‘ชวน’ยันปมตีความ
รอถกหลังแก้ไขรธน.17-18พ.ย.
วิษณุเชื่อขั้นตอนไม่สะดุด
ดีกว่ายื่นหลังทำประชามติ
“ชวน”ย้ำมติประชุม 3 ฝ่าย ให้พิจารณาเฉพาะร่างแก้ไข รธน.17-18 พฤศจิกายน ส่วนปมขอมติสภาให้ส่งตีความปมแก้รธน.ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ เข้าสภาหลัง18 พ.ย. ‘วิษณุ’ชี้ยื่นตีความปมแก้รธน.ตั้ง สสร.ดีกว่ายื่นตีความหลังทำประชามติ อาจประหยัดเวลา30วัน ยันรบ.หนุนร่างพรรคร่วมแก้ รธน.ด้าน’สมคิด’ซัดรบ.จับมือสว.ยื้อเวลา ไม่คิดแก้รธน.หลังผนึกส่งตีความ ยื้อเวลา ขณะ’ไอลอว์’ได้ทีย้ำจุดยืนจี้ยกเลิก’แผนยุทธศาสตร์20ปี’
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวถึงความคืบหน้าบรรจุญัตติของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐและนายสมชาย แสวงการ ส.ว.เรื่องขอให้รัฐสภามีมติส่งร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 3ฉบับ ไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิฉัยว่าขัดกฏหมายหรือไม่
ชวนย้ำถกปมส่งตีความหลัง18พย.
โดยย้ำว่าเมื่อวันที่11พ.ย.ที่ผ่านมา ได้หารือกับที่ประชุมวิป 3ฝ่ายว่า ต้องการประชุมไปตามปกติหรือไม่ ถ้าต้องการ เราก็ต้องบรรจุระเบียบวาระไปตามเรื่องที่เข้ามาตามลำดับ เช่นเรื่องที่กรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้วเป็นต้น แต่เนื่องจากที่ประชุม 3 ฝ่าย เห็นตรงกันว่าให้นำเฉพาะเรื่องรัฐธรรมนูญและย้ำกันว่าในวันที่ 17-18 พ.ย.นี้ จะบรรจุเฉพาะเรื่องที่กรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว และร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนญัตติของนายไพบูลย์ และร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ จะบรรจุหลังวันที่18 พ.ย.
ประธานรัฐสภา กล่าวถึงขั้นตอนในการลงคะแนนรับหรือไม่รับหลักการร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญปี 2560 ทั้ง 7 ฉบับว่า รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าต้องได้รับความเห็นชอบด้วยเสียงวุฒิสมาชิก 1 ใน 3 หรือ 84 เสียง เพื่อความรวดเร็ว ทางฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐสภา จะดูในขั้นตอนนับคะแนนด้วยกำหนดสิทธิพิเศษ เพื่อให้เห็นว่าจำนวนของวุฒิสภาชิกมีจำนวนเท่าใด หากนับรวมกันหมดจะนับยาก พร้อมยกตัวอย่างว่าหากนับทั้งกว่า 700 กว่าคน จะแยกผลคะแนนระหว่าง ส.ส.และ ส.ว.อาจมีปัญหา จึงพยายามทำให้พิเศษ เพื่อยกให้เห็นชัดเจนและเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการนับคะแนน เพราะหลังลงคะแนน เจ้าหน้าที่ ต้องมานับคะแนนอีกครั้งอาจต้องใช้เวลา
วิษณุชี้ตีความไม่ทำแก้รธน.สะดุด
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงกรณีมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลไม่จริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะส.ส.ซีกรัฐบาล และส.ว.บางส่วนยื่นตีความว่า การตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.)ขัดรัฐธรรมนูญว่าเรื่องนี้พูดยาก เพราะร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นของ ส.ส.ไม่ใช่ของรัฐบาล หากส.ส.และส.ว.สงสัย จะยื่นตีความนั้น ก็พูดในหลักการแล้ว อย่าทำให้กระบวนการสะดุด เท่าที่ดูก็ไม่สะดุดก็ทำไป เพราะเขาถือว่าไม่ทำตอนนี้ ก็ทำในอนาคตต่อไปแล้วอาจจะสายเกินแก้ หรือจะมีความเสียหายเช่นทำประชามติแล้วจะยิ่งแย่กว่านี้
ชี้อาจช่วยประหยัดเวลา30วัน
“ผมเดาเอาว่าเขาอาจมีเจตนาดี เพราะไม่วันใดวันหนึ่ง ก็ต้องส่งอยู่แล้วเพราะการส่งตอนนี้อาจจะประหยัดเวลามากกว่า เพราะเป็นภาคบังคับถ้าออกเสียงประชามติเสร็จแล้วเพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ระบุว่าหากมีสมาชิกรัฐสภา สงสัยมีสิทธิ์เข้าชื่อให้ศาลวินิจฉัยภายใน 30วัน หากส่งตอนนี้อาจจะประหยัดเวลา 1 เดือนนั้นไป ถึงตอนนั้น อาจจะไม่ต้องส่งก็ได้ หากมีอะไรตอนนี้ ยังแก้ไขได้ทันเป็นการกันไว้ ดีกว่าแก้ภายใต้ข้อแม้ ไม่ให้สะดุด เพราะดูแล้ว มันไม่สะดุดอะไร เพราะวันที่ 17-18พย.มีการโหวตวาระหนึ่ง หากผ่าน ก็ตั้งกมธ.ใช้เวลาประมาณ1เดือน หากในเวลาดังกล่าว เขาส่งศาลรัฐธรรมนูญสำเร็จเรื่องก็ไปอยู่ในศาล หากศาลบอกไม่ขัด ก็หมดเรื่อง กระบวนการก็เดินหน้า โดยไปรอกระบวนการทำประชามติ แต่ต้องรอ พ.ร.บ.ประชามติ มาใช่บังคับ คาดว่าเป็นเดือน ก.พ.ปีหน้า และยืนยันหากศาลรับเรื่องไว้กระบวนการในรัฐสภาก็ไม่หยุด”นายวิษณุ ย้ำ
ยันรบ.หนุนร่างพรรคร่วมแก้รธน.
เมื่อถามว่ายืนยันได้หรือไม่ว่า รัฐบาลผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายวิษณุ กล่าวว่า ใช่ อย่างน้อยก็ฉบับร่างของพรรคร่วมรัฐบาล แต่ตนไม่กล้าพูดถึงฉบับอื่น
เมื่อถามว่ามีโอกาสหรือไม่ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะไม่รับพิจารณาเพราะเรื่องยังไม่เกิดขึ้น นายวิษณุ กล่าวว่าก็มีโอกาส เพราะเขายื่นตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภาที่31ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นความขัดแย้ง เป็นเรื่องสงสัยในอำนาจหน้าที่ของสภาฯมีเยอะแยะไปที่ศาลไม่รับ ที่ผ่านมารัฐบาลเคยส่งไปหารือก็ไม่รับ ในสมัยนายชวน หลีกภัย เป็นนายกฯ ศาลบอกว่าเรื่องยังไม่เกิดซึ่งศาลไม่ใช่ที่ปรึกษากฎหมาย ถ้าอยากทราบก็ต้องไปถามคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อถามว่าหากศาลไม่รับแล้วเกิดอุบัติเหตุจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ในภายหลังหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ถ้ากติกาศาลรับไม่ได้ เขาก็รับไม่ได้ เหมือนมีเรื่องกันแต่ยังไม่เกิดเหตุ ศาลก็ไม่รับ แต่พอมีเรื่องภายหลังก็โทษไม่ได้เพราะกติกาเป็นเช่นนั้น จึงต้องดูว่าศาลจะรับหรือไม่ เมื่อถามว่าคาดการณ์ไว้หรือไม่ว่านอกจากประเด็นเรื่องตีความเรื่องส.ส.ร.แล้วจะมีการยื่นตีความว่าการทำประชามติ ควรจะมีก่อนหรือหลังรับหลักการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายวิษณุ กล่าวว่าร่างที่เขายื่นตอนนี้มีประเด็นดังกล่าวด้วย เพราะหากถามแค่ตั้ง ส.ส.ร.หรือไม่ ศาลฯ คงไม่รับ
‘สมคิด’ซัดรบ.-สว.ยื้อเวลาแก้รธน.
ด้าน นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทยและรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน กล่าวว่าญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แม้ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐร่วมกับ สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)จะยื่นไปที่ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าญัตติการขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ตามมาตรา 256ว่าขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญปี2560หรือไม่ ซึ่งในส่วนของสภาก็ดำเนินการ ไปตามขั้นตอนในวาระรับหลักการ ส่วนจะมีปัญหาในชั้นกรรมาธิการหรือไม่ก็คงต้องรอว่าศาลจะตัดสินออกมาอย่างไรกรณีดังกล่าว เป็นการใช้เทคนิคของกฎหมายเพื่อยื้อเวลาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาล ไม่สมกับที่พลเอกประยุทธ์ บอกรัฐบาลจะรีบแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นเพียงการพูดให้ผ่านไปเท่านั้น
เตือนระวังนำไปสู่ความขัดแย้ง
นายสมคิด กล่าวว่ารัฐบาลต้องจริงใจกับประชาชน ไม่ควรปล่อยให้ส.ส.และส.ว.มาดำเนินการ รัฐบาลจะมาอ้างว่า สั่งไม่ได้ คงไม่มีใครเชื่อเพราะพฤติกรรมที่ผ่านมาชี้ชัดว่ารัฐบาล สามารถสั่งสมาชิกวุฒิสภาได้ สถานการณ์การชุมนุมที่เกิดขึ้นรัฐบาล ควรที่จะถอนฟืนออกจากกองไฟ แต่รัฐบาลกลับทำตรงข้าม คือ การราดน้ำมันเข้ากองไฟซึ่งไม่เกิดผลดีกับทุกฝ่าย
“กรณีที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคพลังประชารัฐ จะบอกว่า ไม่รู้คงจะเป็นไปไมได้เพราะสมาชิกไปลงรายมือชื่อเป็นจำนวนมาก ส่วนจะรับผิดชอบหรือไม่ คงไม่สามารถบอกได้ ขอเตือนด้วยความหวังดีว่าบรรดาสมาชิกรัฐสภาที่ไปลงรายมือชื่อ ควรที่จะคิดหน้าคิดหลังให้ดี ไม่ควรที่จะสร้างเงื่อนไขที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งของสังคมไทยอีกเลย เพราะไม่เกิดประโยชน์กับประเทศ”นายสมคิด กล่าว
ปชป.หนุนแก้รธน./ไม่แตะหมวด1-2.
นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการดำเนินการเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญของทางพรรคฯว่า ตนสนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตั้งแต่ต้นเพราะถือเป็นเงื่อนไขสำคัญตั้งแต่ต้นในการเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคฯ จนกระทั่งรัฐบาลยินยอมให้บรรจุเป็น 1 นโยบายของรัฐบาลในการบริหารราชการแผ่นดินตั้งแต่การแถลงนโยบายรัฐบาลในปี 2562 แต่ทั้งนี้ตนเห็นว่าการแก้ไขจะต้องทำให้ทุกฝ่ายมีความสบายใจเพราะบางเนื้อหาในรัฐธรรมนูญก็ระบุไว้ชัดว่าแก้ไขไม่ได้ ดังนั้น การแก้ไข โดยไม่แตะต้อง หมวด 1 และหมวด 2 จึงเป็นหนทางที่ดีสุดในการแก้ไข และไม่กระทบกับความรู้สึกส่วนใหญ่ของประชาชนด้วย
นายชัยชนะกล่าวว่าส่วนประเด็นที่มีบางฝ่ายกังวลว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เป็นไปเพื่อประโยชน์เฉพาะนักการเมืองนั้น ยืนยันว่าในบางมาตราที่เกี่ยวข้องกับสิทธิเสรีภาพนั้นก็ยังมีข้อบกพร่องที่ประชาชน ยังไม่สามารถใช้สิทธิอย่างเต็มที่ ซึ่งก่อนที่จะมีการแก้ไขใดๆนั้นจะต้องมีการทำประชามติจากประชาชนก่อนว่า จะเห็นชอบด้วยหรือไม่ ดังนั้น ตนขอให้ประชาชน เชื่อมั่นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ จะเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง
‘ไอลอว์’จี้เลิกแผนยุทธศาสตร์20ปี
ขณะที่ โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชนหรือ”ไอลอว์”ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย iLaw ขอยืนยันข้อเสนอยกเลิก”แผนยุทธศาสตร์ 20 ปี”โดยระบุว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับที่ประชาชนเข้าชื่อเสนอ เตรียมบรรจุเพื่อพิจารณาโดยรัฐสภาในวันที่ 17พฤศจิกายน 2563 เป็นร่างที่มีข้อเสนอครอบคลุมการแก้ปัญหาการเมืองที่มีอยู่รอบด้านมากที่สุด หนึ่งในนั้น คือ การเสนอให้ ยกเลิก “แผนยุทธศาสตร์ 20 ปี” และ “แผนปฏิรูปประเทศ” ที่เพิ่งมีขึ้นเป็นครั้งแรก แม้ชื่อของแผนการเหล่านี้จะฟังดูสวยหรู แต่เบื้องหลังทั้งผู้เขียน ผู้อนุมัติประกาศใช้ และผู้ตีความบังคับใช้ กลับเป็นองคาพยพของ คสช. ทั้งสิ้น
“ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี” หรือจะเรียกให้ถูกต้องคือ “ยุทธศาสตร์ คสช.” เป็นอีกหนึ่งประเด็นในรัฐธรรมนูญ 2560 ที่สมควรถูกแก้ไขหรือยกเลิก แม้รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะตอกย้ำความสำคัญของยุทธศาสตร์ชาติว่า จะเป็นหลักสำคัญในการพัฒนาประเทศให้มีความต่อเนื่อง แต่เวลาไม่นานหลังการประกาศใช้ในปี 2561 ก็แสดงให้เห็นชัดว่ายุทธศาสตร์ชาติฉบับนี้ ไม่สามารถป้องกันประเทศจากวิกฤติต่างๆ ได้”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี