"สุทิน"ยังแบ๊ะ "หญิงหน่อย"ยกก๊วนลาออกเพื่อไทย ยกเคสเทียบปมชี้ชะตา"บิ๊กตู่" ปลอบใจยังนั่งแคนดิเดตนายกฯพรรคอยู่
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2563 ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส. มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และแกนนำคนสำคัญของพรรคเพื่อไทยหลายคน ลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย ว่า ยังไม่ทราบเหตุผลการตัดสินใจในครั้งนี้ และไม่ทราบว่าบุคคลที่ลาออกไปนั้นจะมีการตั้งพรรคการเมืองใหม่ขึ้นมาหรือไม่ โดยตอนนี้ที่มีความชัดเจน คือ การแยกกันทำงาน แต่ยังไม่สามารถตอบได้ว่า การแยกกันทำงานครั้งนี้เป็นปัจจัยจากรัฐธรรมนูญ หรือเป็นยุทธศาสตร์หรือมีปัญหาสั่นคลอนในพรรคเพื่อไทย โดยสามารถมองได้ทั้ง 2 แบบ แต่คิดว่ากลุ่มคนที่ลาออกไปยังคงมีอุดมการณ์เช่นเดียวกับพรรคเพื่อไทย เพียงแต่อาจมีวิธีการทำงานที่ต่างกัน
นายสุทิน กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีคุณหญิงสุดารัตน์ ที่เป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีลาออกไป พรรคเพื่อไทยจะสามารถรองรับสถานการณ์ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำวินิจฉัยคดีบ้านพักทหารของนายกรัฐมนตรี ที่อาจเกี่ยวพันกับสถานะของนายกรัฐมนตรีนั้น ยังมีข้อสงสัยในข้อกฎหมายว่าเมื่อคุณหญิงสุดารัตน์ ลาออกจากสมาชิก พรรคจะยังคงอยู่ในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีที่พรรคยื่นไว้ต่อ กกต.หรือไม่ แต่หากเทียบเคียงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ จึงคาดว่าคุณหญิงสุดารัตน์น่าจะยังคงอยู่ในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย อย่างไรก็ตาม ไม่ได้เตรียมพร้อมสถานการณ์การอ่านคำวินิจฉัยพรุ่งนี้ (2 ธ.ค.) แต่เป็นกังวล ผลที่จะเกิดจากคำวินิจฉัย โดยหวังว่าคำวินิจฉัยที่ออกมาจะมีเหตุผลทำให้ทุกฝ่ายยอมรับได้
ประธานวิปฝ่านค้าน กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภา พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ว่ายังมีปัญหาข้อกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลอ้างว่าร่างกฎหมายดังกล่าวเข้าข่ายการปฏิรูปประเทศ จึงเสนอให้ที่ประชุมร่วมรัฐสภาให้ความเห็นชอบ ดังนั้น จะรอฟังคำชี้แจงจากผู้เสนอร่างว่า เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปประเทศอย่างไร แต่เบื้องต้นสันนิษฐานว่า รัฐบาลต้องการให้ทางกฎหมายผ่านโดยเร็วเพื่อรองรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรืออยากให้ผ่านโดยเร็ว เพราะมีเนื้อหาบางส่วนที่ไม่ได้เปิดกว้างให้รณรงค์หรือแสดงความคิดเห็น รวมถึงรัฐบาลก็มีเสียงมากกว่าในที่ประชุมร่วมรัฐสภา
นายสุทิน กล่าวว่า ขณะที่ร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ของฝ่ายค้าน จะเสนอไปที่สภาผู้แทนราษฏร แต่ติดปัญหาว่าจะเข้าข่ายเป็นกฎหมายการเงินหรือไม่ ทำให้ต้องรอให้นายกรัฐมนตรีเซ็นรับรองเพื่อเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร จึงส่งผลให้เกิดปัญหาว่าร่างกฎหมายฉบับเดียวกันแต่เสนอแยกให้พิจารณาสองสภา หากผ่านการพิจารณาต้องตั้งกรรมาธิการแยก 2 คณะ ซึ่งจะทำให้เกิดความวุ่นวายซับซ้อน อันเป็นผลจากรัฐธรรมนูญที่ไม่บัญญัติเรื่องประเภทกฎหมายให้ชัดว่าควรเข้าสู่การพิจารณาของสภาใด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี