เมื่อเวลา 14.25 น.วันที่ 17 พ.ย.63 สถานการณ์ชุมนุมบริเวณหน้ารัฐสภามีความตึงเครียดมากขึ้น เนื่องจากมีกลุ่มการ์ดม็อบราษฏรจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นแนวหน้าได้รวมตัวกันเพื่อพยายามรื้อบังเกอร์ ลวดหนามและแท่นปูนที่ตั้งขวางออก ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ประกาศเตือน ก่อนใช้รถน้ำแรงดันสูงฉีดใส่การ์ดผู้ชุมนุมอย่างต่อเนื่อง ตอนแรกเป็นน้ำเปล่า แต่ต่อมาเจ้าหน้าที่ประกาศให้ใช้น้ำผสมแก๊สน้ำตาฉีดใส่การ์ดผู้ชุมนุม
ส่วนตำรวจอีกชุดตั้งแถวพร้อมโล่และกระบอก ขณะที่การ์ดผู้ชุมนุมไม่ยอมถอย ได้พากันใช้ถุงสี พลุควัน และก้อนหินปากเข้าใส่เจ้าหน้าที่ จนเกิดเหตุชุลมุนขึ้นในพื้นที
เวลาประมาณ 14.30 น.สถานการณ์ที่แยกเกียกกายตึงเครียดหนักขึ้นอีก โดยเจ้าหน้าที่ประกาศว่า หลังจากใช้แก๊สน้ำตาแล้วไม่ยอมหยุดจะยกระดับด้วยการใช้กระสุนยาง พร้อมกับเสริมกำลังเจ้าหน้าที่อีกกว่า 500 นาย ประกาศเตือนให้มวลชนอยู่ในความสงบ โดยระบุว่า ฉีดน้ำเพื่อป้องกันระวังแนว หลังมีการทำลายแนวกั้นที่ 1 แล้ว แต่การ์ดยังพยายามฝ่าแนวกั้นและรื้อแนวลวดหนามอย่างต่อเนื่อง ทางเจ้าหน้าที่นำโดยพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. รับหน้าที่เจรจากับ"โตโต้" ปิยรัฐ จงเทพ หัวหน้าการ์ด
อย่างไรก็ตาม เวลา 15.00 น. พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวหลังการเจรจาว่า วันนี้มีกลุ่มที่จะมาชุมนุมทั้งสิ้น 4 กลุ่ม โดยกลุ่มที่ 1 - 3 มีการแจ้งว่าจะมีการชุมนุม และจะยุติเวลา 14.00 น.ส่วนอีก 2 กลุ่ม ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าจะชุมนุมหน้าบริเวณรัฐสภาโดยมีเงื่อนไขคือ การชุมนุมจะทำโดยสงบ ปราศจากอาวุธ ไม่ลงถนน ไม่ละเมิดสิทธิ์คนอื่น โดยจะต้องมีการยุติการชุมนุม เวลา 22.00 น.ของพรุ่งนี้ และ 24.00 น.ของพรุ่งนี้
ส่วนกลุ่มคณะราษฎร ไม่ได้มีการแจ้งการชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ไว้ ดังนั้น การชุมนุมจึงผิดเงื่อนไข และเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย โดยหลังจากที่กลุ่มคณะราษฎร ได้เคลื่อนตัวมาบริเวณหน้าแนวกำบังของเจ้าหน้าที่ที่มีการติดตั้งแบริเออร์ ซึ่งตามกฎหมายระบุว่า ไม่สามารถเข้ามาในเขต 50 เมตรจากรัฐสภาได้ ผู้ชุมนุมจึงได้เริ่มทำการทำลายสิ่งกีดขวาง และเจ้าหน้าที่ได้มีการเจรจา ประกาศ และแจ้งเตือนแล้ว ว่าการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎรนั้นผิดกฎหมาย การทำลายสิ่งกีดกั้นก็ผิดกฎหมายโดยสิ้นเชิง ทางเจ้าหน้าที่ ได้แจ้งเตือนแล้ว 3 - 4 ครั้ง กลุ่มผู้ชุมนุมก็ยังไม่หยุดทำลายสิ่งกีดกั้น ทางเจ้าหน้าที่จึงทำการฉีดน้ำ โดยครั้งแรกเป็นการฉีดน้ำเปล่า ไม่ได้ผสมแก๊สน้ำตาแต่อย่างใด ผู้ชุมนุมก็ยังไม่หยุดทำลายสิ่งกีดกั้น เจ้าหน้าที่จึงฉีดน้ำตามยุทธวิธีของตำรวจ ขอนำเรียนว่าครั้งที่ 4 เป็นการฉีดที่มีการผสมแก๊สน้ำตาอย่างที่เห็นอยู่
"การปฏิบัติการของตำรวจนั้น ไม่ใช่การสลายการชุมนุม แต่เป็นการเจรจา และเป็นการบังคับใช้กฎหมายตามปกติ"
เมื่อถามว่า จะมีการใช้แก๊สน้ำตาต่อไปเรื่อยๆ หรือไม่ พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า เรากำลังดำเนินการเจรจาตามขั้นตอนอยู่ เพราะเป็นพื้นที่ควบคุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ กำลังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนอยู่นั้น ด้านหลังได้เริ่มมีการปะทะกัน โดยเจ้าหน้าที่ได้ฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุม ขณะที่ผู้ชุมนุมก็ตอบโต้ด้วยการขว้างพลุควันสีมายังเจ้าหน้าที่
เมื่อผู้สื่ข่าวถามย้ำว่า จะมีการใช้กระสุนยางควบคุมการชุมนุมจริงหรือไม่ พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า อุปกรณ์การควบคุมฝูงชนเป็นเรื่องปกติ ต้องรอดูตามหน้างาน
เวลา 15.20 น.ที่แยกเกียกกาย ทั้งสองฝ่ายปะทะเป็นรอบที่ 2 โดยฝั่งเจ้าหน้าที่ได้ฉีดน้ำสีม่วงใส่ผู้ชุมนุมอย่างต่อเนื่อง หลังมีผู้ชุมนุมเข้าประชิดแนวรั้ว ขณะไผ่ ดาวดิน ประกาศว่า ขอให้ส่งน้ำมาข้างหน้า เพราะผู้ชุมนุมโดนแล้วแสบตา ต่อมา 15.20น. ตร.ประกาศให้ผู้ชุมนุมออกให้พ้นแนวกีดขวาง ส่วนผู้ชุมนุมได้ปาแก๊สน้ำตากลับเข้าไปโดยมีลมพัดแก๊สน้ำตากลับมาฝั่งตำรวจจนต้องวิ่งหนีกันอลหม่านเหมือนกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี