ศาลรธน.แจ้งเอาผิด‘กวิ้น’
คดีดูหมินศาล!
‘ปราศรัย-โพสต์’บิดเบือน
ปมวินิจฉัยบ้านพักหลวง
ตร.จ่อฟันแกนนำราษฎร
ชุมนุมปิดห้าแยกลาดพร้าว
‘เรืองไกร’ตามเช็คบิลบิ๊กตู่
ศาลรัฐธรรมนูญ แจ้งความ เอาผิด“เพนกวิน” โพสต์หมิ่นศาลบิดเบือน ปมตัดสินคดีบ้านหลวง“นายกฯ” ตำรวจสำรวจหลังม็อบราษฎรชุมนุมปิดห้าแยกลาดพร้าว พบความเสียหายบริเวณถนน และกำแพง ประสานผู้เสียหาย เข้าแจ้งดำเนินคดีให้ถึงที่สุด“บิ๊กตู่”ไม่ตอบ
คำถามใดโบกมือยกนิ้วไอเลิฟยู ให้สื่อ บิ๊กป้อม วอนเลิกชุมนุมห่วงโควิดระบาด ซีกรัฐบาล เตือน‘เพื่อไทย-ก้าวไกล-ราษฎร’เคารพ น้อมรับคำวินิจฉัยศาล รธน. ระวังละเมิดศาลจะมีความผิด ขณะที่‘เรืองไกร’ไม่จบ ลุยตามเช็คบิล‘บิ๊กตู่’
เมื่อเวลา 14.00น.วันที่ 3ธันวาคม ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บก.ปอท.) ส.ต.ท.มนตรี แดงศรี ผู้อำนวยการกลุ่มงานนิติการ ศาลรัฐธรรมนูญ เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.นิติธร เดชระพีร์ รองผกก.(สอบสวน)กก.3 บก.ปอท.ให้ดำเนินคดีนายพริษฐ์ ชิวารักษ์หรือเพนกวิน หนึ่งในแกนนำคณะราษฎร หลังโพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กตัวเองพาดพิงโจมตีการทำหน้าที่ของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจนเกิดความเสื่อมเสียซึ่งใช้เวลาให้ปากคำนาน1ชั่วโมงครึ่ง
โดย ส.ต.ท.มนตรีกล่าวว่าได้ตรวจสอบข้อมูลจากสื่อและสื่อออนไลน์ พบข้อความการปราศรัยบางส่วนของนายพริษฐ์ ในการชุมนุมที่ห้าแยกลาดพร้าวเมื่อค่ำวันที่3ธันวาคม ที่เข้าข่ายดูหมิ่นศาลจึงรับมอบอำนาจจากศาลรัฐธรรมนูญ มาแจ้งความดำเนินคดีตามความในมาตรา198 กฎหมายอาญา เบื้องต้นอยู่ที่พนักงานสอบสวน จะพิจารณาดำเนินคดีผู้กระทำผิดว่าจะมีใครบ้าง ส่วนกรณีการแสดงละคร ล้อเลียนการวินิจฉัยของศาลนั้น ก็กำลังพิจารณาว่าเข้าข่ายความผิดใดหรือไม่ เชื่อว่าจะมีการดำเนินการตามกฎหมายอีกแน่นอน เบื้องต้น พนักงานสอบสวนรับเรื่องไว้เป็นคดี พร้อมสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
สำหรับประมวลกฎหมายอาญามาตรา198 กำหนดไว้ว่าผู้ใดดูหมิ่นศาล หรือผู้พิพากษาในการพิจารณาหรือพิพากษาคดี หรือกระทำการขัดขวางการพิจารณา หรือพิพากษาของศาลต้องระวางโทษจำคุกตั้ง 1-7 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-140,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตร.สรุปชุมนุม5แยกลาดพร้าว
ก่อนหน้านี้ ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ร่วมกันแถลงข่าวเกี่ยวกับการดำเนินการการชุมนุมหลังกลุ่มเห็นต่างทางการเมืองบริเวณห้าแยกลาดพร้าว เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยพล.ต.ต.ปิยะ เปิดเผยว่า กรณีการชุมนุมเมื่อวานนี้ ทางกลุ่มผู้ชุมนุมรวมตัวเวลา 13.30 น. ลงจากฟุตปาธมา บริเวณ ถ.พหลโยธิน กลุ่มการ์ดตั้งวางสิ่งของปิดกั้นถนน บริเวณห้าแยกลาดพร้าว ตำรวจจราจร บก.จร. และสน.พหลโยธิน ก็อำนวยความสะดวกให้ จนกระทั่งเมื่อเวลา 17.05 น . พ.ต.อ. อรรถวุฒิ นิวาตโสภณ ผกก.สน.พหลโยธิน ประกาศให้ผู้ชุมนุมยุติการชุมนุมเวลา 18.00 น. แต่กลุ่มผู้ชุมนุมเพิกเฉย ชุมนุมต่อจนถึง 01.00 น. วันที่ 3 ธ.ค. ปรากฎความเสียหายฉีดสี ที่ถนนและกำแพง บริเวณห้าแยกลาดพร้าว พนักงานสอบสวนได้ประสานผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์แล้ว
กระทบกระทั่งกับผู้ใช้รถใช้ถนน
ส่วน การกระทบกระทั่ง ของผู้ใช้ถนนกับ การ์ดราษฎร พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า การชุมนุมโดยสงบเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่การ์ดผู้ชุมนุมทำร้ายประชาชนและทำลายสิ่งของ ถือว่าเป็นการผิดกฎหมายต้องถูกดำเนินคดี กรณีดังกล่าวเป็นความผิดส่วนตัว ผู้เสียหาย 1 คนประสานขอเข้าแจ้งความกับตำรวจ ส่วนมีความผิดที่เกิดขึ้นนั้น พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ ทำให้เสียหายทำให้เสื่อมค่าทรัพย์สาธารณะประโยชน์ ทำให้สกปรกความผิดตาม พ.ร.บ.ความสะอาด ส่วนมีกรณีฝ่าฝืนเจ้าพนักงานหรือไม่ ต้องพิจารณา รวมถึงการกล่าวพาดพิงคนอื่นให้เสียหาย พร้อม ฝากพี่น้องสื่อมวลชนยืนยันว่าการชุมนุมเป็นการใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญปราศจากอาวุธต้องไม่ละเมิดสิทธิ์ผู้ใด แต่กรณีดังกล่าวทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ขอให้หยุดการกระทำดังกล่าว ขอให้ใช้สิทธิ์ของสภาผู้แทนราษฎร หรือใช้ช่องทางอื่นๆ เคลื่อนไหว ตำรวจประสานงานในเบื้องต้นเพื่อทำให้การชุมนุมกระทบกับบุคคลอื่นให้น้องที่สุด ส่วนกรณีการ์ดเป็นปัญหาเหมือนทุกม็อบที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยได้ดีกว่าการ์ดผู้ชุมนุมหากมีการประส านมา ส่วนการจำลองศาลรัฐธรรมนูญ มีการเผาหุ่นผู้พิพากษานั้น กรณีดังกล่าวต้องมีการพิจารณา เนื่องจาก มีการกล่าวคำหยาบกล่าวคำใดๆ ทำให้ศาลรัฐธรรมนูญเสียหายนั้น ก็เข้าข่ายละเมิดอำนาจศาล
ย้ำต้องแจ้งการชุมนุมทุกครั้ง
ด้านพ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า การไปยื่นหนังสือที่ สถานทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย เพื่อเรียกร้องกรณีการหายตัว ของนาย วันเฉลิม ต้องพิจารณาว่าเข้าข่ายมีความผิดการชุมนุมสาธารณะหรือไม่ การชุมนุมเป็นสิทธิของผู้ชุมนุม แกนนำทราบอยู่แล้วว่า จำเป็นต้องแจ้งการชุมนุม เพื่อวางมาตราการการดูแลรักษาความปลอดภัย การชุมนุมจำนวนคนระยะเวลา ถ้าเริ่มจากการไม่แจ้งการชุมนุม สุดท้ายต้องถูกดำเนินคดี ส่วนสถานทูตกัมพูชา มีการประสานงานมาหรือไม่ ไม่ได้มีการประสานงานอะไรพิเศษ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ และสันติบาลมีการดูแลบริเวณดังกล่าว
‘บิ๊กป้อม’ขอเลิกชุมนุมเสี่ยงโควิด
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ที่พบผู้ติดเชื้อในกทม.ห่วงใยหรือไม่ เนื่องจากยังมีการรวมตัวชุมนุมกัน ว่า ก็ต้องไปถามผู้ชุมนุม เราไม่อยากให้ชุมนุม เมื่อถามว่า ยังมีการประกาศใช้พรก.ฉุกเฉินฯอยู่ จะใช้กฎหมายนี้ป้องกันโรคระบาดได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ช่วยไปบอกเขาหน่อย ว่ามีพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ไม่ให้ชุมนุม เมื่อถามต่อว่า พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ไม่สามารถยังยั้งให้ออกมาชุมนุมได้ จำเป็นต้องออกเป็นพ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอความร่วมมือ
‘บิ๊กตู่’โบกมือ ไม่ตอบคำถามสื่อ
ภายหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม อาศัยบ้านพักรับรองของกองทัพบกไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เป็นไปตามระเบียบกองทัพบก
เวลา 10.20 น.พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางปฏิบัติภารกิจตามปกติ เป็นประธานพิธีเปิดงานมอบนโยบายและทิศทางการขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัลและแสดงความยินดีกับหน่วยงานที่ได้รับรางวัลพร้อมทั้งมอบรางวัลรัฐบาลดิจิทัล ในงานมอบรางวัลรัฐบาลดิจิทัลประจำปี2563 “DG Awards 2020” หลังเสร็จสิ้นงาน พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์พร้อมโบกมือให้กลุ่มสื่อมวลชนและช่างภาพก่อนขึ้นรถเดินทางกลับทำเนียบรัฐบาล ก่อนกลับได้ส่งมือสัญลักษณ์ไอเลิฟยูให้กับผู้ที่มารอส่งด้วย
‘วิษณุ’แจงปมคำสั่งคสช.ขัดรธน.
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคำร้องโต้แย้งของนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์นิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ฉบับที่ 29/2557เรื่องให้บุคคลมารายงานตัวตามคำสั่งคสช.และประกาศฉบับที่ 41/2557 เรื่องกำหนดให้การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเรียกบุคคลให้มารายงานตัวเป็นความผิดโดยศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเป็นเอกฉันท์ว่าประกาศทั้งสองฉบับขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญว่าส่วนตัวยังไม่ได้เห็นคำวินิจฉัยดังกล่าว เห็นแต่จากข่าวที่สรุปเท่านั้นซึ่งก็วินิจฉัยให้ประกาศ คสช.ทั้งสองฉบับใช้ไม่ได้ซึ่งตอนที่ประกาศทั้งสองฉบับออกมานั้น ใช้ได้ แต่พอมีรัฐธรรมนูญ2560ออกมา จึงขัดกับรัฐธรรมนูญ ฉะนั้น เมื่อขัดกับรัฐธรรมนูญประกาศ จึงใช้ไม่ได้ตั้งนั้นเป็นต้นไป
ระบุไม่สามารถฟ้องย้อนหลังได้
เมื่อถามว่าจะมีผลย้อนหลังกับผู้ที่ถูกประกาศ คสช.เรียกตัวในกรณีอื่นๆหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่มี แต่จะมีผลตั้งแต่วันที่รัฐธรรมนูญ 60 ประกาศใช้ซึ่งคำสั่งออกตั้งแต่ปี2557และตอนนั้นไม่มีรัฐธรรมนูญ จึงใช้ได้แต่พอรัฐธรรมนูญออกมา ก็ยังไม่มีใครวินิจฉัยว่าขัดหรือไม่ขัด แต่มาตอนนี้วินิจฉัยว่าขัด จึงต้องขัดมาตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.60 ซึ่งเป็นวันที่รัฐธรรมนูญ 2560 ประกาศใช้ ซึ่งก็ไม่ได้มีผลอะไรเพราะไม่ได้กักขัง หรือเรียกตัวใครอยู่แล้ว เมื่อถามว่า ผู้ที่ถูกเรียกตัวจะสามารถฟ้องร้องย้อนหลังได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่าก็ไม่น่าจะได้ เพราะเจ้าหน้าที่ทำไปด้วยความที่ไม่เข้าใจว่า ทำไปโดยไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เพราะยังไม่มีคำวินิจฉัยซึ่งถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติตาม ก็จะผิด แต่หากตอนนี้จะมีการดำเนินคดีกับใคร ก็ต้องหยุดทั้งหมด ซึ่งตนไม่แนใจว่ามีค้างอยู่อีกกี่ราย
เตือน‘ก้าวไกล-ม็อบ’เคารพศาลรธน.
นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ไม่มีความผิดกรณีอยู่บ้านพักของกองทัพบก ว่า ตนอยากให้ทุกฝ่ายเคารพคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะแกนนำพรรคก้าวไกล รวมทั้งคณะราษฎร ไม่ควรปลุกกระแสสร้างความขัดแย้งในสังคม ทุกฝ่ายต้องยอมรับคำวินิจฉัยของศาล ทั้งนี้ ต้องขอบคุณศาลรัฐธรรมนูญที่ให้ความเป็นธรรมกับ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ยังเป็นนายกฯ และทำงานให้กับพี่น้องประชาชนต่อไป โดยเฉพาะการแก้ปัญหาโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบในหลายๆ ด้าน
ระวังละเมิดศาลมีความผิด
นายธนกรกล่าวว่าอยากจะเตือนแกนนำคณะราษฎรว่าขอให้ระวังการละเมิดอำนาจศาล ทุกอย่างเป็นไปตามหลักฐาน ข้อเท็จจริง การที่แกนนำคณะราษฎร ปราศรัยโจมตีศาลรัฐธรรมนูญเป็นการละเมิดอำนาจศาลและยังมีการบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อโจมตีรัฐบาล โจมตีพล.อ.ประยุทธ์ ทั้งๆ ที่ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเห็นพฤติกรรมแกนนำม็อบบางคนแล้วไม่มีความยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมืองเลย หากยังมีการจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ตลอดเวลา ขอให้เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด บ้านเมือง มีขื่อมีแป ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ใครทำผิดกฎหมาย ต้องได้รับโทษ ไม่ใช่มีมวลชนกลุ่มหนึ่ง แล้วทำตัวใหญ่คับเมือง ควรเห็นหัวของประชาชนทั้งแผ่นดินบ้าง
“แรมโบ้” ขอบคุณศาล รธน.
นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณศาลรัฐธรรมนูญในคำวินิจฉัยและแถลงด้วยวาจากรณีนายกฯใช้บ้านพักรับรองกองทัพบก ไม่มีความผิด และไม่พ้นจากตำแหน่ง เป็นไปตามระเบียบกองทัพบก ทำให้เห็นแล้วว่าศาลรัฐธรรมนูญมีความยุติธรรม ตัดสินอย่างตรงไปตรงมาตามข้อมูล หลักฐาน ที่มีอยู่ตามหลักกฎหมายในสาระข้อเท็จจริง ประชาชนส่วนใหญ่ส่งกำลังใจและเชียร์ให้นายกฯอยู่บริหารประเทศต่อไปเพราะนายกฯเป็นบุคคลที่เสียสละทุ่มเททำงานอย่างจริงใจ ตั้งใจให้กับประเทศชาติและประชาชน
จี้ฝ่ายค้านน้อมรับหยุดวิจารณ์
ขอให้ฝ่ายค้านน้อมรับคำตัดสินของศาลรธน. ขออย่านำเรื่องนี้ไปวิพากษ์วิจารณ์ให้นายกฯ เกิดความเสียหายอีก และที่ศาลวินิจฉัยให้นายกฯไม่พ้นจากตำแหน่ง คงทำให้นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการ กระอักเลือดหรือแทบอกแตกตายเป็นแน่แท้ที่คิดจะเข้าชื่อเสนอคำร้องต่อประธานสภาฯให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เรื่องนี้ก็คงจะหวังผลแบบลมๆ แล้งๆ ที่จะได้เข้ามาเป็นรัฐบาลเอง
‘เรืองไกร’ลุยเช็คบิล‘บิ๊กตู่’ต่อ
ขณะที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)และอดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่าตนได้นัดหมายกับพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎรเพื่อยื่นหนังสือ ขอให้สอบหาข้อเท็จจริงตามที่ศาลรัฐธรรมนูญไว้วินิจฉัยว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหมได้รับสิทธิอยู่บ้านพักรับรองรวมทั้งค่าไฟค่าน้ำ ตามระเบียบกองทัพบก ไม่ต้องพ้นจากตำแหน่งตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญจากคำวินิจฉัยดังกล่าวจึงเป็นเหตุให้พล.อ.ประยุทธ์เข้าข่ายมีความผิดตามพรป.ป.ป.ช.2561มาตรา128ถือได้ว่ารับประโยชน์เกิน3,000 บาท
“ระเบียบกองทัพบก ไม่ได้ออกโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายและไม่พบในราชกิจจานุเบกษาจึงไม่อาจนำมาอ้างอิงกับกฎหมาย ป.ป.ช.มาตรา128 ได้ เรื่องนี้แม้พล.อ.ประยุทธ์รอดจากศาลรัฐธรรมนูญแต่ก็ไม่น่าจะรอดความผิดฐานรับประโยชน์อื่นใดเกิน3,000บาทซึ่งมีอัตราโทษจำคุกตามมาด้วย”นายเรืองไกร ย้ำ
‘ชวน’สั่งงดประชุมสภา9-10ธค.
ที่รัฐสภา ได้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุมซึ่งได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า มีการงดการประชุมสภาฯในวันที่ 9-10 ธันวาคมเพื่อให้สมาชิกลงพื้นที่พบประชาชนในวันหยุดราชการต่อเนื่อง ดังนั้นจะมีการประชุมชดเชยในวันที่ 25 ธ.ค.เพื่อพิจารณาเฉพาะญัตติที่ค้างอยู่เท่านั้นซึ่งขณะนี้มีญัตติค้างอยู่ประมาณ 182 ญัตติ โดยแบ่งเป็น 22 กลุ่ม
ทั้งนี้ ในการประชุมสภาผู้แทนฯวุ่นหลังเปิดให้ สส.หารือปัญหาความเดือดร้อนในพื้นที่นานร่วม1ชั่วโมง แต่ยังไม่สามารถเริ่มประชุมได้องค์ประชุมยังไม่ครบ 244 เสียง จนมีการถกเถียงกันสุดท้าย นายชวนได้ย้ำว่า“รัฐบาลอยู่ได้ด้วยเสียงข้างมาก แต่การทำหน้าที่ของสภา เป็นของทุกฝ่าย ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ”ซึ่งใช้เวลานานร่วม 2 ชั่วโมงกว่า จึงเริ่มประชุมเข้าสู่ระเบียบวาระตามปกติได้
ร้องศาลรธน.เบรกแก้รธน.วาระ2-3
ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี พร้อมด้วยนายบุญเกื้อ ปุสสเทโว โฆษกไทยภักดี นำเอกสารหลักฐานยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีล้มล้างการปกครองด้วยการตั้ง สสร.เพื่อร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ โดยอ้างว่าเนื่องจากมีผู้กระทำการส่อเจตนาล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พวกเรากลุ่มไทยภักดีในฐานะผู้ทราบเหตุการณ์ได้ยื่นเรื่องต่ออัยการสูงสุดเมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 เมื่อเรายื่นเรื่องต่ออัยการสูงสุดแล้ว15วันอัยการสูงสุดไม่ได้ดำเนินการใดๆ เราจึงใช้สิทธินี้ยื่นตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนมติในชั้นรับหลักการทั้ง 2ฉบับ ที่ลงมติเมื่อวันที่ 18พ.ย.ที่ผ่านมา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี