“ธรรมนัส” เปิดงานมหกรรมการจัดการหนี้เกษตรกร สมาชิกกองทุนฟื้นฟู และพัฒนาเกษตรกร พร้อมเร่งพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว เมืองพะเยา
เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2563 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดพะเยา เพื่อเป็นประธานพิธีงานมหกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกร สมาชิกกองทุนฟื้นฟู และพัฒนาเกษตรกรจังหวัดพะเยา และร่วมเป็นสักขีพยานการทำบันทึกข้อตกลงระหว่างสหกรณ์การเกษตรเมืองพะเยา จำกัด สหกรณ์การเกษตรจุน จำกัด กับสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาการเกษตร ณ โรงเรียนดอกคำใต้วิทยาคม
โดย ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า งานมหกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกร เป็นหนึ่งในกิจกรรมตามโครงการสร้างความเข้าใจกระบวนการขึ้นทะเบียนหนี้ หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจัดการหนี้ของเกษตรกรที่เป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร โดยมีเกษตรกรขึ้นทะเบียนเป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟู จำนวน 88,531 ราย มีเกษตรกรได้รับการชำระหนี้แล้ว จำนวน 286 ราย เป็นจำนวนเงิน 44,425,574.64 บาท สามารถรักษาที่ดินให้เกษตรกรได้ จำนวน 210 แปลง เนื้อที่ 587 ไร่ ทั้งนี้ ภายในงานยังได้มีการทำบันทึกข้อตกลง ระหว่างสหกรณ์การเกษตรเมืองพะเยา จำกัด สหกรณ์การเกษตรจุน จำกัด กับสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาการเกษตร เพื่อเป็นแนวทางในการชำระหนี้แทนเกษตรกร ตามพระราชบัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรและนโยบายของรัฐบาล พร้อมทั้งยังได้มีการมอบโฉนดที่ดินคืนให้แก่เกษตรกรที่ชำระหนี้คืนตามสัญญาเสร็จสิ้นแล้ว จำนวน 9 ราย
จากนั้นได้เดินทางไปตรวจดูภูมิทัศน์รอบกว๊านพะเยา จากที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มาตรวจดูพื้นที่ก่อนหน้านี้ พร้อมมอบงบประมาณให้พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวประจำจังหวัด พร้อมกันนี้ได้เดินทางเป็นประธานเปิดงานว่าวแฟนซี ครั้งที่ 1 ณ ลานอเนกประสงค์กว๊านพะเยาด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี