ม็อบบุกยึดห้าแยกลาดพร้าว
ต้านรัฐประหาร
บิ๊กป้อมยัวะโต้ไม่มีใครคิดทำ
การ์ดรับสารภาพยิงกันเอง
ขัดแย้งส่วนตัวไม่เกี่ยวมือที่3
ตร.จ่อหมายจับมือปาระเบิด
12แกนนำโร่รับข้อหาม.116
มือปืนยิงการ์ดม็อบราษฎรโผล่มอบตัว สน.พหลโยธิน ยอมรับยิงอีกฝ่าย อ้างโมโหโพสต์เฟซบุ๊ค ยันไม่มีใครจ้างมา ขนาดเจ็บตัว ยังต้องออกค่ารักษาเอง ขณะที่
ตำรวจจ่อขอหมายจับมือขว้างระเบิดต้นเหตุพร้อมจัด 3 กองร้อย คุมม็อบคณะราษฎรชุมนุมยึดห้าแยกลาดพร้าว ซ้อมต่อต้านรัฐประหาร ขณะที่ “บิ๊กป้อม” ย้อนกลับไม่มีใครคิดทำรัฐประหาร ส่วน 12 แกนนำ โร่รับทราบข้อหาคดีเก่า ด้าน “บัวแก้ว” โต้แอมเนสตี้ ยันรัฐบาลดูแลการชุมนุมตามมาตรฐานสากล
เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ที่ สน.พหลโยธิน นายภาสพงศ์ กุลอมรกานต์ อายุ 25 ปี การ์ดม็อบ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่รับอนุญาต, และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร อดีตนักเรียนอาชีวะมีนบุรีโปลีเทคนิค ได้มาพร้อมกับ นายพีระวุฒิ กุลอมรกานต์ อายุ 49 ปี บิดา และนายธนเดช ศรีสงคราม อายุ 35 ปี หัวหน้ากลุ่มอาชีวะมีนบุรีเพื่อเข้ามอบตัวกับ พล.ต.ต.พัฒนา เพศยนาวิน ผบก.น.2 และตำรวจ สน.พหลโยธิน หลังก่อเหตุใช้ปืนลูกโม่ขนาด .38 ยิงเข้าใส่ นายประชากร ศักดิ์ศรีเท้า อายุ 20 ปี อดีตนักเรียนเทคนิคปทุมธานี ที่เป็นการ์ดม็อบเช่นเดียวกัน จนบาดเจ็บ ภายหลังการประกาศยุติการชุมนุมที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ถนนรัชดาภิเษก เมื่อคืนวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา
ให้การรับสารภาพทุกข้อหา
นายภาสพงศ์กล่าวว่าตนขอให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ตนเองขอยืนยันว่าตนเป็นการ์ดจริง ซึ่งในวันเกิดเหตุพวกตนมาที่รัชโยธินเพื่อเป็นการ์ดดูแลมวลชน แต่ไม่ได้สวมปลอกแขนเพราะเข้ามาในฐานะประชาชน และตกลงกันว่าจะไม่สวมปลอกแขน ส่วนสาเหตุที่ทะเลาะกันนั้น เกิดจากตนมีปัญหาส่วนตัวกับกลุ่มของคนเจ็บ เพราะถูกฝ่ายคู่กรณีมาโพสต์เฟซบุ๊กแขวะเกี่ยวกับเรื่องก่อนหน้านี้ ที่รุ่นพี่ตนไปปราศรัยที่ จ.ชัยนาท โดยพูดถึงกลุ่มฟันเฟืองประชาธิปไตย ทำให้เกิดความขัดแย้งเรื่องการนำเอาสัญลักษณ์ฟันเฟือง นอกจากนี้ยังมีความเห็นต่างเรื่องการจาบจ้วงสถาบัน ที่พวกตนไม่เอาด้วย อย่างไรก็ตามตนยืนยันไม่ได้มีใครจ้างพวกตนมา เพราะขนาดเจ็บตัว ตนก็ยังต้องออกเงินค่ารักษาพยาบาลเอง
ด้านนายพีระวุฒิ บิดากล่าวว่า ตนตกใจมาก เมื่อทราบข่าวทางโซเชียลว่า ลูกชายไปยิงการ์ดในม็อบ หลังรักษาตัวที่โรงพยาบาลเสร็จ ก็เลยพาลูกมามอบตัวกับตำรวจ ยอมรับว่าไม่กังวล ขอให้เจ้าหน้าที่ว่าตามหลักฐานและกฎหมาย ผิดก็คือผิด แมน ๆ แบบลูกผู้ชาย ส่วนเรื่องการยิงหรือไม่นั้น ตนตอบไม่ได้เพราะลูกชายยังมีอาการมึนงงที่ศีรษะอยู่ แต่ถามว่าลูกชายตนเป็นสมาชิกการ์ดอาชีวะหรือไม่ ตนก็ทราบจากลูกชายว่าเป็นสมาชิกกลุ่มฟันเฟืองประชาธิปไตย ส่วนเรื่องทางคดีหลังจากนี้ จะขอปรึกษากับทนายพร้อมรวบรวมพยานหลักฐาน ทำเรื่องขอประกันตัวในชั้นสอบสวน
ด้านนายธนเดช กล่าวยืนยันว่า เหตุที่เกิดขึ้นเป็นระหว่างบุคคล ไม่เกี่ยวกับเรื่องสถาบัน เรื่องม็อบ หรือการเมือง หรือการสร้างสถานการณ์ทั้งสิ้น แต่ขอให้ตำรวจได้ทำงานก่อน จึงจะมีความชัดเจนว่าเรื่องราวเป็นมายังไง อีกทั้งยังเหลือผู้ก่อเหตุอีกหลายคนที่ยังหลบหนี ยืนยันด้วยว่าพวกตนไม่ได้เป็นสายข่าวให้กับกลุ่มใดตามที่โลกออนไลน์เชื่อมโยงไป ทั้งนี้ ตนได้ทักแชตส่วนตัวไปขอโทษสถาบันคู่กรณีแล้ว แต่จะยอมรับหรือไม่ก็เป็นสิทธิ์ของเขา ยืนยันด้วยว่าหากตนอยู่ในเหตุการณ์ด้วยก็จะไม่ให้เกิดเหตุนี้ขึ้น
จ่อขอหมายจับมือโยนบึ้ม
ขณะที่ความคืบหน้าเหตุการณ์การ์ดอาชีวะของกลุ่มคณะราษฎร ก่อเหตุใช้อาวุธปืนและระเบิดหลังการชุมนุม พลตำรวจตรีปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รองผบช.น.)กล่าวว่าขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามตัวชายขว้างวัตุคล้ายระเบิด ที่ปรากฎในคลิป แต่ทั้งนี้มีรายงานว่า ขณะนี้ ชุดสืบสวนทราบชื่อผู้ก่อเหตุแล้ว และอยู่ระหว่างเตรียมขออำนาจศาลออกหมายจับ ข้อหา มีหรือครอบครองวัตถุระเบิด
‘โต้โต้’นำทีมทยอยมอบตัว
วันเดียวกัน ที่สน.พญาไท กลุ่มแกนนำคณะราษฎร นำโดย นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ กับพวกรวม 12 คนประกอบด้วย นายชาติชาย แกดำ,น.ส.กรกช แสงเย็น,นายอภิสทธิ์ ทรัพย์นภาพันธ์,นายอนุรักษ์ เจนตวนิช หรือฟอร์ด,น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด,นายวสันต์ กล่ำถาวร,น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์,น.ส.สุวรรณา ตาลเหล็ก,นายอานันท์ ลุ่มจันทร์,นายไพศาล จันทร์ปาน และนายทศพร เสรีรักษ์ ผู้ถูกกล่าวหา กระทำผิดข้อหา ห้ามมิให้มีการชุมนมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆหรือการกระทำการใดอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย โดยทั้งหมดเข้าพบพ.ต.ท.ชัยณรงค์ ทรัพยสาร รองผกก(สอบสวน)สน.พญาไท และพ.ต.ท.วิศรุช หยกนิธิภัทร สารวัตร(สอบสวน)สน.พญาไท ตามหมายเรียกครั้งที่ 1
ภายหลังรับทราบข้อกล่าวหา นายปิยรัฐ หรือ โตโต้ กล่าวว่า วันนี้ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาในการกระทำผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กรณีร่วมกันชุมนุมโดยการเดินขบวนจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปยังทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 21 ต.ค.63 ที่ผ่านมา โดยทั้งหมดให้การปฏิเสธ พร้อมจะทำบันทึกคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อส่งแก่พนักงานสอบสวน สน.พญาไท ในวันที่ 15 ธ.ค.63 นี้
จากนี้คงเป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการทางกฎหมาย เรื่องการส่งเรื่องให้พนักงานอัยการพิจารณาว่าจะมีคำสั่งฟ้องหรือไม่ ก่อนนำเรื่องขึ้นสู่ศาล หลังจากนี้ คิดว่ารัฐบาลคงนำการบังคับใชข้อกฎหมาย ให้มีการจับกุม ฝากขัง เพื่อเพิ่มความยุ่งยากในชีวิตให้แก่ผู้มาชมนุม แต่ถึงอย่างไรตนก็ไม่รู้สึกกังวล เพราะที่ผ่านมาเป็นการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าต่อให้ไม่มีแกนนำ ไม่มีใคร ถือไมค์ปราศรัยการชุมนุมก็ยังคงดำเนินต่อไปได้
‘บัวแก้ว’ออกโรงโต้แอมนัสตี้
นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่า จากกรณีที่องค์กรภาคประชาสังคมระหว่างประเทศ 13 แห่ง อาทิ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล Article 19 กลุ่มสมาชิกรัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชน (APHR) เครือข่ายเอเชียเพื่อการเลือกตั้งเสรี (ANFREL) ออกแถลงการร่วม เรียกร้องให้รัฐบาลไทยดำเนินการ 4 ข้อ ให้เคารพ คุ้มครอง และสนับสนุนการใช้สิทธิในเสรีภาพการชุมนุมโดยสงบ ให้ดำเนินการเพื่อประกันว่าหากมีการละเมิดสิทธิจากรัฐบาลในการปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุมจะต้องเอาผิดได้ และประกันว่าผู้ถูกละเมิดสิทธิจะเข้าถึงการเยียวยาได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลังเกิดการชุมนุม 17 และ 25 พฤศจิกายน 2563
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าว 1 .ประเทศไทยยึดมั่นในหลักนิติธรรม เคารพในกระบวนการทางกฏหมายที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ 2.ที่ผ่านมามีผู้เข้าร่วมการชุมนุมจากกลุ่มต่าง ๆ ซึ่งมีแนวคิดที่หลากหลาย ในบางกรณี เกิดการเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มคนเหล่านี้ทำให้สถานการณ์ทวีความตึงเครียดมากขึ้นและเกิดเหตุปะทะ การรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้บังคับใช้กฎหมายตามขั้นตอน ตามมาตรฐานสากล และความเหมาะสมกับสถานการณ์
3.การใช้สิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานในการแสดงออกและการชุมนุมอย่างสงบต้องเป็นไปตามกฏหมายที่เกี่ยวข้อง คำนึงถึงความปลอดภัย เคารพสิทธิของผู้อื่นด้วย ซึ่งเป็นไปตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ซึ่งไทยยึดมั่นในพันธะกรณี 4..ในทุกกรณีที่มีการละเมิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ
5.เจ้าหน้าที่มีหน้าที่รักษาความปลอดภัยของผู้ชุมนุมและความเรียบร้อยของสถานที่ชุมนุมในกรณีวันที่ 17 พฤศจิกายน 63 ที่ผู้ชุมนุมพยายามหรือถอนเครื่องกีดขวางเพื่อเข้าไปในเขตควบคุมเจ้าหน้าที่ ที่มีหน้าที่ดำเนินการก็ได้เข้าควบคุมสถานการณ์โดยมิได้ดำเนินการเพื่อสลายการชุมนุมและเหมาะสมกับสถานการณ์ไม่เกินกว่าเหตุ 6.วันที่ 25 พฤศจิกายน 63 ผู้ชุมนุมยังคงสามารถใช้สิทธิ์เสรีภาพ รวมชุมนุมได้โดยไม่มีอุปสรรค
ฟ้องประยุทธ์เรียกค่าเสียหาย
เมื่อเวลา 10.30น.ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก ตัวแทนกลุ่มนิสิตนักศึกษาและภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน โดย น.ส.ศุกรียา วรรณายุวัฒน์, น.ส.หนึ่งฤทัย กิจการศุภฤกษ์ กับพวกรวม7 คน ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กับพวกรวม6 คน เป็นจำเลย เรื่องละเมิด เรียกค่าเสียหายจำนวนทุนทรัพย์ 3,500,000 บาท
กรณีสืบเนื่องจากช่วงกลางเดือน ต.ค. 2563 ที่ พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย(พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ) โดยมีผู้ได้รับความเสียหายจำนวนมาก
น.ส.หนึ่งฤทัย เปิดเผยถึงการฟ้องคดีนี้เป็นประเด็น พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เหมือนเดิม เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ ออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพทางการเมือง การเดินทาง ทางร่างกายและความคิด ซึ่งออกโดยมิชอบ โดยเรียกค่าเสียหายคนละ 5 แสนบาท เพราะคนทั่วไปไม่สามารถเดินทางโดยปกติได้จากการสั่งปิด BTS, MRT อาจทำให้เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ผู้ชุมนุมบางคนถูกจับกุม บางคนโดนแก๊สน้ำตา และไม่สามารถแสดงความเห็นทางการเมืองได้
ม็อบราษฎรยึด5แยกลาดพร้าว
เย็นวันเดียวกัน กลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎร กลุ่มปลดแอก แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมได้ชุมนุมกันที่บริเวณห้าแยกลาดพร้าว โดยมีตำรวจดูแล3กองร้อย ก่อนหน้านี้ เพจเฟชบุ๊ก แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ระบุว่าการชุมนุมดังกล่าวเพื่อเป็นการซ้อมต่อต้านรัฐประหาร
สำหรับประเด็นต่อต้านรัฐประหาร พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ถามกลับผู้ชุมนุมว่า “แล้วมีรัฐประหารหรือเปล่า”
เผยม็อบไม่ได้ขออนุญาตชุมนุม
พลตำรวจตรีปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้สัมภาษณ์ แสดงความห่วงใยถึงการชุมนุมที่ห้าแยกลาดพร้าว ส่วนในวันที่ 28 พฤศจิกายน มีการชุมนุมที่ ห้างอิมพีเรียลสำโรง อยู่ในเขตรับผิดชอบของ สภ.สำโรงเหนือ ก่อนเคลื่อนขบวนไปยังแยกบางนา เป็นพื้นที่ของ สน.บางนา และ วันที่ 29 พฤศจิกายน มีการประกาศรวมตัวกันที่ห้างอิมพีเรียลลาดพร้าว ในพื้นที่ของ สน.โชคชัย ซึ่งตลอดทั้ง 3 วัน กลุ่มผู้ชุมนุมยังไม่ได้แจ้งยื่นขอชุมนุมในสาธารณะกับเจ้าหน้าที่
พลตำรวจตรี ปิยะ ยอมรับ รู้สึกกังวลว่าการชุมนุมที่ห้าแยกลาดพร้าววันนี้ หากยังไม่มีการแจ้งขอเจ้าหน้าที่จัดการชุมนุมตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่จะไม่สามารถตั้งจุดคัดกรอง เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุมได้ และเกรงว่าอาจเป็นช่องโหว่ให้ผู้ชุมนุมบางกลุ่มนำอาวุธ หรือ สิ่งผิดกฎหมาย เข้าในพื้นที่ จนเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย วันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี