วันพุธ ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
ยกฟ้อง!!ม.116‘อ๋อย’ยุยงปลุกปั่นต้าน‘คสช.’ โวยจนท.บิดเบือนคดี

ยกฟ้อง!!ม.116‘อ๋อย’ยุยงปลุกปั่นต้าน‘คสช.’ โวยจนท.บิดเบือนคดี

วันอังคาร ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2563, 14.41 น.
Tag : จาตุรนต์ ต้านคสช. ศาลยกฟ้อง ม.116ยุยง ปลุกปั้น
  •  

ยกฟ้อง “ อ๋อย จาตุรนต์ “ พ้นผิด ม.116 ยุยงปลุกปั่น หลังแถลงข่าวไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร คสช.ปี 57 เตรียมร้อง อสส. จี้ถอนฟ้องคดี ระบุชัดต้องปฏิรูป ชี้จนท.บิดเบือนข้อเท็จจริงในคดี 

เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2563 เวลา10.00 น. ที่ห้องพิจารณา 812 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.3055/62ที่พนักงานอัยการคดีอาญา9 เป็นโจทก์ฟ้อง นายจาตุรนต์ ฉายแสง  อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) อดีตแกนนำพรรคเพื่อไทยเป็นจำเลยในความผิดฐานยุยง ปลุกปั่น ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตาม มาตรา116  , ฝ่าฝืน ขัดคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่37/2557,พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14(3)


กรณีเมื่อวันที่ 27 พ.ค.57 จำเลยได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนทั้งต่อต้านการเข้าควบคุมอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ( คสช.) โดยให้ประชาชนเห็นว่า  การเข้าควบคุมอำนาจของ คสช. เป็นสิ่งไม่ถูกต้อง และคำสั่งหรือประกาศ คสช.ก็ไม่ถูกต้องตามกฎหมายฯทำให้ประชาชน

การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำเพื่อให้ประชาชนทั่วไปต่อต้านการคุมอำนาจของ คสช. เป็นการยั่วยุปลุกปั่นทำลายความน่าเชื่อถือของคณะ คสช.เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน กระด้างกระเดื่องถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร  ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ,368,91  พ.ร.บ.เกี่ยวกับการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอรฯ พ.ศ.2550 มาตรา14

นายจาตุรนต์  ให้การปฏิเสธ วันนี้ นายจาตุรนต์ เดินทางมาพร้อมกับ นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ทนายความ และประชาชนที่มาให้กำลังใจจำนวน

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้างกันแล้วเห็นว่า ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ระบุว่า การ กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันไม่ใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือไม่ใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนใจ หรือใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน กระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือ เพื่อให้ประชาชน ล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดินนั้น แต่จำเลยเพียงแค่ไปงานแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนต่างประเทศเป็นภาษาอังกฤษมีผู้เข้าฟังประมาณ 80 คน  โดยไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จึงขอเรียกร้องคืนอำนาจให้ประชาชนโดยจัดการเลือกตั้งโดยเร็ว ขอให้ประชาชนอดทนและแสดงออกอย่างสันติวิธี แม้พยานฝ่ายโจทก์จะอ้างว่า จำเลยเป็นบุคคลที่เคยดำรงตำแหน่งสำคัญ ทางการเมือง และตำแหน่งสุดท้ายคือ รมว.ศึกษาธิการ เป็นบุคคลที่มีประชาชนให้ความเชื่อถือ และการที่จำเลยได้แสดงออกว่า ไม่เห็นด้วยกับ คสช. ในช่วงเริ่มแรกของการยึดอำนาจ ยังมีความไม่สงบในหลายพื้นที่การกระทำของจำเลยอาจจะเป็นเหตุให้ยุยงปลุกปั่นประชาชนหลงเชื่อคล้อยตาม และออกมาต่อต้านการรัฐประหาร จนเกิดความไม่สงบในบ้านเมือง แต่ความผิดตาม มาตรา116 ต้องปรากฏโดยชัดแจ้งว่า เป็นการละเมิดกฎหมายของแผ่นดิน การที่จำเลยไปแถลงข่าวดังกล่าว จึงเป็นไปตามสิทธิเสรีภาพโดยสุจริตตามรัฐธรรมนูญ และเป็นการแสดงออกโดยคำพูดที่ทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับฟัง ตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยเป็นสมาชิก 

อย่างไรก็ตามไม่ปรากฏว่าหลังที่จำเลยได้แถลงข่าวแล้วมีประชาชนออกมาสร้างความปั่นป่วนวุ่นวาย ก่อความไม่สงบในสังคม และในข้อความที่จำเลยแถลงไม่มีข้อความใดที่เจตนาให้ประชาชนออกมาเคลื่อนไหวต่อต้าน คสช.

ส่วนที่จำเลยกระทำผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หรือไม่นั้น ศาล เห็นว่า โจทก์ไม่มีพยานหลักฐานใดมาแสดงให้เห็นว่าจำเลยเป็นผู้นำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เฟซบุ๊ก Chaturon.FanPage” กลับได้ข้อเท็จจริงจากพยานว่า หลังจากจำเลยแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนจำเลยถูกควบคุมตัวและไม่อนุญาตให้จำเลยใช้โทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารใด ๆ สอดคล้องกับพยานจำเลย ยืนยันว่า หลังจากทหารเข้าควบคุมตัวจำเลยถูกยึดโทรศัพท์มือถือและไม่มีเครื่องมือสื่อสาร จนไม่สามารถติดต่อเครือญาติได้ เมื่อข้อความที่มีการโพสต์ในเฟซบุ๊กตามที่โจทก์ฟ้องอยู่ในช่วงระหว่างที่จำเลยถูกควบคุมตัว พยานหลักฐานของโจทก์จึงยังไม่มีมูลเพียงพอที่จะรับฟังได้ พิพากษายกฟ้อง

ภายหลัง นายจาตุรนต์ได้ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ศาลได้พิพากษายกฟ้อง ด้วยเหตุผลสำคัญคือเห็นว่า    การแสดงความเห็นของตนเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพ ซึ่งรับรองโดยกฎหมายทั้งของประเทศไทย และอนุสัญญาระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นการแสดงออกโดยสุจริตไม่ได้เป็นการยั่วยุ ปลุกปั่น ให้เกิดการกระด้างกระเดื่องการใช้กำลังประทุษร้าย หรือเปลี่ยนแปลงรัฐบาล นอกจากนี้ ยังได้เรียกร้องให้ประชาชนใช้ความอดทนเรียกร้องประชาธิปไตยต่อไปโดยสันติวิธีและในคำแถลงนั้นยังได้แถลงเรียกร้องให้ คสช.ไม่ใช้ความรุนแรงต่อประชาชน เพราะฉะนั้นความเห็นเหล่านี้จึงไม่เข้าข่ายองค์ประกอบความผิด มาตรา 116 

ส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์นั้น ฝ่ายโจทก์ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า การที่ตนโพสต์เฟซบุ๊ก รวมทั้งข้อความบนเฟซบุ๊กดังกล่าวนั้นได้โพสต์ขึ้นในระหว่างที่ตนถูกควบคุมตัวไปอยู่ในคุกแล้ว ไม่มีเครื่องมือสื่อสารใดๆ ที่น่าสนใจในการดำเนินคดีนี้ โดยเฉพาะขั้นตอนของตำรวจในชั้นสอบสวน พบว่า มีการจับกุมและตั้งข้อหาก่อนที่จะสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งที่การรวบรวมพยานหลักฐานนั้น เป็นการทำเพื่อสนับสนุนการตั้งข้อหาของพนักงานสอบสวน การใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่ในการดำเนินคดีนี้เป็นไปตามในลักษณะบิดเบือนการใช้กฎหมายเป็นการทำเพื่อจำกัดสิทธิเสรีภาพของผู้เห็นต่าง ประเด็นนี้ก็เป็นเรื่อง ที่ตนได้มีความเห็นตลอดมาระหว่างที่ถูกดำเนินคดีเป็นเวลา 6 ปี ตนเห็นว่า มีเรื่องที่ควรจะจัดการต่อ เพื่อให้เกิดความยุติธรรมแก่ประชาชน ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการดำเนินคดี ในลักษณะการกลั่นแกล้งคนที่คิดเห็นต่างจากรัฐ คดีนี้มีความไม่ชอบมาพากลมากมายหลายอย่าง ก็คือมีการตั้งใจตั้งข้อหาตามมาตรา 116 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯเพื่อให้นำตนไปส่งศาลทหาร ทั้งๆที่ไม่มีข้อเท็จจริง ไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินคดี พยานโจทก์เอง ให้การต่อตำรวจและชั้นสืบพยานศาลไม่เห็นว่า คำพูด คำแถลงของตน เป็นการผิดกฎหมายตามมาตรา 116 แต่อย่างใด พยานที่มาให้การเรื่องคอมพิวเตอร์ก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเฟซบุ๊กนั้นเป็นของใคร การดำเนินคดีใช้เวลา 6 ปีกว่าอยู่ที่ทหาร 5 ปีกว่า สอบพยานไปได้เพียง 2 ปากเท่านั้น มีการเลื่อนแล้วเลื่อนอีกให้ตนต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขการประกันตัวที่จำกัดสิทธิเสรีภาพหลายอย่าง

นายจาตุรนต์ กล่าวอีกว่า เมื่อคดีโอนมายังศาลอาญาใช้เวลาพิจารณาไม่ถึง 6 เดือน ก็สามารถสืบพยานทั้งหมดและตัดสินได้ การดำเนินการในลักษณะนี้ เป็นการดำเนินคดีตามขั้นตอนจากการโอนคดีจากศาลทหารมาศาลอาญา แต่ก็ยังมีปัญหาว่าอัยการไม่ได้ใช้ดุลพินิจตรวจสอบเลยสำนวนว่า มีหลักฐานพยานเพียงพอจะฟ้องหรือไม่ เหมือนกับว่าเห็นด้วยทุกประการทั้งๆที่ไม่มีพยานหลักฐาน การที่อัยการดำเนินการเช่นนี้ตนเห็นว่า เป็นเรื่องที่ต้องทบทวน

ดังนั้นสิ่งที่ตนจะดำเนินการต่อไป มี 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ 1.เมื่อได้บันทึกคำให้การในรายละเอียดแล้ว ตนและคณะทนายความ จะร่วมกันดำเนินการนำข้อเท็จจริงต่างๆที่ปรากฏ ในการดำเนินคดี สืบพยานและคำพิพากษาของศาล ไปร้องต่ออัยการสูงสุด ให้อัยการสูงสุดพิจารณาถอนฟ้องคดีนี้ ความจริงขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่ฝ่ายอัยการโจทก์จะอุทธรณ์หรือไม่ ตนไม่ต้องการก้าวล่วงดุลพินิจของพนักงานอัยการ แต่อัยการสูงสุดมีอำนาจที่จะพิจารณาถอนฟ้องคดีนี้ได้ และข้อเท็จจริงทั้งหมดที่ปรากฏในการสืบพยาน รวมทั้งในคำพิพากษาของศาลมีเหตุผลที่อัยการสูงสุดจะพิจารณาใช้ดุลพินิจโดยใช้หลักนิติธรรมถอนฟ้องคดีนี้ออกไป ซึ่งถ้าถอนฟ้องแล้วก็จะไม่มีการอุทธรณ์อีกต่อไป

ข้อที่ 2 ตนกับคณะทนายจะขอเสนอต่ออัยการสูงสุดให้พิจารณากำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการดำเนินคดีการฟ้องคดีที่โอนจากศาลทหารมายังศาลยุติธรรมใหม่ คือไม่ใช่รับคดีมาแล้ว ไม่พิจารณาหลักฐานเพิ่มเติมอะไรเลย ทั้งๆที่ในศาลทหารไม่มีพยานหลักฐานอะไรเลยจนถึงขนาดที่ว่าคดีนี้ไม่ควรมาถึงชั้นศาลตั้งแต่ต้น อัยการก็ควรจะต้องพิจารณาสั่งไม่ฟ้องได้ และนี่เป็นอำนาจของอัยการสูงสุด ควรจะพิจารณาหลักเกณฑ์นี้เสียใหม่ ว่าเมื่อโอนคดีมาจากศาลแล้ว อัยการจะต้องใช้ดุลพินิจตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่จำเลย ที่สำคัญคือการปรับปรุงกฎหมายและหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการดำเนินคดี ความมั่นคง จากคดีนี้เห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีการใช้อำนาจ บังคับใช้กฎหมายในลักษณะที่บิดเบือนไม่ใกล้ชิดต่อข้อเท็จจริง เป็นการใช้อำนาจเพื่อจำกัดสิทธิเสรีภาพของผู้เห็นต่าง 

ในความเห็นของตนคือการกระทำอย่างนี้เป็นการใช้กฎหมายพร่ำเพื่อ และประเทศไทยก็ยังไม่มีวิธีการที่จะป้องกันการกระทำอย่างนี้ทำให้มีการใช้กฎหมายตามใจชอบเพื่อปิดปากผู้ที่เห็นต่างสร้างความเดือดร้อนเป็นภาระต่อนักศึกษาและประชาชนหลายร้อยคนในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมาจนกระทั่งถึงวันนี้

ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงกฎหมายระเบียบหลักเกณฑ์การดำเนินคดีที่เกี่ยวกับความมั่นคงเสียใหม่ ตนจะร่วมกับทนาย เสนอเรื่องไปยังองค์กรของฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อแก้ไขกฎหมายและขณะเดียวกันก็ขอเรียกร้องต่อรัฐบาล ต่อเจ้าหน้าที่ พนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ หรือองค์กรที่เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมทั้งหลาย ให้หาทางระงับยับยั้งการใช้กฎหมายเพื่อกลั่นแกล้งเพื่อปิดปากคนเห็นต่าง สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนจำนวนมาก ในทุกวันนี้

“สุดท้ายคำพิพากษาในวันนี้ทำให้ผมได้รับความยุติธรรม ขึ้นมาครั้งหนึ่งแต่ มันกำลังบอกว่า ยังมีประชาชนอีกจำนวนมากไม่ได้รับความยุติธรรมจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ผมมีความรู้สึกว่า อยากจะใช้คดีนี้เป็นคดีตัวอย่างเพื่อเรียกร้องหาความยุติธรรมให้แก่ประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในช่วงที่ผ่านมา” นายจาตุรนต์ กล่าว

เมื่อถามว่าจะมีการดำเนินคดีกับผู้ที่เริ่มคดีนี้ตั้งแต่ต้นด้วยหรือไม่ นายจาตุรนต์กล่าวว่า ต้องรอให้คดีถึงที่สุดก่อน และจะนำเอาคำพิพากษาวันนี้ หรือจะถ้าจะมีคำพิพากษาอื่นๆอีก สุดท้ายก็จะนำมาวิเคราะห์อย่างละเอียด แต่เท่าที่ดูก็เห็นปัญหาชัดเจนว่า พนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ดำเนินการทำไปโดยไม่ชอบ ตามหลักนิติธรรม และกระบวนการพิจารณาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาอย่างชัดเจน.

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ย้อนคำจาตุรนต์! \'ทิชา\'แขวะหนัก! ถามหาหลักการ นักการเมืองน้ำดี ปม \'มิน อ่อง หล่าย\' ย้อนคำจาตุรนต์! 'ทิชา'แขวะหนัก! ถามหาหลักการ นักการเมืองน้ำดี ปม 'มิน อ่อง หล่าย'
  • ‘จาตุรนต์’ชี้ สว.ส่อเจตนาไม่ต้องการแก้รธน. ห่วงอนาคต เสียง สว.ไม่ครบ 1ใน3 ‘จาตุรนต์’ชี้ สว.ส่อเจตนาไม่ต้องการแก้รธน. ห่วงอนาคต เสียง สว.ไม่ครบ 1ใน3
  • \'จาตุรนต์\'รำลึก 6 ตุลาฯ​ สู้ให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย 'จาตุรนต์'รำลึก 6 ตุลาฯ​ สู้ให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย
  • \'จาตุรนต์\'ชี้กรณียุบก้าวไกล ถึงเวลาต้องแก้ไข รธน.จัดความสัมพันธ์อำนาจอธิปไตย 3 ฝ่าย 'จาตุรนต์'ชี้กรณียุบก้าวไกล ถึงเวลาต้องแก้ไข รธน.จัดความสัมพันธ์อำนาจอธิปไตย 3 ฝ่าย
  • \'กมธ.ชายแดนใต้ฯ\'ส่งหนังสือจี้\'ภูมิธรรม\'เร่งฟื้นเศรษฐกิจ-วิถีชุมชน มูโนะ หลังเหตุพลุระเบิดผ่านมา10เดือน 'กมธ.ชายแดนใต้ฯ'ส่งหนังสือจี้'ภูมิธรรม'เร่งฟื้นเศรษฐกิจ-วิถีชุมชน มูโนะ หลังเหตุพลุระเบิดผ่านมา10เดือน
  •  

Breaking News

(คลิป) แฉ!ขาใหญ่เพื่อไทย คาดโทษ 'ผู้ว่าฯ' จังหวัดไหนชุมนุมเยอะ ซวย!

(คลิป) นักวิชาการแห่ลงชื่อถวายฎีกา! 'แพทองธาร'กระทำการทรยศต่อชาติ

5คิวไทยพร้อมรบ!ศึกสนุเกอร์บริติชโอเพ่น

กทม.ประชุมเข้มตำรวจ-ผู้นำม็อบ รับมือจราจร-ความปลอดภัยประชาชน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved