“แรมโบ้” โต้ “ทักษิณ” ไม่มีอำนาจไหนรังแก นอกจากรังแกตัวเอง ไม่เชื่อ “ทักษิณ” เลิกยุ่งการเมือง แค่คำพูด ลมๆแล้งๆ เชื่อถือไม่ได้
เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2564 นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์สื่อ “ไทยเอ็นไควเออร์” ยอมรับก่อนรัฐประหาร 49 ยังเดียงสาทางการเมือง ไม่รู้ว่า ไทยเป็น “รัฐซ้อนรัฐ” ชี้การลุกขึ้นประท้วงของนักศึกษา คือภาพสะท้อนความต้องการประชาธิปไตย ไม่เอาทหาร และไม่เอาการรับรองรัฐประหารจากสถาบันฯว่า ไม่อยากให้นายทักษิณมองอย่างนั้น แต่อยากให้ดูที่ต้นเหตุถึงการขับไล่มากกว่า ว่า นายทักษิณได้ทำอะไรลงไปบ้าง และสร้างความเสียหายให้กับประเทศอย่างไร ซึ่งจะต้องยอมรับความจริงในเรื่องนี้ ไม่มีใครเชื่อว่า นายทักษิณจะอ่อนเดียงสา แต่เชื่อว่า เป็นเพราะ ดื้อและมีอัตตาเชื่อมั่นในตัวเองสูงเกินไป ไม่ยอมรับฟังคนที่หวังดีที่เตือนสติมากกว่า จนทำให้เกิดปัญหามากมายนำมาสู่ความขัดแย้งและความผิดพลาดล้มเหลวในการบริหารบ้านเมือง ปล่อยให้มีการเอื้อประโยชน์ให้กับบริวารและพวกพ้องอย่างมากมาย
ส่วนที่นายทักษิณบอกว่า อยากไปให้ไกลจากการเมือง แต่มีผู้มีอำนาจยังคงรังแกเขาอยู่ ผู้มีอำนาจหวาดกลัวเขา เหมือนเป็นผีดิบทางการเมืองนั้น นายสุภรณ์ ระบุว่า ส่วนตัวไม่เชื่อว่า จะเป็นเหตุผลที่แท้จริง เพราะส่วนตัวเชื่อว่า นายทักษิณ ยังคงอยากมีอำนาจ ทางการเมือง อยากเป็นผีดิบกระหายอำนาจทางการเมืองเสียเองมากกว่า โดยเห็นจากพฤติกรรมที่ผ่านมาไม่เคยหยุดที่จะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองเลย แม้การเลือกตั้งท้องถิ่นระดับ อบจ. ที่ผ่านมายังเข้าไปยุ่งในการหาเสียงเลือกตั้งที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย ซึ่งคำพูดดังกล่าวถือเป็นการพูดใส่ร้ายกล่าวหาคนอื่นและให้ตัวเองดูดีเท่านั้น ถ้าต้องการยุติบทบาททางการเมืองอย่างจริงจัง ควรนั่งแถลงข่าวให้ชัดเจนเลยว่า จะล้างมือและไม่สนับสนุนพรรคการเมืองใดๆและนักการเมืองหน้าไหนทั้งสิ้น แม้แต่กลุ่มคนเสื้อแดงทั้งหลาย หรือพวกแดงล้มเจ้าที่หลบหนีอยู่ในต่างประเทศ ก็จะไม่มีวันช่วยเหลือสนับสนุนอีกต่อไป ซึ่งอาจทำให้คนไทยส่วนใหญ่เริ่มเชื่อใจขึ้นมาบ้าง
นายสุภรณ์ กล่าวว่า สำหรับการลุกขึ้นมาชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาในประเทศไทยเวลานี้ ขอนายทักษิณ คิดทบทวนให้ดีว่าเป็นการชุมนุมที่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ อีกทั้งยังเป็นการชุมนุมที่ก้าวล่วงจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ หวังคิดล้มล้างสถาบัน ซึ่งนายทักษิณก็รู้แก่ใจว่ามีกลุ่มบุคคลใดเป็นอีแอบหนุนหลังอยู่ ซึ่งเรื่องก้าวล่วงสถาบันนี้เป็นที่กระทบกับจิตใจของประชาชนส่วนใหญ่ทั้งประเทศ ที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่มีวันที่คนไทยจะยอมเด็ดขาด ขณะเดียวกันประเทศกำลังอยู่ในช่วงที่ต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการแก้ไขวิกฤติของประเทศ ดังนั้นขอร้องให้นายทักษิณ อย่าคิดสนับสนุนหรืออยู่เบื้องหลังของกลุ่มผู้ชุมนุมเลย ทั้งนี้ตนเองก็ไม่มั่นใจว่าที่มีการชุมนุมนั้นแกนนำต่อสู้เพื่ออนาคตของตัวเองที่ได้ท่อน้ำเลี้ยงจากใครมาทำการชุมนุม หรือชุมนุมเพื่ออนาคตของประเทศหรือของบุคคลที่เป็นอีแอบอยู่เบื้องหลังกันแน่ เหมือนดังเช่นการชุมนุมในอดีตที่ผ่านมา
“ในอดีตการชุมนุมของกลุ่มนปช.หรือคนเสื้อแดง เราก็รู้กันทั้งบ้านทั้งเมืองว่า คนที่อยู่เบื้องหลังคือใคร และได้รับทุนสนับสนุนน้ำเลี้ยงจากใคร และต่อสู้เพื่อใคร เป้าหมายคืออะไร ใครคือ ผู้รอรับผลประโยชน์ ผมคงไม่ต้องไปเล่าเรื่องราวฟื้นฟูความทรงจำในอดีตให้กลับขึ้นมาอีก เพราะผมไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องราวการต่อสู้ในอดีต ที่เคยเจ็บปวด เพราะประชาชนส่วนใหญ่ถูกหลอกให้มาลงถนนต่อสู้เพื่อได้มาซึ่งอำนาจของกลุ่มคนบางคน ซึ่งนายทักษิณรู้ดีแก่ใจ จึงขอร้องนายทักษิณว่า ถ้ารักและห่วงใยประเทศจริงและอยากไปให้ไกลจากการเมือง ควรหยุดพูดวิพากษ์วิจารณ์เสียที เพราะยิ่งพูดยิ่งจะทำให้เกิดความแตกแยกอย่างต่อเนื่องไม่มีวันจบสิ้น ยืนยันไม่มีอำนาจไหนไปรังแกท่าน อย่าไปคิดว่า มีอำนาจไหนมารังแก จิตคงสับสน คิดมากเลยวิตกกังวลไปเองมากกว่า นายทักษิณเองต่างหาก ที่ต้องยอมรับความจริงว่า ได้รังแกและคิดร้ายทำร้ายตัวเองตลอดมา สาเหตุเกิดจากความเชื่อในอำนาจที่ครอบครองอยู่จนเกิดความคิดเก่งกล้าท้าทายอำนาจประชาชนมากกว่า จึงนำไปสู่การชุมนุมขับไล่นายกฯและรัฐบาล”
ทั้งนี้ เชื่อว่า ถ้านายทักษิณลองตั้งใจหยุดพูดหยุดวิพากษ์วิจารณ์ สักปีสองปีและไม่ยุ่งเกี่ยวการเมืองจริงๆอีกเลย ตนเชื่อว่า ประเทศไทยจะลดความขัดแย้ง ความสงบสุขและสันติสุข จะกลับคืนมามากกว่านี้อย่างแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี