“ภาคีนักกม.” ยื่น “ชวน” จี้ถอด “สิระ” พ้น “ปธ.กมธ.กม.” ด้านเจ้าตัวโต้กลับทันที วอนปธ.สภา ตรวจสอบ มีเจตนาแอบแฝง - โยงกลุ่มการเมืองอยู่เบื้องหลังหรือไม่
เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2563 ที่รัฐสภา กลุ่มภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านนพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาฯ โดยกลุ่มภาคีฯได้เรียกร้องให้นายสิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ ลาออกจากการเป็นประธานคณะกรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชนโดยทันที หากนายสิระ ไม่ลาออก สภาผู้แทนราษฎรควรดำเนินการเพื่อให้พ้นจากตำแหน่ง ทั้งนี้ เพื่ออำนวยให้สภาผู้แทนราษฎร ดำรงอยู่ได้ด้วยความสง่างามเกียรติภูมิของสภาผู้แทนราษฎรจะทรงเกียรติและสง่างามก็ด้วยแต่การดำรงไว้ซึ่งการรับใช้ประชาชน จากกรณีที่นายสิระ ได้ขึ้นปราศรัยถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และได้กล่าวพาดพิงถึงบุคคลอื่นด้วยคำพูดที่เหยียดศักดิ์ศรีและลดทอนคุณค่าของความเป็นมนุษย์ ด้วยเหตุแห่งเชื้อชาติ และสถานะตามกฎหมายบางประการของบุคคล ซึ่งนายสิระฯ ได้ปราศรัยช่วงหนึ่งว่า “นายจอน แม่เป็นคนอังกฤษ เป็นคนต่างชาติใช่มั้ย เป็นลูกครึ่งใช่มั้ย ปิยบุตร มีเมียเป็นฝรั่งเศส มันเป็นเขยฝรั่งเศสใช่มั้ย สองประเทศนี้ล้มล้างสถาบัน...” พฤติการณ์ดังกล่าวไม่อาจถือว่า เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดความเห็น หรือติชมเพื่อประโยชน์สาธารณะได้ เนื่องจากเป็นการปราศรัยที่มุ่งวิพากษ์ตัวบุคคลบนพื้นฐานของความแตกต่างทางชนชาติ เผ่าพันธุ์ หรือศาสนา อันเป็นการยั่วยุให้เกิดการเลือกปฏิบัติ ความเกลียดชัง หรือการใช้ความรุนแรง ซึ่งขัดต่อกติกาสากลระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ข้อ 20 (2) ที่ประเทศไทยเป็นภาคี
ต่อมานายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ได้เป็นตัวแทนนายสิระ ยื่นหนังสือถึงประธานสภาฯเช่นกัน เพื่อขอให้ตรวจสอบภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนว่าเกี่ยวข้องเชื่อมโยงและมีเบื้องหลังที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมืองที่เคลื่อนไหวนอกสภาที่มีเจตนาสร้างความขัดแย้งแตกแยกในบ้านเมืองหรือไม่
ด้านนายสิระ กล่าวว่า ภาคีเครือข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน จึงน่าจะเป็นกลุ่มบุคคลอาจละเมิดสิทธิมนุษยชนเสียเอง เหตุจากการเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ ซึ่งถือว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ เป็นนักสิทธิมนุษยชนที่เลือกข้าง ไม่ได้ดำเนินกิจกรรมที่เอาประชาชนส่วนใหญ่เป็นที่ตั้งแต่อย่างใด น่าจะมีนัยยะทางการเมืองแอบแฝง และเชื่อมโยงกับความต้องการของกลุ่มการเมืองที่เคลื่อนไหวนอกสภาที่มีเจตนาสร้างความแตกแยกในบ้านเมืองในขณะนี้
“ขอให้ท่านตรวจสอบว่า กรณีภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ที่กล่าวหาว่า ผมว่า ละเมิดสิทธิมนุษยชน สร้างความแตกแยก และการใช้ความรุนแรง เพื่อให้ข้าฯลาออกนั้น เป็นกรณีเพื่อหวังผลทางการเมืองอีกด้านหนึ่งของกลุ่มดังกล่าวหรือไม่ และ ให้พิจารณาตรวจสอบว่า มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงหรือมีเบื้องหลังกับกลุ่มการเมืองที่กำลังเคลื่อนไหวนอกสภาที่มีเจตนาสร้างความขัดแย้งแตกแยกในบ้านเมืองในขณะนี้หรือไม่” นายสิระ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี