“เพื่อไทย”เล็งขอ 7 วันยื่นซักฟอกรัฐบาล เน้นเป้า “บิ๊กตู่” พ่วง รมต.หลายคนบริหารงานผิดพลาด ปล่อยปละละเลย ปท.เสียหาย ซ้ำยังมีทุจริต ย่อหย่อนทำเชื้อโควิดระบาดรอบ 2 ด้าน “มงคลกิตติ์” จองกฐินทำ ศก.เสียหาย ด้าน“วิษณุ”เตือน“ฝ่ายค้าน”ยื่นญัตติซักฟอกให้ทันสมัยประชุมนี้ก่อน 28 กุมภาพันธ์ ระบุซักฟอก สมัยวิสามัญ ไร้ กม.รองรับ
เมื่อวันที่ 6 มกราคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง สส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า จะยื่นช่วงสัปดาห์สุดท้ายเดือนมกราคมนี้ ประมาณวันที่ 27มกราคม ต้องการให้การอภิปรายครั้งนี้ มีการใช้เวลาอภิปรายเต็มที่ ปีที่แล้วฝ่ายค้านได้เวลา 3วัน ก็ปิดสมัยประชุม ปีนี้จึงเตรียมตัวให้มีเวลาอภิปรายเพิ่มขึ้น อยากได้เวลา 7วัน ซึ่งจะต้องปรึกษา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร อีกครั้งเพื่อกำหนดกรอบเวลา ก่อนการญัตติ ส่วนผู้ถูกอภิปราย เช่น นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอีกหลายคน จะสรุปชัดเจนกลางเดือนมกราคมว่า มีใครบ้างและประเด็นที่อภิปรายจะมีเรื่องการทำงานผิดพลาด ปล่อยปะละเลยให้ประเทศเสียหาย โดยเฉพาะการทุจริตหน่วยงานต่างๆ รวมถึงสถานการณ์โควิดด้วย
เมื่อถามว่า หากยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วแต่ไม่สามารถเปิดอภิปรายได้ทันภายในสมัยประชุมวันที่ 28ก.พ.2564 เนื่องจากสถานการณ์โควิดจะดำเนินการอย่างไร นายประเสริฐ กล่าวว่า เราจะยื่นญัตติไว้ก่อนปิดสมัยประชุมและจะหารือประธานสภา โดยพิจารณาข้อบังคับการประชุมว่า สามารถนำการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปพูดในสมัยวิสามัญได้หรือไม่
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า ช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ผมในฐานะฝ่ายค้านอิสระ ขออภิปรายนายกฯ ประเด็น ไม่สามารถกำกับทหาร-ตำรวจ เป็นเหตุทำให้โควิดระบาดรอบ2 แม้มิได้ทุจริต แต่สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจ กระทบประชาชน สร้างหนี้สาธารณะส่วนรวมเพิ่มขึ้น ผิดหรือไม่
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีฝ่ายค้านยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ไม่สามารถอภิปรายได้ทันในสมัยประชุมสภานี้ จะขอเปิดประชุมสภาฯสมัยวิสามัญได้หรือไม่ ว่า ยังเป็นปัญหาข้อกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ขอให้ยื่นให้ทันภายในสมัยประชุมสภาฯนี้ก่อน หรือวันที่ 28กุมภาพันธ์ตามกฎหมายแล้วไม่สามารถยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจในสมัยประชุมสภาฯวิสามัญได้
“การเปิดอภิปรายช่วงสภาสมัยวิสามัญได้หรือไม่นั้น ยังเป็นข้อกังขาในข้อกฎหมายอยู่ เพราะรัฐธรรมนูญ มาตรา154 บัญญัติว่า ปีหนึ่งให้ยื่นญัตติอภิปรายได้ 1ครั้ง ซึ่งอาจเป็นข้อกฎหมายว่าเขาได้มีการยื่นไว้แล้ว แต่ปัญหาคือการยื่นกับการอภิปรายมันคนละส่วนกัน แต่ไม่เป็นไร ขอให้ยื่นให้เสร็จภายในวันที่ 28ก.พ.ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของสมัยประชุม เหมือนครั้งที่แล้วที่มีการอภิปรายจนปิดสมัยประชุมสภาฯดังนั้น อย่างเพิ่งไปเดา หรือสงสัยอะไร เพราะตามข้อบังคับสภาฯกำหนดไว้ว่า ประธานสภาจะต้องตรวจสอบรายชื่อและวินิจฉัยเป็นการด่วนและรีบบรรจุ ดังนั้นโอกาสบรรจุในสมัยประชุมมันทัน”รองนายกฯกล่าว
นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงถึงกรณีที่ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม.พรรคก้าวไกล ออกมาระบุ การงดประชุมสภาฯเป็นเพราะเปิดสภาฯไม่ได้หรือยังพยายามไม่มากพอว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวว่า เปิดประชุมสภาฯไม่ได้ เพราะถ้าจะเปิดเมื่อไหร่ก็เปิดได้อยู่แล้ว แต่เรื่องงดการประชุมเกิดจาก สส.เอง โดยประธานคณะกรรมาธิการกิจการสภาฯขอให้หยุดการประชุมไว้ก่อน เนื่องจากการระบาดของโควิดและเป็นความเห็นส่วนใหญ่ของที่ประชุมร่วมกันกับประธานสภาฯที่เห็นว่า ให้งดประชุมในช่วงนี้ไปก่อน บางคนให้งดประชุม 1เดือน บางคนให้งดประชุม 2สัปดาห์ ประธานสภาฯก็ตัดสินใจให้งดประชุมสภาฯ2สัปดาห์ แล้วดูสถานการณ์อีกครั้ง จากนั้นจะเชิญวิปมาหารือว่า จะดำเนินการอย่างไร เพราะสถานการณ์โควิด เรายังไม่สามารถทำนายได้ว่า จะจบลงเมื่อไหร่ น่าเสียดายที่ นายณัฐชา ไม่มาร่วมประชุมด้วยจึงไม่ทราบว่า เขามีความเห็นอย่างไร ดังนั้นเรื่องนี้ขอให้จบ ไม่ต้องมาดราม่าอีกแล้ว
นพ.สุกิจ กล่าวต่อว่า ส่วนที่บอกว่า พรรคก้าวไกลได้เสนอญัตติด่วนให้ตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาแนวทางแก้ข้อบังคับให้ประชุมผ่านอิเล็กทรอนิกส์ เรื่องดังกล่าว นายศุภชัย โพธิศุ รองประธานสภาฯคนที่ 2 พิจารณาแล้ว เห็นว่าไม่เข้าข่ายเป็นญัตติด่วน และได้แจ้งให้ผู้เสนอญัตติทราบตั้งแต่ 6เดือนที่แล้วแล้ว ทำไมเพิ่งมาพูดตนนี้ ยืนยันว่า การเป็นสส.ไม่ได้กลัว แต่เป็นห่วงประชาชน เพราะหากติดเชื้อขึ้นมาไม่ได้เจ็บแค่เรา แต่จะเจ็บทั้งครอบครัวและคนรอบข้าง
นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ‘ขณะนี้ประชาชนตื่นเต้นดีใจที่สุดและฝากขอบคุณนายกฯและรัฐบาลที่ได้จัดหาวัคซีนป้องกันโควิดเตรียมจัดซื้อมาฉีดให้ประชาชนได้ โดยในอีก 1-2เดือนราวๆประมาณกุมภาพันธ์-มีนาคมนี้ จะถึงไทยในส่วนแรกและเดือนต่อๆไปจะสามารถจัดหาวัคซีนฉีดให้คนไทยให้ครบทุกคน จำนวน 63ล้านโดส เป็นการทำให้เห็นว่านายกฯมีความห่วงใย และเห็นความสำคัญของชีวิตประชาชนเป็นอันดับแรก พี่น้องประชาชนบอกว่าตื่นเต้นดีใจเป็นที่สุดที่คนไทยจะได้รับวัคซีนป้องกันโควิดฟรีทุกคน ถือเป็นข่าวดีและเป็นของขวัญปีใหม่ นี่คือผลงานชิ้นโบว์แดงที่นายกฯและรัฐบาลมอบให้ชาวไทย ส่วนพวกมองโลกในแง่ร้ายและไม่คิดหวังดีต่อบ้านเมืองขอให้นายกฯอดทนและทำใจ อย่าหวั่นไหวเด็ดขาด นี่คือเสียงประชาชนฝากมาถึงนายกฯลุงตู่ครับ’
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี