ตำรวจฟันม็อบเรียงตัว31ราย
คดีถล่มสภา-สตช.
พยายามฆ่า-ทำลายทรัพย์สิน
จ่อหมายเรียกรับทราบข้อหา
ลุ้นถกวันจันทร์เอาผิดม.112
ส่งกองร้อยน้ำหวานคุมนร.เลว
นัดชุมนุมราชประสงค์เสาร์นี้
ตำรวจกาหัวม็อบราษฎร 31 ราย กรณีชุมนุมเกียกกายรัฐสภา-ถล่ม สตช.รอเรียกเช็คบิลเรียงตัว ส่วนข้อหาม.112 รอลุ้นประชุมใหญ่พิจารณาขอบเขตในวันจันทร์นี้ ด้านม็อบนักเรียนเลวนัดชุมนุมแยกราชประสงค์วันเสาร์ โดยมีกองร้อยน้ำหวาน ตามประกอบ ขณะที่ประชาชนหลายเครือข่ายพร้อมใจระดมกำลังร่วมกันทำความสะอาด บริเวณหน้า สตช. หลังคณะราษฎรละเลงสีเละเทะ
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัยรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทั้ง 2 คดี อยู่ระหว่าง
การสืบสวนสอบสวน เพื่อพิสูจน์ทราบระบุตัวบุคคลที่กระทำความผิดทั้ง 2 จุด เบื้องต้นสามารถระบุตัวบุคคลได้แล้วรวมมากกว่า 30 คนแบ่งเป็นในพื้นที่สน.บางโพ จากการชุมนุมที่หน้ารัฐสภา สามารถพิสูจน์ทราบบุคคลได้แล้ว 14 คน ,ในพื้นที่สน. ปทุมวัน จากการชุมนุมกันที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สามารถระบุตัวและพิสูจน์ทราบบุคคลได้แล้ว 17 คน
เผยรอตั้งข้อหาแกนนำเพียบ
รองผบช.น.กล่าวว่าในจำนวนนี้มีผู้ที่กระทำความผิดจากการก่อความรุนแรง ทำลายทรัพย์สินของทางราชการ และชุมนุมโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเข้าข่ายความผิดในหลายข้อหา อาทิ ความผิดตามพรบ.การชุมนุม , กฎหมายอาญา ข้อหาสมคบกัน 10 คนเพื่อก่อความวุ่นวาย, ทำให้เสียทรัพย์, ทำร้ายร่างกายสาหัส,พยายามฆ่า ,ความผิดตามพรบ.ความสะอาด, และพรบ.จราจรทางบก คาดว่าในสัปดาห์หน้าพนักงานสอบสวนจะเริ่มดำเนินการออกหมายเรียกผู้ต้องหาทั้งหมดมารับทราบข้อกล่าวหาตามขั้นตอนได้
ส่วนประเด็นการปะทะกันที่บริเวณหน้ารัฐสภาขณะนี้พนักงานสอบสวนได้เรียกตัวผู้ได้รับบาดเจ็บมาให้ปากคำได้แล้วรวม3 คนโดยเป็นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืนที่แยกบางโพ 1 คน และแยกเกียกกาย 2 คน ซึ่งมีทั้งผู้ชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร์และผู้ชุมนุมกลุ่มปกป้องสถาบัน ส่วนลักษณะการก่อเหตุ จะเป็นการจงใจก่อเหตุเพื่อหวังเอาชีวิตหรือเป็นการปกป้องคุ้มกันกลุ่มหรือไม่ ยังไม่สามารถเจาะจงประเด็นแรงจูงใจต่างๆได้ต้องอยู่ระหว่างการตรวจสอบแนววิถีกระสุนและพยานหลักฐานอื่นๆเพิ่มเติม
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวอีกว่าส่วนการจับกุมผู้ต้องหาจากกลุ่มปกป้องสถาบัน ที่พกพาอาวุธปืนเข้ามาร่วมชุมนุมด้วยนั้น ขณะนี้ได้นำอาวุธปืนดังกล่าวไปตรวจสอบที่กองพิสูจน์หลักฐานเพื่อหาเอกลักษณ์เฉพาะของเกลียวกระบอกปืนและเข็มแทงชนวนแล้ว เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับหัวกระสุน และบาดแผลของผู้ได้รับบาดเจ็บทุกคน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ข้อหา ม.112 รอลุ้นวันจันทร์
รอง ผบช.น.กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าผู้ชุมนุมกลุ่มคณะราษฎร์จะถูกแจ้งข้อหาเพิ่มตามในข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา112นั้น ยืนยันว่าขณะนี้จะยังไม่มีการแจ้งข้อหาความผิดตามมาตรา112เนื่องจากต้องรอการพิจารณากำหนดขอบเขตการแจ้งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีอย่างชัดเจนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติซึ่งในวันจันทร์ที่23พ.ย.ทางพล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผู้ช่วย ผบ.ตร.)จะเรียกประชุมหน่วยที่เกี่ยวข้องเพื่อขอบเขตให้ชัดเจนก่อนที่จะดำเนินการบังคับใช้
สำหรับกรณีที่สมาชิกกลุ่มนักเรียนเลวมีการโพสต์ภาพหมายเรียกไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 30 พฤศจิกายนที่สนลุมพินีนั้น ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการเรียกไปเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 112 แต่เป็นการเรียกไปเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาความผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุม
ส่งกองร้อยน้ำหวานคุมม็อบนร.
สำหรับการชุมนุมของกลุ่มนักเรียนเลวในวันที่ 21 พ.ย. ที่แยกราชประสงค์นั้น รองผบช.น. กล่าวว่า ล่าสุดจากการตรวจสอบยังไม่พบว่า กลุ่มดังกล่าวมีการแจ้งขอชุมนุมมาที่ตำรวจ ซึ่งหากวันนี้ก่อนบ่าย 2 ยังไม่แจ้งขอชุมนุมก็จะถือว่าเป็นความผิดตามพ.ร.บ.การชุมนุม เบื้องต้นในการควบคุมดูแล จะเพิ่มกำลังของกองร้อยควบคุมฝูงชนที่เป็นตำรวจหญิงมากขึ้น เนื่องจากผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ที่มาร่วมชุมนุมเป็นเด็กนักเรียนและเยาวชน เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงกับผู้ชุมนุมน้อยที่สุด
นอกจากนี้จะมีผู้พิพากษาสมทบของศาลเยาวชน เจ้าหน้าที่สงเคราะห์เด็ก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชนมาร่วมสังเกตการณ์ด้วย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย”รองผบช.น.กล่าว
พร้อมใจทำความสะอาดหน้าสตช.
เช้าวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงายว่า ที่บริเวณด้านหน้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้มีประชาชนจากหลากหลายกลุ่ม หลายเครือข่ายที่ระดมกำลังกันมาช่วยทำความสะอาดสีที่เลอะอยู่ตามพื้นและจุดต่างๆ บริเวณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถนนพระราม 1 อาทิ กลุ่มกลุ่มนักเรียนดี-กลุ่มยุวชน กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบันรวมถึงกลุ่มไทยภักดี
โดยได้นำอุปกรณ์ช่วยกันขัดสีโดยขั้นแรกจะลงทินเนอร์ น้ำมันสน และน้ำยาขัดล้างลงไป ก่อนจะทาสีขาวทับไว้เป็นรองพื้น จากนั้นจึงจะประเมินกันอีกครั้งร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานเขตปทุมวัน ว่าจะใช้สีอะไรทาซ้ำให้เหมาะสมใกล้เคียงกับสีเดิมมากที่สุด แต่เนื่องจากแต่ละจุดสีที่ถูกเทสาดไว้ติดค่อนข้างฝังแน่น การจะทำความสะอาดให้หมดภายในวันเดียวเป็นเรื่องยาก อีกทั้งยังต้องการอุปกรณ์อื่นๆมาช่วยทุ่นแรงเพิ่มเติม เช่น ทินเนอร์ และน้ำยาที่สามารถละลายสีออกได้โดยง่าย ขณะที่ต้นไม้บางส่วนซึ่งปลูกไว้ด้านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทางกลุ่มเลือกที่จะถอนออกเพราะยืนต้นตายจากสีที่กระเด็นใส่
ทั้งนี้ หนึ่งในตัวแทนกลุ่มเครือข่ายต่างๆที่มาร่วมกันทำความสะอาดบริเวณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า แม้หลายจุด หน่วยงานราชการ สำนักงานเขต จะลงมาเคลียร์พื้นที่ไปบ้างแล้วแต่ก็ยังมีเหลืออีกหลายจุดจึงอยากมาช่วยอีกแรงหนึ่งและนัดรวมตัวกันมาอีกครั้ง ในวันอาทิตย์ ที่22พฤศจิกายน
‘ธนกร’วอนใช้กม.เคร่งครัด
นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเห็นด้วยอย่างยิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกแถลงการณ์บังคับใช้กฎหมายเด็ดขาดดูแลม็อบที่ฝ่าฝืนกฎหมายรุนแรง
“ผมเห็นพฤติกรรมของแกนนำม็อบบางคนแล้วรับไม่ได้จริงๆ อยากจะขอร้องน้องๆ ให้ทบทวนแนวทางการเคลื่อนไหวว่ามันถูกต้องหรือไม่ เพราะการชุมนุมไม่ได้สันติแล้ว ข้อเรียกร้องแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านสภาฯแล้ว อยากให้น้องๆ คิดถึงอนาคตให้มาก นอกจากนั้นอยากจะฝากไปยังเครือข่ายอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกล วันนี้ยังหน้ามืดใจมัว สนับสนุนม็อบจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์อีกหรือ ไม่มีใครโหนสถาบันเหมือนที่พวกคุณกล่าวหา แต่พี่น้องคนไทยทั่วประเทศรักและศรัทธาสถาบันเท่าชีวิต อย่าท้าทายพลังแห่งศรัทธา”นายธนกร กล่าวย้ำ
‘สงคราม’ได้ทีเหน็บ’บิ๊กตู่’
ด้านนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า การประกาศใช้กฎหมายขั้นเด็ดขาดกับกลุ่มผู้ชุมนุม ไม่ต่างจากการราดน้ำมันเข้ากองไฟ มันจะเผาคนราดเข้าสักวัน เพราะไม่เกิดประโยชน์อะไร หาก พล.อ.ประยุทธ์จริงใจก็แค่เปิดใจรับฟังข้อเรียกร้องของกลุ่มเยาวชน ข้อไหนรับได้ก็รับ ข้อไหนรับไม่ได้ก็ไม่ต้องรับ อันไหนต้องใช้เวลาก็ว่ากันไป สุดท้ายอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ ทบทวนตัวเองหากยังอยู่ในตำแหน่งแล้วประเทศเสียหาย เศรษฐกิจพังพินาศ อยากถาม พล.อ.ประยุทธ์ ว่าท่านต้องการอำนาจไปเพื่ออะไร
ขณะที่ พล.ท.พงศกร รอดชมภู อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตรองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า รัฐมีอำนาจมากกว่าประชาชน อย่าใช้ความรุนแรงนำการแก้ปัญหาข้อเรียกร้องต่าง ๆ มีทั้งทำได้ และทำไม่ได้ ตรงไหนทำได้ก็แก้ไขแล้วแจ้งให้ประชาชนทราบ ตรงไหนทำไม่ได้เพราะผิดหลักการอะไรก็แจ้งไปชัดๆ ตรงไหนพอเทียบเคียงประเทศอื่น ๆ ได้ก็เสนอให้ประชาชนทราบจะได้เข้าใจตรงกันถ้าใช้แต่กฎหมายไล่จับคน ไม่รับฟังปัญหาก็มีแต่ขยายความรุนแรงมากยิ่งขึ้นครับ
นักร้องโร่มอบตัวคดีผ่าฝืนพรก.
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สน.บางยี่ขัน นายชูเวช เดชดิษฐ์รักษ์ นักร้องนำวงดนตรีสามัญชน พร้อมนายคุณากร มั่นนทีรัย ทนายความจากศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน เข้าพบ พ.ต.ท.ธีระ เรืองเนตร รอง ผกก.(สอบสวน) สน.บางยี่ขัน เพื่อรายงานตัวตามหมายเรียกครั้งที่ 2 ให้มารับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันชุมนุมฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กรณีการชุมนุมเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ที่ผ่านมา หน้าห้างเซ็นทรัลฯ ปิ่นเกล้า
เบื้องต้นนายชูเวชให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ก่อนทำบันทึกพิมพ์ลายนิ่วมือและลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน จากนี้จะขอขยายเวลายื่นคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรเพิ่มเติมภายใน 20 วัน
พ.ต.ท.ธีระกล่าวว่า เบื้องต้น เมื่อทำประวัติและพิมพ์ลายนิ้วมือเสร็จก็ปล่อยตัวกลับไปเพราะมาตามนัดหมาย จากนี้จะส่งสำนวนให้อัยการสั่งฟ้องต่อศาลแขวงตลิ่งชันในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ต่อไป
ขณะที่ สมาชิกทวิตเตอร์ “นักเรียนเลว” โดยเผยภาพของนักเรียน 2 คน ขณะร่วมกิจกรรมการชุมนุมที่แยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกหมายเรียก ในกระทำความผิดฐานฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกความตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี