เชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง
‘บิ๊กตู่’ไม่หวั่น
ศาลรธน.ตัดสินปมบ้านพัก
วอนอย่าไปคาดการณ์ล่วงหน้า
เคารพคำพิพากษา-ผิดพร้อมออก
นายกฯไม่กังวล ศาลรธน.นัดอ่านคำวินิจฉัยปมบ้านพักทหาร 2 ธันวาคม ชี้อย่าไปคาดการณ์ล่วงหน้า พร้อมเคารพคำตัดสิน หากให้ย้ายก็พร้อมไป ไม่กลัวอาถรรพ์บ้านพักพิษณุโลก มั่นใจทำดีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ประธานวิปรัฐบาลปล่อยฟรีโหวตญัตติส่งศาลวินิจฉัยตั้ง สสร.ยังไม่คุยบัญชีนายกฯสำรอง เชื่อ ศาล รธน.อาจมีผลทางที่ดี ขณะที่‘ธนกร’ติง’พิชัย’ระวังละเมิดศาล‘แรมโบ้’ยืนยันนายกฯไม่ลาออก
เมื่อวันที่ 30พฤศจิกายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยเรื่องบ้านพักทหารในวันที่ 2ธันวาคม ว่า เป็นเรื่องวินิจฉัยของศาล อย่าไปคาดเดา วันนี้จะเห็นว่าทุกคนให้ความสำคัญเรื่องดังกล่าว ในส่วนตนไม่ได้คิดอะไรมากนัก เพราะเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ที่ตนเคารพ ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร วันนี้ไม่ขอวิจารณ์ ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมนัดรวมตัวกันที่ศาลรัฐธรรมนูญนั้น คิดว่าไม่น่าจะถูกต้อง การเดินทางไปกดดันในสถานที่ต่างๆอาจจะผิดกฎหมาย ซึ่งก่อนหน้านั้นศาลรัฐธรรมนูญเคยมีมาตรการมาแล้ว หลังจากที่คนไปประกาศและกดดันมาตรการต่างๆของศาลจนกลายเป็นคดีความ ขอให้ระมัดระวัง
บิ๊กตู่วอนอย่าคิดล่วงหน้าบ้านพัก
เมื่อถามว่า ได้เตรียมแผนรองรับหรือไม่หากศาลมีคำวินิจฉัยในทางลบ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ต้องว่ากันอีกทีว่าจะทำอย่างไรต่อไป อย่าเพิ่งไปคิดล่วงหน้า เมื่อคำตัดสินออกมาค่อยว่ากัน ย้ำว่าตนเคารพคำตัดสินของศาล ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร เมื่อถามว่า มีแนวคิดไปอยู่บ้านพักนายกฯที่ถนนพิษณุโลกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องดูความเหมาะสม เพราะขณะนี้ยังซ่อมแซมไม่เรียบร้อย แม้จะเคยซ่อมแซมมาแล้ว แต่ก็ชำรุดไปตามกาลเวลา
ห่วง3สถาบันหลักต้องเดินหน้าได้
เมื่อถามว่า ได้เตรียมบ้านพักข้างนอกไว้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนก็มีบ้านพัก ถ้าเขาไม่ให้อยู่ ก็ต้องไป เพียงแต่พื้นที่บ้านของตนมีความจำกัด คิดว่าคงไม่มีใครทำร้าย แต่ผู้นำทุกประเทศต้องได้รับความคุ้มครอง จะให้ตนโดดเดี่ยวคนเดียวคงไม่ใช่ ในต่างประเทศมีการคุ้มครองดูแล เมื่อถามว่า ได้มีการหารือกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ หากศาลตัดสินว่า ผิดทำให้ครม.หลุดจากตำแหน่งไปด้วย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ได้หารือกัน ขอให้ผลคำตัดสินออกมาก่อนค่อยว่ากัน อย่าไปคิดล่วงหน้า เมื่อถึงเวลาก็ตัดสินใจง่ายอยู่แล้ว ผลออกมาอย่างไรก็ตามนั้น ทุกอย่างมีคิดแบบระยะสั้นและระยะยาว ตนไม่ได้กังวลอะไร แต่กังวลอย่างเดียวคือ การทำอย่างไรให้ประเทศชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ มีความปลอดภัยและเดินไปข้างหน้าได้ เพราะเป็นแกนหลักของประเทศ
เชื่อทำความดี-สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง
เมื่อถามว่า มีแนวคิดไปอยู่บ้านพักนายกรัฐมนตรีที่ถนนพิษณุโลกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องดูความเหมาะสม เพราะขณะนี้ยังซ่อมแซมไม่เรียบร้อย แม้จะเคยซ่อมแซมมาแล้ว แต่ก็ชำรุดไปตามกาลเวลา อีกทั้งบ้านพิษณุโลกก็ใหญ่โตเกินไป ต้องไปดูว่าความเหมาะสมเป็นอย่างไร ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า บ้านดังกล่าวมีอาถรรพ์นั้น คิดว่าคงไม่ เมื่อเราตั้งใจไปทำความดีก็คงไม่ต้องกลัวอะไร พระตนก็ไหว้และคล้องพระด้วย อีกทั้งพระก็อยู่ในใจ หากเราทำความดีเพื่อชาติ แผ่นดินและพระมหากษัตริย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็จะคุ้มครอง ที่ตนยืนมาได้ทุกวันนี้เชื่อว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองตน เพื่อทำให้ประเทศไทยเจริญก้าวหน้า ตนก็ระมัดระวังหลายเรื่องทั้งเรื่องการทุจริตและทำผิดกฎหมาย ที่ผ่านมาทั้งหมดรู้แก่ใจตนดี และมีความละอายเกรงกลัวต่อบาป รวมทั้งมีหิริโอตัปปะ ตนนับถือศาสนาพุทธต้องนำมาปฏิบัติด้วย
‘อิทธิพล’ยันครม.ไม่กังวลทำงานปกติ
ด้าน นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์กรณีศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำวินิจฉัยคุณสมบัติ พล.อ.ประยุทธ์ กรณีพักบ้านหลวงว่า ขณะนี้ครม.ทุกคนยังคงทำหน้าที่ตามที่อย่างปกติ ครม.ไม่มีใครกังวลอะไร
เมื่อถามว่า ประเด็นนี้รัฐมนตรีแต่ละคนได้หยิบยกมาพูดคุยกันบ้างหรือไม่ นายอิทธิพลกล่าวว่า ไม่ได้คุยกันเพราะแต่ละคนถือว่า เรื่องนี้มีระเบียบภายในของกระทรวงกลาโหมอยู่แล้วเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การใช้บ้านพัก และประเด็นที่กระทรวงกลาโหมชี้แจงไปนั้น คำถามกับคำตอบสามารถตอบกันได้อยู่แล้ว และภาพรวม พล.อ.ประยุทธ์ ก็สั่งการติดตามงานปกติไม่มีสัญญาณอะไรเลยว่า ครม.จะต้องกังวลอะไรกับเรื่องนี้ อีกทั้งประเด็นดังกล่าวทาง พปชร.ไม่มีความเป็นห่วง
‘วิรัช’เผย1ธค.ถกพรบ.ประชามติ
นายวิรัช รัตนเศรษฐ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 1ธันวาคม ว่า เป็นการประชุมเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พรบ.) ออกเสียงประชามติ ซึ่งเป็นร่างที่ ครม.เสนอเข้ามาให้รัฐสภาพิจารณา แต่ทราบว่าฝ่ายค้านก็เสนอร่าง พรบ.ออกเสียงประชามติส่งให้ประธานรัฐสภาบรรจุเข้าวาระเพื่อให้พิจารณาพร้อมกันกับร่างของรัฐบาลด้วยเช่นกัน แต่เนื่องจากร่างที่ฝ่ายค้านเสนอเข้าข่ายกฎหมายการเงิน จึงต้องนำกลับไปให้ ครม.พิจารณารับรองอีกครั้งในที่ประชุมครม.ในวันที่ 1ธันวาคม ประเด็นปัญหาอยู่ที่ว่า แม้ ครม.จะรับรองร่างของฝ่ายค้านแต่ร่างของฝ่ายค้านไม่เข้าข่ายกฎหมายปฎิรูป จึงต้องนำมาเข้าพิจารณาในสภาเดียวคือ สภาผู้แทนราษฎร
ลงมติส่งศาลวินิจฉัยแก้ไขรธน.
นายวิรัช กล่าวว่า วันที่ 1ธันวาคม ที่ประชุมรัฐสภาจะพิจารณาญัตติขอความเห็นชอบว่าจะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอำนาจของรัฐสภาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา256ว่า สามารถทำได้หรือไม่ โดยเบื้องต้นที่ประชุมวิปรัฐบาลหลายคนอยากให้ฟรีโหวต ใครอยากตรวจสอบความถูกต้องก็ควรโหวตส่งให้ศาลวินิจฉัย แต่หากใครคิดว่าไม่จำเป็นต้องตรวจสอบ ก็ให้งดออกเสียง หรือลงเสียงไม่เห็นด้วย เบื้องต้นคาดว่าจะลงมติฟรีโหวต ซึ่งยอมรับว่า กังวลเรื่องศาลรัฐธรรมนูญเตรียมอ่านคำวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกฯและรมวงกลาโหม กรณีใช้บ้านพักทหารหลังเกษียณอายุราชการ แต่ตอนนี้ยังไม่มีการพูดถึงบัญชีรายชื่อนายกสำรอง หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง ให้รอฟังคำวินิจฉัยของศาลก่อน เชื่อว่าผลการวินิจฉัยอาจจะออกมาในทางที่ดีก็ได้
ปชป.คัดค้านส่งศาลรธน.วินิจฉัย
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม สส.พรรคประชาธิปัตย์ มีมติร่วมกันจะลงมติไม่เห็นชอบญัตติเสนอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอำนาจของรัฐสภาแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา256 เพราะร่างแก้ไขผ่านความเห็นชอบรับหลักการจากรัฐสภา ผ่านการตรวจสอบจากพรรคการเมืองต่างๆ อย่างรอบคอบ ไม่จำเป็นต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอีก ซึ่งการรับหลักการในที่ประชุมร่วมรัฐสภา ก็เป็นการตอกย้ำว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญชอบด้วยรัฐธรรมนูญแล้ว
‘ธนกร’ติง’พิชัย’ระวังละเมิดศาล
นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายพิชัย นริพทะพันธ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่า วันที่ 2ธันวาคม หาก พล.อ.ประยุทธ์ ตกเก้าอี้ จะยุติปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจว่า นายพิชัย ทำตัวเป็นหมอดูคู่หมอเดา ต้องระวังว่า จะละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ อย่าไปก้าวล่วงเลย ตนเชื่อมั่นในความดีความซื่อสัตย์สุจริตของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ผ่านมาพรรคของ นายพิชัย มีปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นมาโดยตลอด แต่ออกมากดดันทุกรูปแบบ หรือเป็นเพราะอยากจะเป็นรัฐบาลมากกว่าการสนใจความเดือดร้อนของประชาชน
‘แรมโบ้’ยืนยันนายกฯไม่ลาออก
นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าให้สัมภาษณ์หากนายกฯลาออกสถานการณ์จะคลี่คลาย แต่ยังไม่จบจนกว่าจะครบ 3 ข้อเรียกร้องว่า การที่ นายธนาธร ออกมาพูดเช่นนี้ทำให้ประชาชนเห็นแล้วว่า จุดหมายที่แท้จริงไม่เพียงแต่อยากให้นายกฯลาออก เพื่อหวังผลประโยชน์ให้ตนเองและพวกพ้องจะได้มีโอกาสเข้ามาเป็นรัฐบาล ยังอยากที่จะล้มล้างสถาบันให้ได้ ยิ่งออกมาพูดเช่นนี้เชื่อว่า นายกฯจะยิ่งไม่ถอยไม่ลาออก เพื่อสนองความต้องการของคนประเภทนี้แน่นอน อย่าลืมว่านายกฯมาจากการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ
‘พท.’แนะปชช.จับตาคำวินิจฉัย
น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีเดียวกัน ว่า เป็นอีกคดีหนึ่งที่ประชาชนคนไทยเฝ้าจับตามองการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระ โดยเจตนารมณ์ขององค์กรอิสระที่ก่อตั้งขึ้นตามรัฐธรรมนูญปี 40 มีหน้าที่ตรวจสอบแทนประชาชนด้วยความเป็นกลางและเป็นธรรมอย่างเป็นอิสระ แต่ที่มาผ่านองค์กรอิสระที่ก่อตั้งขึ้นภายใต้การแต่งตั้งของ คสช.ทำให้สังคมตั้งคำถามถึงการทำหน้าที่ขององค์กรเหล่านั้น เพราะบางเรื่องขัดกับความรู้สึกของประชาชาน ตลอดเวลาที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯที่มีความสามารถอยู่อย่างเดียว คือ ดึงเอาองคาพยพ ทั้งรัฐราชการ ทหาร ตำรวจมาปกป้องตัวเอง จนทำให้ประชาชนหมดศรัทธากับเจ้าหน้าที่ ระบบยุติธรรม ระบบข้าราชการเสียหาย กลายเป็นปัญหาฝังลงลึกจนแก้ไขได้ยากและหนักกว่าเดิม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี