“จตุพร”ตบปาก“สุนัย”นักการเมืองเอาแต่หนี แล้วมีความกล้า อวดรู้ เก่งวิจารณ์สถาบันนอก ปท. ซัดแรง หัวขาวไม่พอยังตาขาว ขี้ขลาด ถามหนีคดีอะไรไป ตปท. ท้ากลับมาสู้ใน ปท. เหน็บไม่อาย นศ.ที่กล้าสู้
เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2563 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟชบุ๊คไลฟ์ peace talk โดยตอบโต้นายสุนัย จุลพงศธร โพสต์ข้อความจากสหรัฐเชิงดูถูกเหยียดหยามตนในความเป็นประชาธิปไตยหรือเผด็จการ
ทั้งนี้ นายสุนัย ระบุว่า "พรรคทิ้งคนหรือคนทิ้งพรรค มีแฟนคลับอยากให้พูดถึงจตุพร ที่ทิ้งพรรคแล้วโจมตีพรรคเพื่อไทยไปหนุนนายบุญเลิศ แข่งกับคนของพรรค ผมไม่อยากตอบโต้นายจตุพร แต่อยากให้ดูเส้นทางเดินของเขาเอง ทั้งๆที่นายบุญเลิศ ไปสวามิภักดิ์กับนายธรรมนัส และตามรูปถ่ายไปร่วมกับพรรคพลังประชารัฐแล้ว ผู้ใหญ่ในพรรครู้ดี และในยามพรรคยากลำบากนี้พรรคไม่อยากทิ้งใคร แต่ต้องอดทนดูต่อไป เพราะจตุพร จะทำอะไรให้ดูมากกว่านี้"
นายจตุพร โต้ว่า นายสุนัย นับแต่การยึดอำนาจปี 2549 พวกตนมาตั้งพีทีวี แต่คณะ คมช.ไม่ให้ออกอากาศ จึงไปชุมนุมที่สนามหลวง โดยนายสุนัย เป็น ส.ส.ไทยรักไทย หายตัวไปอย่างลึกลับ แล้ววันหนึ่งห่มจีวรมาเจอพวกตน และบอกว่าที่หายไปนั้น ไปอยู่สหรัฐ ทั้งที่ไม่มีหมายจับ หรือไม่มีเหตุต้องหลบลี้หนีภัยเลย
เมื่อพวกตนต่อสู้จนบ้านเมืองมีการคืนอำนาจ มีการเลือกตั้ง นายสุนัยก็โผล่หน้าแสดงความรู้ ความสามารถ จนกระทั่งยึดอำนาจ ปี 2557 นายสุนัยก็ไปอยู่สหรัฐแล้ว ทั้งที่ไม่มีคดีความอะไรจากการต่อสู้ที่ผ่าน ด้วยพฤติกรรมเช่นนี้ นอกจากหัวขาวแล้วยังตาขาวอีก
ส่วนคำว่าพรรคทิ้งคน หรือคนทิ้งพรรคนั้น ตนอยากให้นายสุนัยทบทวน ว่า การเลือกตั้งปี 2557 นายสุนัยลงระบบบัญชีรายชื่อเหมือนกับตน และเหมือนกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ซึ่งสังกัดพรรคเพื่อไทย แต่ในช่วงนั้น นายสุนัย เคยชี้หน้าว่า ร.อ.ธรรมนัสหรือไม่
ดังนั้น กรณีที่เกิดขึ้นกับเชียงใหม่ เมื่อตนไปต่างจังหวัดจึงรู้ว่าใครเป็นใคร แม้แต่คนในพรรคเพื่อไทยในปัจจุบันจะกล้าปฏิเสธตระกูลบูรณุปกรณ์หรือไม่ เพราะกว่า 10 ปีมานี้ ตระกูลนี้เป็นคนมีน้ำใจและมาต้อนรับดูแลพรรคเพื่อไทยประจำเป็นอย่างดี กระทั่งถึง ปี 2557 เมื่อ คสช.ยึดอำนาจ นายสุนัยก็หนีไปอีก ทั้งที่ไม่มีคดีอะไรเลย ปอดแหก ตาขาว ขี้ขลาดที่สุด ช่วงทำประชามติ นปช.กับพรรคเพื่อไทยมีจุดยืนเหมือนกันไม่รับร่าง รธน. 2560 แต่นายสุนัยกลับหนีหัวหด
จากนั้นถึงเลือกตั้งทั่วไปปี 2562 ทุกพรรคไปเปิดสาขาที่เชียงใหม่ นายบุญเลิศ ในฐานะนายก อบจ.ก็ไปแสดงความยินดีทุกพรรคการเมือง ไมได้ไปเฉพาะพรรคพลังประชารัฐพรรคเดียว กระทั่งถูกผลักออกพรรคเพื่อไทย แล้วตราหน้าว่า เป็นพลังประชารัฐ ซึ่งตนเห็นว่าไม่ได้รับความยุติธรรม
นายจตุพร กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยทิ้งเขา แต่ตนไม่มีหน้าที่จะมาทิ้งเขา สุนัยอธิบายความว่า ตนทิ้งพรรคโดยความหมายเช่นนั้น แต่ตนถูกขังคุกมาไม่เหมือนสุนัย เพราะ รธน.ห้ามลงสมัคร ส.ส. 10 ปี และขณะนี้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองไหนก็ไม่ได้ ตนยึดหลักความถูกต้อง และไม่เชื่อว่าพรรคการเมืองจะทำอะไรถูกทุกอย่าง ตนก็มีเรื่องเห็นต่างมากมาย
"ผมถามสุนัยว่า วันนี้คุณพูดในฐานะอะไร ในฐานะพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ คุณบอกคนอื่นทิ้งพรรค แต่วันนี้คุณเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ และที่คุณพูดทั้งหมดนั้นในนามพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ เพราะคุณไปวิพากษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ คุณมันปอดแหก เทียบไม่ได้กับนักศึกษา ถามว่าการพูดทั้งหมดนี้พรรคเพื่อไทยรู้เห็นเป็นใจกับคุณหรือไม่ คุณอย่ามาสั่งสอนเรื่องการรักพรรค"
นายจตุพร กล่าวว่า ดูเหมือนนายสุนัยจะกล่าวหาว่าตนย้ายขั้ว ย้ายข้างแล้ว หากเป็นเช่นนั้น ตนจะรอไปทรยศพรรคที่เชียงใหม่หรือ คุณไม่รู้หรือว่าอะไรที่เกิดขึ้นมากมายในช่วงที่ผ่านมา แต่คุณกลับสร้างมาตรฐานที่เลวทรามที่สุด
"ผู้สมัคร อบจ.คนหนึ่งของพรรคเพื่อไทย เป็นถึงฝ่ายยุทธศาสตร์ภาคของพรรคพลังประชารัฐ แสดงตัวชัดเจน แต่พรรคเพื่อไทยเอามาลง และยกโขยงไปฟอกตัวจนกลายเป็นนักประชาธิปไตยขึ้นมาแล้ว แล้วพรรคเพื่อไทยมีมาตรฐานอะไรบ้าง น้ำหน้าอย่างคุณมาชี้หน้าผมไม่ได้ ต้องไปดูตัวเองก่อน ผมไม่ขี้ขลาดตาขาวอย่างคุณ แน่จริงมาประเทศไทย ถามอีกครั้งคุณถูกดำเนินคดีเรื่องอะไร ลองบอกมา พอยึดอำนาจปี 2557 คุณหนีแล้ว และสังคมบ้าก็ยกย่องคนกล้าที่หนี”
นายจตุพร กล่าวว่า ดังนั้น ตนจึงกล้าวิจารณ์ตรงๆกันนายสุนัย ซึ่งไม่อายเด็กหรือที่กล้าวิจารณ์ในประเทศ แต่สุนัยไม่เคยสัมผัสคนยากจนอยู่ในเรือนจำเป็นอย่างไร เพราะคุณไม่เคยเจอ ไม่เคยเห็น เพราะคุณมันขี้ขลาด
“แต่หลักการที่คุณบอกให้จับตาดูผม มาจับตาในประเทศไทยสิ อวดดีโดยไม่รับผิดชอบ แต่ไปหาเรื่องวิจารณ์สถาบันอยู่ต่างประเทศ ซึ่งไม่อายเด็กมันหรืออย่างไร ถามอีกครั้งวันนี้คุณโดนคดีอะไร จึงต้องหนีไปทำหอกอะไรต่างประเทศ”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี