สิ้น‘ไชยา สะสมทรัพย์’

อดีตรมว.สธ.-พาณิชย์

ไตวายเรื้อรังคร่าชีวิต

จากไปอย่างสงบวัย68ปี

“ไชยา สะสมทรัพย์” อดีตรมว.สาธารณสุข และ อดีต รมว.พาณิชย์ นักการเมืองดังแห่งเมืองนครปฐมถึงแก่กรรมอย่างสงบในวัย 68 ปี จากอาการไตวาย

เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม มีรายงานว่า นายไชยา สะสมทรัพย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรัฐมนตรีหลายกระทรวง ไดถึงแก่กรรมลงอย่างสงบ เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น.ที่บ้านพักริมถนนมาลัยแมน ตำบลหนองปากโลง อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม

หลังจากมีอาการป่วยและรักษาโรคไตวายเรื้อรังมานาน ต้องไปฟอกไตอย่างต่อเนื่องนาน 2 ปี โดยเพิ่งผ่าตัดเปลี่ยนไตเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา กระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานายไชยา อาการทรุดลง ต้องเรียกรถพยาบาลมารับไปรักษาที่โรงพยาบาลเป็นการด่วนจนกระทั่งถึงแก่กรรมลง

ทั้งนี้ ทางครอบครัวและญาติ กำหนดจะจัดพิธีรดน้ำศพ นายไชยา สะสมทรัพย์ ที่ศาลาใหญ่ วัดพระปฐมเจดีย์ “ราชวรมหาวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม ในวันอังคารที่ 15 ธันวาคม ตั้งแต่เวลา 15.00 น. และมีพิธีน้ำหลวงอาบศพเวลา 17.00 น.

สำหรับประวัติของ นายไชยา สะสมทรัพย์ เกิดวันที่ 18 กันยายน พ.ศ.2495 อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม อาชีพ นักการเมือง,ประธานสโมสรฟุตบอล นครปฐมเอฟซี เป็นอดีต สส.นครปฐม หลายสมัย ขณะเดียวกันนายไชยา เคยดำรงตำแหน่ง อดีต รมว.สาธารณสุข และ อดีต รมว.พาณิชย์

โดยเริ่มทำงานการเมือง จากการเมืองท้องถิ่น แล้วเข้ามาเป็น สส. สังกัดพรรคเอกภาพ เมื่อพ.ศ.2538-2539 ก่อนย้ายมาสังกัดพรรคไทยรักไทย ในการเลือกตั้ง พ.ศ.2544 และพ.ศ.2548 และพรรคพลังประชาชน พ.ศ.2551 เคยดำรงตำแหน่ง รมช.คมนาคม ระหว่าง พ.ศ.2543-2544 เคยรมว.สาธารณสุข และ รมว.พาณิชย์ ปี พ.ศ.2551

นอกจากนี้ นายไชยามีพี่น้องที่เล่นการเมือง สังกัดพรรคพลังประชาชน คือ นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ และนายไชยยศ สะสมทรัพย์ พี่ชาย และ นายอนุชา สะสมทรัพย์ น้องชาย ลงสมัคร สว.ปี พ.ศ. 2549 และ พ.ศ. 2551 อีกด้วย

ค่าฝุ่นมีแนวโน้มสูงขึ้น ด้าน ศกพ.เผย “ฝุ่นพิษ” ฟุ้งเมืองกรุง เป็น “ฝาชีครอบ” ไปอีก 2-3 วัน

เมื่อช่วงวันที่ 14 ธันวาคม 2563 ศูนย์ประสานงานและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในกรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5ไมครอน (PM2.5) ของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร ประจำวันที่ 14 ม.ค.2563 ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ของฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5)ตรวจวัดได้ 40-81 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร(มคก./ลบ.ม.) พบว่าเกินมาตรฐาน 50 มคก./ลบ.ม. จำนวน 56 พื้นที่ ดัชนีคุณภาพอากาศ ส่วนใหญ่อยู่ในระดับคุณภาพอากาศเริ่มมีผลต่อสุขภาพ แนะนำให้ประชาชนในบริเวณที่มีมลพิษทางอากาศเกินมาตรฐานให้เฝ้าระวังสุขภาพ หากมีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้งโดยเฉพาะ ผู้สูงอายุ เด็กและผู้ป่วยทางเดินหายใจ และใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง

ต่อมา มีรายงานจาก www.air4thai.com ของ กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศในช่วงเวลา 12.00 น. พบว่า ผลการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลโดยกรมควบคุมมลพิษร่วมกับ กทม.ตรวจวัดค่าได้ 36-103 ไมโครกรัมฯ

มีผลกระทบต่อสุขภาพ (โซนสีแดง) โดยพื้นที่ค่าฝุ่นอยู่ในระดับ มีผลกระทบต่อสุขภาพในระดับเป็นอันตราย มากกว่า90 ไมโครกรัมฯ 1 พื้นที่ คือ ที่เขตดินแดง 103 ไมโครกรัมฯ

นอกจากนี้ ยังพบปริมาณฝุ่นละออง เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพรวม 57 พื้นที่(พื้นที่สีส้ม)โดยมี 6 พื้นที่ เกินกว่า 80 ไมโครกรัมฯได้แก่ ริมถนนเจริญนคร เขตคลองสาน 88 ไมโครกรัมฯ,ริมถนนสามเสน เขตพระนคร 86 ไมโครกรัมฯ ,ริมสวนหย่อมตรงข้ามสำนักงานเขตดุสิต 84 ไมโครกรัมฯ, ริมถนนซอยนิคมบ้านพักรถไฟธนบุรี เขตบางกอกน้อย 84 ไมโครกรัมฯ,ริมถนนศรนครินทร์ เขตประเวศ 82 ไมโครกรัมฯและริมถนนพระราม 2 เขตบางขุนเทียน 80 ไมโครกรัมฯ

ทั้งนี้ ยังพบว่าช่วงเวลา 16.00 น.ริมถนนดินแดง เขตดินแดง ค่าฝุ่นพุ่งสูงถึง 217 ไมโครกรัมฯ

ทางด้าน www.iqair.comซึ่งรายงานคุณภาพอากาศและจัดอันดับเมืองมลพิษโลก โดยรายงานแบบเรียลไทม์วันที่ 14 ธ.ค.2563 เวลา 09.51 น.พบว่า เช้านี้เมือง กทม. ของไทย อยู่ในลำดับที่ 6 ของโลก คุณภาพอากาศอยู่ที่ 171 US AQI ขณะที่เมืองเชียงใหม่ อยู่ในลำดับ 22 ของโลก คุณภาพอากาศอยู่ที่ 100 US AQI