‘ก้าวหน้า’หนาว
‘ศรีสุวรรณ’ร้องกกต.เอาผิด
เชือดซ้ำ‘ธนาธร-ปิยบุตร-ช่อ’
“ศรีสุวรรณ” ร้อง กกต.จี้เอาผิด “ธนาธร-ปิยบุตร-ช่อ”ตั้งกลุ่มคณะก้าวหน้าส่งผู้สมัคร เลือกตั้ง อบจ.เหตุดำเนินกิจกรรมคล้ายพรรคการเมือง ระบุมีความผิด พ.ร.ป.พรรคการเมือง ม.111 ชี้ผู้สมัครในนามคณะก้าวหน้ามีหนาว ย้ำ กกต.มีอำนาจเอาผิดลงโทษ เพิกถอนสิทธิการลงสมัคร ขณะที่ กกต.ราชบุรี-เมืองกาญจน์ติวเข้มรับเลือกตั้งท้องถิ่น
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ยื่นหนังสือต่อกกต.ขอให้ตรวจสอบคณะก้าวหน้า ที่มีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นประธานคณะก้าวหน้า และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เป็นกรรมการ และน.ส.พรรณิการ์ วาณิช เป็นโฆษก กรณีส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)ว่าการดำเนินการดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นพรรคการเมือง
‘ศรีสุวรรณ’ร้องกกต.จี้เอาผิด
โดยนายศรีสุวรรณ กล่าวว่าหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ จึงมีผลให้กรรมการบริหารพรรค ที่รวมถึงนายธนาธร นายปิยบุตร และน.ส.พรรณิการ์ ถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมือง แต่บุคคลทั้ง 3 ก็ไปจัดตั้งเป็นกลุ่มการเมือง เป็นคณะก้าวหน้า มีการกำหนดตำแหน่งแบ่งงานกันทำและขับเคลื่อนกิจกรรมทางการเมืองมาโดยตลอด จนเมื่อ กกต.จัดให้มีการเลือกตั้งอบจ.ทางคณะก้าวหน้าก็ได้มีการส่งผู้สมัครทั้งนายก อบจ.และสมาชิกสภาอบจ.ลงรับสมัครเลือกตั้งในนามกลุ่ม คณะก้าวหน้ากว่า 40 จังหวัดทั่วประเทศ และหลังการรับสมัครทางแกนนำคณะ ก็ได้มีการเดินสายช่วยผู้สมัครของคณะหาเสียง ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่าย ผิดพ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 111 ที่กำหนดว่าผู้ใดสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปดำเนินกิจกรรมทางการเมืองที่มีลักษณะคล้ายกับพรรคการเมือง อาจต้องโทษจำคุกไม่เกิน3ปี และปรับไม่เกิน6หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งอาจต้องถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี
‘ทอน-ปิยบุตร-ช่อ’ทำผิดม.111
“กรณีของคณะก้าวหน้ามีการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองที่ชัดเจนในเรื่องของการเคลื่อนไหวผลักดันทางการเมือง ดังนั้นการที่คุณธนาธร คุณปิยบุตร และคุณพรรณิการ์ มาตั้งคณะก้าวหน้า แล้วมาขับเคลื่อนกิจกรรมในลักษณะคล้ายพรรคการเมือง น่าจะเข้าข่ายคงวามผิดตามมาตรา111 จึงต้องมาร้องกกต.ให้ดำเนินการตรวจว่า การดำเนินกิจกรรมของคณะก้าวหน้า เป็นการสมคบกันเพื่อดำเนินกิจกรรมทางการเมืองในลักษณะเดียวกันกับพรรคการเมืองหรือไม่ ถ้าผิด จะต้องดำเนินการเอาผิดตามที่กฎหมายกำหนด ที่สำคัญสมาชิกที่ไปลงเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาอบจ.ในนามคณะก้าวหน้า ก็อาจจะเป็นผู้ร่วมสมคบคิดตามมาตรา 111 นี้ด้วย เพราะฉะนั้นกกต.ก็มีอำนาจที่จะเอาผิดลงโทษ เพิกถอนสิทธิการลงสมัครเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภา อบจ. ด้วย”นายศรีสุวรรณ กล่าวย้ำ
‘เพื่อไทย’เปิดแคมเปญลต.ท้องถิ่น
ที่พรรคเพื่อไทย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการตีความของ พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นมาตรา 34 ที่ กกต.ชี้ว่าพรรคส่งผู้สมัคร อบจ.ในนามพรรคและใช้โลโก้พรรคได้ แต่ห้าม ส.ส. ,ส.ว. ข้าราชการการเมือง รวมถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐช่วยหาเสียงนั้นจะเป็นการลักลั่นของกฎหมายหรือไม่ ว่า ขึ้นอยู่กับการตีความกฎหมาย แต่ยอมรับว่าอาจขัดๆ และรู้สึกแปลกกันอยู่บ้างแต่เราก็พร้อมทำตามกฎหมาย ทั้งนี้เท่าที่รับทราบ กกต.ไม่ได้มีมติเรื่องนี้เป็นเอกฉันท์ และท้ายที่สุดต้องให้คนที่ไม่ได้เป็น ส.ส. ไปช่วยหาเสียง และเชื่อว่าหากพรรคไม่ได้ให้ ส.ส.ของพรรคไปช่วยหาเสียงก็จะไม่มีเรื่องร้องเรียน
จากนั้นเวลา10.40 น. นายชูศักดิ์ พร้อมนายนพดล ปัทมะ ประธานคณะทำงานนโยบายและวิชาการ พรรคเพื่อไทย ร่วมกันเปิดแคมเปญนโยบายเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น นายชูศักดิ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย เห็นว่าการปกครองส่วนท้องถิ่นมีความสำคัญต่อประเทศและระบอบประชาธิปไตย ถ้าท้องถิ่นมีความเจริญ ประเทศก็เจริญไปด้วย
ส่ง25ผู้สมัครสู้อบจ.ชูนโยบาย 6 ด้าน
ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับท้องถิ่นทั้งนายกอบจ. และ สมาชิก อบจ. ที่จะต้องดูแลประชาชนทั้งจังหวัด และมองว่าถ้าได้ผู้นำที่ดี ก็จะสร้างรากฐานที่ดีให้ท้องถิ่นและจังหวัด ขณะนี้ มีผู้สมัครใดมีความประสงค์อยากลงในนามพรรค อยู่ 25 จังหวัด
ด้านนายนพดล กล่าวถึงนโยบายที่จะให้ผู้สมัครนำไปใช้ว่าพรรคเพื่อไทย ไม่ได้มองท้องถิ่นเป็นฐานการเมืองแต่มองว่าท้องถิ่นเป็นฐานรากที่จะทำให้บ้านเมืองแข็งแรง โดยนโยบายแคมเปญกลางที่จะนำไปให้ผู้สมัครนำไปใช้ มี 6 ด้าน 1.ด้านการเดินทาง-ขนส่ง ด้วยระบบขนส่งคุณภาพใกล้บ้านและเชื่อมท้องถิ่นเป็นเส้นเลือดฝอยด้านคมนาคม 2.นโยบายด้านสุขภาพ ที่เน้นให้คนในท้องถิ่นมีสุขภาพที่ดีขึ้น อยู่ใกล้บ้าน 3. นโยบายด้านการศึกษา ที่ตั้งเป้าลดเด็กหลุดจากระบบศึกษาเพราะยากจน ให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา ภายใต้แนวคิด“ลูกคุณเราดูแล ลูกเราต้องเท่ากัน”และ“การศึกษาระดับโลกใกล้บ้าน”4.ด้านการเกษตร-อาหารปลอดภัย ด้วยแนวคิด”เกษตรปลอดภัยใกล้บ้าน สู่ครัวโลก ปลูกในถิ่น กินไปทั่วโลก”5.ด้าน SMEs OTOP และ6.ด้านท่องเที่ยว-กีฬา-วัฒนธรรม เพื่อสร้างรายได้.
กกต.ราชบุรีติวเข้มเลือกตั้งอบจ..
ที่ห้องประชุมโรงแรมเวสเทิร์นแกรนด์ อ.เมือง จ.ราชบุรี นายพงษ์พันธ์ แสงสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรีได้กล่าวเปิดการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ในการเลือกตั้ง ส.อบจ.และนายก อบจ.ราชบุรี ซึ่งมีผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.อบจ.และนายก อบจ. และบุคคลผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการอบรมกว่า 300 คน เพื่อให้ความรู้สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมาย ระเบียบวิธีปฏิบัติในการเลือกตั้งแก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อยอย่างสุจริต โปร่งใส สร้างความสมานฉันท์ และมีการยอมรับในเรื่องรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย รู้รักสามัคคี ทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง
พร้อมเชิญเจ้าหน้าที่หน่วยงานฝ่ายจัดการเลือกตั้งทุกฝ่าย ห้ความรู้เกี่ยวกับผู้ปฏิบัติเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เน้นความเป็นกลาง
ตั้งสินบนนำจับ-ค่าหัวพวกทุจริต
ในที่ประชุมได้พูดการเรียกคะแนนเสียงจากประชาชน วิธีหาเสียงที่ได้ผลที่สุด ส่วนความรู้เรื่องข้อกฎหมายเกี่ยวกับการกระทำผิด ถ้าผู้สมัครผู้ใดไม่คิดจะกระทำผิด หรือ กลัวว่าจะกระทำผิด ทาง กกต.จะให้ความรู้ พร้อมเบอร์โทรศัพท์ติดต่อผู้ที่เกี่ยวข้องไว้ทั้งหมดด้วย นอกจากนี้ ยังมีสินบนนำจับ มีค่าหัวของพวกทุจริตการเลือกตั้ง ทาง กกต.เตรียมจ่ายไว้แล้ว แต่ทั้งนี้ ก็ต้องเป็นไปตามข้อกฎหมาย หากโดนพิพากษา 20 ปีก็จะหมดสิทธิ์เสียอนาคตเข้าสู่การเมือง
เมืองกาญจน์ติมเข้มเลือกท้องถิ่น
ที่ห้องประชุมชั้น5โรงแรมราชศุภมิตร ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี นายขวัญเพชร ถนอมนาม ผู้อำนวยการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(ผอ.กกต.) ประจำจังหวัดกาญจนบุรี ประธานเปิดงานจัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ในการเลือกตั้ง ส.อบจ.และนายก อบจ.กาญจนบุรี ซึ่งนายรามิล พัฒนมงคลเชฐ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี และผู้สมัครสมาชิก อบจ.กาญจนบุรีทั้ง30เขตเข้าร่วมเพื่อให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งมีความรู้ และมีความเข้าใจที่ถูกต้องในวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น
นายรามิล พัฒนมงคลเชฐ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ปลัด อบจ.) ในฐานะ ผอ.กกต.ประจำ อบจ.กาญจนบุรี เผยว่า การตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครเรามีระยะเวลาในการตรวจสอบแล้วต้องประกาศหลังจากปิดรับสมัคร ภายใน 7วัน ตามแผนการจัดการเลือกตั้งคาดว่าจะประกาศกรณีผู้มีสิทธิ์รับเลือกตั้งของทั้งผู้สมัครนายกและสมาชิก อบจ.กาญจนบุรีภายในวันที่ 13 พ.ย.63 นี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างส่งรายชื่อของผู้สมัครทั้งหมดไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ช่วยตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามตามที่กฎหมายได้กำหนดเอาไว้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี