“บิ๊กป้อม” สั่งชะลอนำเข้าแรงงานจากต่างประเทศ บอกต้องแก้ปัญหาภายในให้จบก่อน ปธ.คณะกรรมการสอบแรงงานผิดกฎหมายถกนัดแรก ชี้ช่อง ปชช.ส่งข้อมูลผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์รัฐบาล เผยมีข้อมูลมาพอสมควร แต่ยังไม่ขอลงรายละเอียดว่าจะขยายผลไปยังจุดไหน
เมื่อวันที่ 22 มกราคม ที่กระทรวงแรงงาน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมติดตามการดำเนินงานและประชุมมอบนโยบาย โดย เน้นย้ำการเฝ้าระวังและการป้องกันการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานต่างด้าว ชะลอการนำเข้าแรงงานต่างด้าว และการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวภายในประเทศ ให้มีประสิทธิภาพ การกำหนดมาตรการผ่อนผันแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2563 ให้มีความรัดกุมทุกขั้นตอน เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 การกำหนดมาตรการเฝ้าระวัง ตรวจสอบ คัดกรองโรคโควิด -19ให้ครอบคลุมทุกสถานประกอบการ
“เร่งรัดให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ให้ทันต่อสถานการณ์ กำหนดมาตรการให้ความช่วยเหลือเพื่อรักษาสภาพการจ้างงาน และส่งเสริมการจ้างงานให้ครอบคลุม ทั้งแรงงานในระบบ และนอกระบบ รวมทั้งมีมาตรการช่วยเหลือเรื่องการฝึกอาชีพ เพื่อยกระดับทักษะฝีมือและหางานให้ทำอย่างรวดเร็วที่สุด ยกระดับการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ สู่ Tier 1 เพื่อให้เป็นตามมาตรฐานสากลและองค์การระหว่างประเทศ” พล.อ.ประวิตร กล่าว ทั้งให้กำลังใจทุกฝ่ายที่ร่วมแก้ไขปัญหานี้
ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล นายภักดี โพธิศิริ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำความผิดกรณีการเข้าเมืองผิดกฎหมายเป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมนัดแรก ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมอาทิ กระทรวงกลาโหม กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)
โดยนายภักดีกล่าวว่า ในวันนี้ได้หารือถึงแนวทางการทำงานของคณะกรรมการและสภาพการทำงานต่างๆในเบื้องต้น แต่ยังไม่ได้มีการตั้งโฆษกเพื่อรายงานการทำงาน ซึ่งในครั้งหน้าจะเป็นการมอบหมายงานในแต่ละส่วน และต่อจากนี้จะนัดประชุมสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ทุกวันศุกร์
เมื่อถามว่า การพูดคุยในวันนี้ได้รายละเอียดพอสมควรหรือไม่ นายภักดี กล่าวว่า ก็ได้ในระดับหนึ่งแต่ยังมีข้อมูลที่ต้องการเพิ่มเติม ตนจึงขอโอกาสเรียนฝากในเรื่องที่เกี่ยวกับแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย หากมีข้อมูลทางสื่อมวลชนก็สามารถแจ้งมาได้ ผ่านทางเลขาฯของกรรมการชุดนี้และขอให้ช่วยนำเรียนประชาชนว่าหากมีข้อมูลก็สามารถส่งมาได้ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาลโดยตรง อย่างไรก็ตามขณะนี้ก็ได้มีข้อมูลมาพอสมควร แต่ยังไม่ขอลงรายละเอียดว่าจะขยายผลไปยังจุดไหน
วันเดียวกัน ที่ห้องประชุมยะลารวมใจ ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า อ.เมือง จ.ยะลา พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 9 และ นายชัยสิทธิ์ พาณิชย์พงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ร่วมแถลง มาตรการควบคุมและสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวหลบหนีเขเมือง และกวดขันจับกุมขบวนการนำพาแรงงานต่างด้าว
ทั้งนี้ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการกวดขันจับกุมอย่างต่อเนื่อง ในห้วงตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2563จนถึงปัจจุบัน มีสถิติการจับกุม 86ครั้ง จับกุมบุคคลต่างด้าวได้ 624 คน แยกเป็นสัญชาติ เมียนมาร์408 คน กัมพูชา 64 คน ลาว 76 คน มาเลเซีย 21 คน เวียดนาม 45 คน บังคลาเทศ1คน จีน 2 คน และอื่นๆ26 คน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี