เชือดแก๊งปลดแอก
เหิมเกริมปลดธงชาติไทย
ตร.หมายเรียกดำเนินคดี
พุทธิพงษ์เอาผิดเพจปวิน
ปชป.เชิญพท.สมานฉันท์
ตำรวจออกหมายเรียกแก๊งปลดแอกเหิมเกริมปลดธงชาติ หน้าโรงพักคลองหลวงปทุมธานี ในขณะที่ “พุทธิพงษ์” ลุยแจ้งความเอาผิดคนโพสต์หมิ่นสถาบันต่อเนื่องพบเพจ “แนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ” “ปวิน”โดนอีก พร้อมขอคำสั่งศาลยื่นลบข้อความไม่เหมาะสมออก
เมื่อวันที่ 16 มกราคม นายพุทธิพงษ์ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) เปิดเผยว่า ได้กำชับกองป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีและสารสนเทศ(ปท.)และกองกฎหมายฯกระทรวงดิจิทัล ให้ดำเนินการติดตามตรวจสอบ ผู้กระทำความผิดโพสต์ข้อความไม่เหมาะสมต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ทางสื่อสังคมออนไลน์และรวบรวมหลักฐานยื่นแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.)อย่างต่อเนื่อง
แจ้งเอาผิด”แนวร่วมปลดแอด-ปวิน”
โดยทางกองกฎหมายฯกระทรวงดิจิทัลฯได้แจ้งความเอาผิดผู้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มาตรา 14 ในช่วงวันที่ 4–15มกราคม 2564 รวม 11 URLs เป็นผู้กระทำความผิดทาง Facebook 9 URLs และทางYouTube 2 URLs พบชื่อบัญชีผู้กระทำความผิด อาทิ บัญชีเฟซบุ๊กเพจ แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม,บัญชี PavinChachavalpongpun(นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์) และยูทูปแชนแนล ชื่อ FAIYEN CHANNEL(วงไฟเย็น)ที่เข้าข่ายกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14โพสต์พาดพิงสถาบันหลักของชาติ
ขณะเดียวกัน ปท.สรุปคำสั่งศาล ในช่วงเดียวกัน พบมีการกระทำผิด จำนวน 9 คำสั่งศาล รวม 136 URLs(รายการ) โดยมีทั้ง Facebook, YouTube, Twitter และเว็บอื่นๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างต่อเนื่องจริงจัง
“ฝากแจ้งเตือนไปยังผู้ใช้โซเชียลมีเดีย ขอให้ใช้วิจารณญาณในการใช้งาน ไม่โพสต์หรือแชร์ส่งต่อข้อความที่ไม่เหมาะสมเพราะจะถือเป็นการกระทำความผิดตามพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯด้วยเช่นกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถติดตามตรวจสอบพิสูจน์ตัวตนได้ทั้งหมด”
ตร.หมายเรียกม็อบปลดธงชาติ
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผบ.ตร.รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง เปิดเผยว่า กรณีมีกลุ่มมวลชนชุมนุมบริเวณหน้า สภ.คลองหลวง เพื่อกดดันการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เหตุการณ์ดังกล่าว ได้มีการนำธงชาติลงจากยอดเสา และนำเอาผ้าสีแดงคล้ายธง มีข้อความว่า“112”ขึ้นสู่ยอดเสาแทน ซึ่งการกระทำในลักษณะนี้ ถือว่า เป็นกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ถือว่าเข้าข่ายการกระทำที่ผิดกฎหมาย ข้อหา ฝ่าฝืนการใช้ ชัก หรือแสดงธงที่มีความหมายถึงประเทศไทย หรือ ชาติไทย อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ธง พ.ศ.2522 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้แล้วยังมีการฉีดพ่นสีสเปรย์ บนสถานที่ราชการ และมีการชูป้ายผ้า มีข้อความ ที่เข้าข่ายดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ซึ่งหากพิสูจน์ทราบได้ใครเป็นผู้กระทำ ก็จะต้องออกหมายเรียกมาดำเนินคดีในข้อหา ทำให้เสียทรัพย์ และ ดูหมิ่นเจ้าพนักงานด้วย
ส่อมีความผิดพรก.มีโทษหนัก
สำหรับการที่ มวลชนมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากในช่วงนี้ เป็นช่วงการแพร่ระบาดของ โควิด 19 พบว่าไม่ได้มีการขออนุญาตจากเจ้าพนักงานและไม่มีมาตรการทางสาธารณสุข เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ จะเข้าข่ายมีความผิด ตามข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ซึ่งห้ามมิให้มีการชุมนุม ทำกิจกรรม หรือการมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัด ฯ ซึ่งมีอัตราโทษจำคุก 2ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งผู้ที่มาร่วมชุมนุมจะถือว่ามีความผิดทุกคน เว้นแต่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหา เช่น ทนายความ ญาติ หรือบุคคลที่ผู้ต้องหาร้องขอให้มาร่วมรับฟังการสอบสวน
คาดว่า ทางพนักงานสอบสวน จะออกหมายเรียกผู้กระทำผิดที่พิสูจน์ ทราบชื่อ ในวันนี้ จึงฝากเตือนกลุ่มความเห็นต่างว่า การใช้สิทธิเสรีภาพขอให้คำนึงหลักกฏหมาย อย่าเกินกรอบกฏหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งมีหน้าที่รักษากฏหมาย จึงมีความจำเป็นต้องบังคับใช้กฏหมายไม่มีข้อยกเว้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงนี้ซึ่งกำลังมีปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด
ผบ.ตร.กำชับเร่งรัดคดีจริงจัง
ต่อมา เวลา10.30น.พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.,พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1,พล.ต.ต.สุรพงษ์ ถนอมจิตร รอง ผบช.ภ.1,พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พร้อมคณะได้เดินทางลงไปเร่งรัดติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่กลุ่มการ์ด We Volunteerได้มีการเปลี่ยนธงชาติไทยบริเวณด้านหน้า สภ.คลองหลวง และนำผ้าสีแดงที่มีข้อความว่า 112 สลับขึ้นยอดเสา เมื่อวันที่ 15ม.ค.64 ที่ผ่านมานั้น
โดย ผบ.ตร.พร้อมคณะได้รับฟังความคืบหน้าในการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น พยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง จากนั้น ผบ.ตร.ได้กำชับการปฎิบัติ การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เกี่ยวข้องที่กระทำผิดต่อกฎหมายรวมถึงการดำเนินการทางวินัยหากพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการปล่อยปละละเลยให้เกิดการกระทำผิดเพื่อประกอบการดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ป่วนอนุสาวรีย์ชัยฯยกเลิกม.112
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 12.00น.ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ฝั่งเกาะพญาไท กลุ่มการ์ดปลดแอกและประชาชนแนวร่วมม็อบราษฏร จำนวนหนึ่ง นัดหมายกันผ่านโซเซียลไปรวมตัวทำกิจกรรมทางการเมือง เพื่อเขียนป้ายผ้าความยาว 112 เมตร เพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกกฎหมายอาญา มาตรา112พร้อมกับเขียนข้อความบอกเล่าความในใจกับความล้มเหลวในการบริหารหารจัดการของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ตร.รวบตัวการ์ดปลดแอก-ปชช.
ทั้งนี้ ได้มีประชาชนเดินทางมาร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่องโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งเข้าไปดูแลรักษาความเรียบร้อย พร้อมได้ประกาศให้กลุ่มผู้ชุมนุมยุติการทำกิจกรรม และพยายามเข้าจับกุมตัวหญิงรายหนึ่งซึ่งยืนตะโกนด่าการกระทำของเจ้าหน้าที่แต่มีผู้ชุมนุมอีกส่วนหนึ่งพยายามจะเข้าไปช่วยเหลือ จนเกิดเหตุการณ์ชุลมุนกันขึ้น
จากนั้น กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณจำนวน40 นาย พร้อม กองร้อยน้ำหวานได้เข้ากระชับพื้นที่พร้อมกับจับกุมการ์ดปลดแอกและประชาชน ที่รวมตัวกันทำกิจกรรมเขียนป้ายผ้าบริเวณเกาะพญาไทในข้อหาผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯและพ.ร.บ.ควบคุมโรค คาดว่าจะถูกนำตัวไปที่ สน.พญาไท
คุมตัวส่ง ตชด.ภาค1เรียบร้อย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าล่าสุดทวิตเตอร์TLHR/ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน @TLHR2014 รายงานว่า เมื่อเวลา14.00น.ผู้ถูกจับกุมจากบริเวณเกาะพญาไทขณะร่วมกิจกรรมเขียนป้ายผ้าของการ์ดปลดแอกรวม2ราย ถูกควบคุมตัวถึง บก.ตชด.ภาค1 จ.ปทุมธานีแล้ว หลังจากกลุ่มผู้ชุมนุมประกาศนัดรวมตัวกันที่หน้าสน.พญาไท ตำรวจปิดกั้นไม่ให้เข้าพื้นที่หน้า สน.
‘แรมโบ้’ ยันตร.ทำตามกฏหมาย
นายสุภรณ์อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลและโฆษก กมธ.กฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนโพสต์เฟซบุ๊ก ปกป้องแกนนำ แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม พนสี’ปล่อยเพื่อนเรา’ไม่ผิดม.112ว่าตำรวจไม่ได้ฉวยกาสจับใครหรือซ้ำเติมประชาชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง โดยเฉพาะกับแกนนำผู้ชุมนุมแต่ตำรวจต้องทำตามกฎหมายจับกุมผู้ที่กระทำความผิดทุกคน รวมถึงได้ทำงานอย่างหนักในการปราบปรามลักลอบขนแรงงานข้ามประเทศ บ่อนการพนัน หรือยาเสพติด เพียงแต่คนอย่างนายรังสิมันต์ มีแนวความคิดสนับสนุนกลุ่มคนที่คิดจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงไม่เคยคิดออกมาห้ามปรามคนที่ทำผิดกฎหมายม.112และปกป้องคนที่จาบจ้วงก้าวล่วงสถาบันตลอดมา
“ผมยืนยันมาตรา112ไม่เคยไปใช้รังแกใคร มีแต่คนที่ไม่หวังดีต่อสถาบัน คิดร้ายต่อสถาบันไปท้าทายฝ่าฝืนกฎหมายมาตรา112 เสียเอง ดังนั้นบ้านเมืองมีขื่อมีแปร กฎหมายต้องเป็นกฎหมายเจ้าหน้าที่ต้องบังคับใช้อย่างเข้มงวดและเด็ดขาด”ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกฯระบุ
ซัด‘โรม’อย่าปกป้องคนทำผิดม.112
นายสุภรณ์ กล่าวอีกว่า นายรังสิมันต์ เป็นถึงโฆษกกมธ.กฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน แต่กลับปกป้องคนที่ทำผิดกฎหมายและอ้างว่าการชุมนุมเป็นไปตามสิทธิเสรีภาพ ในการชุมนุมสาธารณะแต่การชุมนุมที่ไปละเมิดคนอื่นกลับมองไม่เห็น ยิ่งกระทำความผิดกฎหมายตามมาตรา112 ทำให้กระทบกระเทือนจิตใจของคนไทยส่วนใหญ่ที่จงรักภักดี ทำไมพรรคก้าวไกลไม่เคยคิดออกมาห้ามบ้าง หรือว่าเป็นอีแอบตัวจริงที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลังให้คนเหล่านี้กระทำความผิดมาตรา112”
“นายรังสิมันต์เคยเป็นนักเคลื่อนไหวมาก่อนก็ต้องปกป้องกัน แต่ขณะนี้นายรังสิมันต์มีสถานะเป็นถึง ส.ส.เข้ามาทำหน้าที่ในสภา และยังเป็นโฆษก กมธ.กฎหมายฯ เวลาจะทำอะไรหรือจะปกป้องใคร ขอให้ใช้สมองคิดตริตรองให้ดีก่อนว่า เป็นเรื่องที่ถูกต้องหรือไม่ ควรให้เกียรติกับตำแหน่ง ส.ส.ที่เป็นอยู่ด้วย หากนายรังสิมันต์ไม่อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมแกนนำผู้ชุมนุม ที่ทำผิดกฎหมาย นายรังสิมันต์ ควรไปขอให้แกนนำยุติการชุมนุม และขอให้แกนนำ อย่าทำผิดกฎหมาย อย่าให้ร้าย ก้าวล่วงสถาบันในทุกรูปแบบทำแบบนี้ถึงจะเป็นเรื่องที่ถูกต้อง”นายสุภรณ์ ย้ำ
ปชป.กวักฝ่ายค้านร่วมสมานฉันท์
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่จะมีการประชุมคณะกรรมการสมานฉันท์ นัดแรก วันที่ 18 ม.ค.นี้เวลา13.30น.ที่รัฐสภาว่าขอยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ ให้ความสำคัญกับเรื่องความปรองดองและสร้างความสมานฉันท์เพื่อให้ทุกฝ่ายได้มีการพูดคุยกัน อยากเรียกร้องไปถึงฝ่ายค้านให้เข้ามาพูดคุยกันในคณะกรรมการสมานฉันท์ด้วย
ส่วนทางพรรคได้มีตัวแทนเข้าร่วมเป็น กก.สมานฉันท์ โดยพรรคพร้อมที่จะสนับสนุนและให้ข้อมูลพร้อมเปิดรับข้อมูลต่างๆจากต่างจังหวัด พื้นที่ต่างๆโดยจะเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อส่งให้กับทางพรรคแล้วส่งให้ณะกรรมการสมานฉันท์ต่อไปเพื่อให้คณะกรรมการสมานฉันท์ได้หาทางออกให้ประเทศต่อไป
ย้ำปชป.โหวตผ่านแก้รธน.วาระ 3
โฆษกพรรค ปชป.กล่าวถึงการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐสภา ในวาระ2และ3 ว่า พรรคประชาธิปัตย์ สนับสนุนให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญปี 2560 ในมาตรา 256 รวมถึงให้มีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ซึ่งเมื่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.)พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ...)พ.ศ....รัฐสภา ได้พิจารณาเสร็จ แล้วนำเข้าสู่ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาวาระ 2 และวาระ3 ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ เราก็พร้อมโหวตให้ผ่าน วาระ 2 และวาระ 3 ทั้งนี้เมื่อผ่านวาระ3 แล้วจะมีกระบวนการตรวจสอบอื่นๆ เช่น การยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญ ก็เป็นไปตามหลักการ แต่ขอยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์มีหลักในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เป็นประชาธิปไตยให้มากขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี