”ต้องเสียสละออกไป
เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2563 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานก่อตั้งสถาบันสร้างไทยกล่าวถึงกรณีการแสวงหาทางออกให้ประเทศที่ประธานรัฐสภาเสนอให้มีการจัดตั้ง”คณะกรรมการสมานฉันท์”โดยให้สถาบันพระปกเกล้าเป็นผู้ดำเนินการนั้น ว่า หากจะมีการจัดตั้งกรรมการชุดนี้จริง พล.อ.ประยุทธ์ต้องแสดงความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหา และ ต้องการแสวงหาทางออกให้กับประเทศอย่างแท้จริงก่อน โดยต้องออกเป็น”พระราชกำหนด”ในการตั้งคณะกรรมการชุดนี้ และกำหนดระยะเวลาในการทำงานของคณะกรรมการชุดนี้ให้สั้นที่สุด เช่นไม่เกิน 5 เดือน โดยนำหลักความยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่าน (Transitional Justic) และความยุติธรรมในเชิงสมานฉันท์ (Retroactive Justice) ที่ทั่วโลกใช้มาใช้เป็นหลักการและแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้ประสบความสำเร็จ เพื่อให้ทุกฝ่ายมีความไว้วางใจที่จะเข้ามาร่วมพูดคุยแสวงหาทางออกให้ประเทศร่วมกัน โดยให้ผู้พูดคุยมั่นใจว่าจะสามารถพูดคุยได้อย่างปลอดภัย และนำข้อเสนอที่เห็นพ้องกันแล้วไปสู่การปฏิบัติจริง
โดยเสนอให้รัฐบาลออกกฎหมายที่มีหลักการสำคัญ ประกอบด้วย 1.ให้พนักงานสอบสวน อัยการ และผู้พิพากษา พักการดำเนินคดีแก่ผู้ชุมนุมทางการเมืองไว้เป็นการชั่วคราวในระหว่างการพูดคุย หากผู้ชุมนุมถูกควบคุมตัวให้ปล่อยตัว เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องได้เข้าสู่เวทีเจรจาโดยไม่ต้องพะวงกับการถูกตามจับ หรือถูกออกหมายจับเรื่อยๆ เหมือนเป็นการกลั่นแกล้ง
2.ให้ผู้ที่พูดคุยเจรจาในเวทีที่รัฐสภาตั้งขึ้นได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครองในอันที่จะไม่ถูกฟ้องทั้งในทางแพ่งหรือทางอาญา เพื่อให้เป็นเวทีปลอดภัยที่ทุกฝ่ายจะสามารถพูดคุย และเสนอข้อเรียกร้อง อันจะทำให้ทุกเรื่องได้คุยกันในคณะกรรมการ แทนการพูดในที่สาธารณะ ที่ไม่ปลอดภัย และอาจผิดกฎหมาย
และ3.เพื่อให้ข้อเสนอของที่ประชุมนำไปสู่การปฏิบัติ โดยมีการกลั่นกรอง ให้นำข้อเสนอของที่ประชุมเข้าพิจารณาในที่ประชุมรัฐสภา หากที่ประชุมเห็นด้วยในประเด็นใดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปปฏิบัติ หากไม่ปฏิบัติให้เป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ
“แบบนี้ดิฉันเชื่อว่าทุกฝ่ายจะเข้าสู่เวทีพูดคุยโดยไม่มีข้อรังเกียจ อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญคือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พล.อ.ประยุทธ์และสมาชิกวุฒิสภาต้องแสดงความจริงใจ และรับผิดชอบต่อปัญหาของรัฐธรรมนูญฉบับสืบทอดอำนาจ ที่ฝ่ายพล.อ.ประยุทธ์ สร้างขึ้น ด้วยการนำมาร่างแก้ไขทั้ง 7 ร่าง ที่เสนอโดยพรรคฝ่ายค้าน พรรครัฐบาล และร่างของภาคประชาชน ที่ผ่าน ILaw มาพิจารณาในรัฐสภาให้แล้วเสร็จ ทั้ง 3 วาระภายในต้นเดือนธันวาคม”
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า โดยเฉพาะสองมาตราสำคัญคือ ม. 256 เพื่อให้มีการเลือกสสร.จากประชาชน และ ม. 272 เพื่อตัดอำนาจ สว. ไม่ให้มีสิทธิ์ในการเลือกนายกรัฐมนตรี อีกต่อไป
ซึ่งหลังการแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านวาระที่ 3 ในต้นเดือนธันวาคม พล.อ.ประยุทธ์ ควรเสียสละลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อให้วิกฤติความขัดแย้งของชาติที่มีตัวพลเอกประยุทธ์เป็นศูนย์กลาง ได้ยุติลง
จากนั้นให้เร่งดำเนินการเลือกสสร. เพื่อให้เป็นตัวแทนประชาชน มาร่างรัฐธรรมนูญฉบับของประชาชนให้แล้วเสร็จภายใน 8 เดือน เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนได้มีโอกาสเลือกตั้งใหม่ ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี