‘อาคม’ดอดพบบิ๊กตู่
หึ่งแก้สเปกแจกคูปอง‘เราชนะ’
บอกสื่อให้รอดูกันไปก่อน
สมาคมนักร้องร้องนายกฯ
ขอเยียวยา-พักหนี้6เดือน
“อาคม” ย่องเงียบพบ“นายกฯ”ถกภาวะเศรษฐกิจ พร้อมบอกให้รอดูแก้ปัญหา “เราชนะ” ใช้คูปองแทน ขณะที่ นายกสมาคมนักร้องลูกทุ่งฯ บุกร้องนายกฯช่วย ขอพักชำระหนี้ 6 เดือน/จ่ายเยียวยา 3 เดือน บรรเทาความเดือดร้อน ด้าน“ไมค์” กลัวตกกระแส นำม็อบบุกกระทรวงคลัง ยื่นข้อเสนอเพียบ
เมื่อเช้าวันที่ 22 มกราคม 2564 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม โดยเดินทางขึ้นหลังตึกไทยคู่ฟ้า ใช้เวลาพูดคุยนานประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง จากนั้นได้ลงมาหลังตึกไทยคู่ฟ้า ยืนหลบสื่อมวลชน ก่อนจะเดินเลี่ยงไปอีกทาง คนละทางกับที่สื่อดักรออยู่ จนสื่อต้องวิ่งตามสัมภาษณ์
โดยนายอาคมให้สัมภาษณ์ภายหลังว่าได้รายงานให้นายกฯรับทราบหลายเรื่องเช่นเรื่องของรายงานภาวะเศรษฐกิจของเศรษฐกิจโลก ผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องความชัดเจนของโครงการเราชนะ
นายอาคม ปฏิเสธที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าว เพียงแต่บอกว่า เรื่องนี้นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯและรมว.พลังงานได้พูดไปหมดแล้ว เมื่อถามอีกว่า จะมีการแก้ปัญหาโดยแจกเป็นคูปองหรือไม่นายอาคมกล่าวว่า ขอให้รอดู
นักร้องขอเยียวยา/พักหนี้6เดือน
เวลา 10.00น.ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์รัฐบาล สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (ฝั่งก.พ.) นายสมบูรณ์ จุลมุสิกหรือ”ทศพล หิมพานต์”นายกสมาคมนักร้องลูกทุ่งแห่งประเทศไทย ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เพื่อขอความช่วยเหลือจากวิกฤตสถานการณ์โควิด 19 ผ่าน นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ
โดยนายสมบูรณ์กล่าวว่าสมาคมนักร้องลูกทุ่งแห่งประเทศไทยในฐานะตัวแทนศิลปิน ศิลปินขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล จากสถานการณ์โควิด-19ครั้งนี้ โดยขอให้ภาครัฐและเอกชนพิจารณาการพักชำระหนี้ ค่าสาธารณูปโภค เช่นการชำระค่าน้ำประปา การชำระค่าไฟฟ้า การชำระหนี้จากการทำนิติกรรมการเช่าทรัพย์ และการเช่าซื้อ ตลอดจนการผ่อนการชำระหนี้จากการใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินประเภทต่างๆ เช่น บ้านและรถยนต์ โดยขอความช่วยเหลือให้มีการพักชำระหนี้เป็นเวลา 6 เดือน ระหว่างเดือนม.ค.-มิ.ย.64 ทั้งนี้ ขอให้รัฐบาลพิจารณาจ่ายเงินให้กับผู้มีอาชีพศิลปินนักร้อง จำนวน 3 เดือน เพื่อเป็นมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนต่อไป
ร้องประธาน”ชวน”ช่วยอีกแรง
วันเดียวกัน เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย กว่า10 คน เดินทางมาบริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภาเพื่อยื่นหนังสือเรื่อง ขอให้รัฐบาลทบทวนมาตรการช่วยเหลือประชาชนถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรโดยมีนายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้รับ
โดยนายนันทพงศ์ ปานมาศ ตัวแทนเครือข่ายฯ กล่าวว่า ทางเครือข่ายฯต้องการเป็นปากเสียงของประชาชน เพื่อสะท้อนให้รัฐบาลใส่ใจประชาชนบ้าง โควิด - 19 วันนี้ทำให้ทุกอย่างดูแย่ดูยากไปหมด จากมาตรการของรัฐบาลส่งผลให้ผู้ประกอบการขนาดเล็ก และขนาดกลางเดือดร้อน จึงอยากเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ลงมาดูความเป็นจริงที่เกิดขึ้น แต่ถ้าบริหารไม่ได้ก็ออกไปให้คนอื่นที่ทำได้เข้ามาบริหารแทน และการที่ทางเครือข่ายฯ มายื่นหนังสือที่รัฐสภา ไม่ไปที่ทำเนียบรัฐบาล เพราะที่นี่มีส.ส.ที่ได้ชื่อว่าเป็นตัวแทนของประชาชน ต้องเป็นปากเป็นเสียงทำหน้าที่ท้วงติงรัฐบาลในนโยบายที่ไม่สอดคล้องกับประชาชน วันนี้ประชาชนต้องการเงินสด แต่รัฐบาลใช้แอปพลิเคชั่นเป๋าตังค์ ถ้าประชาชนไม่เติมเงินตัวเองเข้าไปในแอปพลิเคชั่นก็ใช้ไม่ได้ ไม่เกิดประโยชน์ เราจึงจำเป็นต้องมาเรียกร้องต่อรัฐสภาเพื่อท้วงติงไปยังรัฐบาล นอกจากนี้ รัฐบาลต้องพักหนี้ให้ธุรกิจขนาดเล็ก และขนาดกลางเพื่อการดำรงอยู่ของเอสเอ็มอี
“รัฐบาลให้ประชาชนจ่ายภาษีแต่กลับมีนโยบายแบบชิงโชค อยากเรียกร้องให้รัฐบาลออกนโยบายที่สอดรับกับความเดือดร้อนกับประชาชน และขอให้ยกเลิกโครงการสร้างหนังเพื่อปลูกฝังให้ประชาชนรักชาติ เนื่องจากใช้งบประมาณจำนวนมาก ซึ่งเยาวชนจะรักชาติไม่จำเป็นต้องสร้างหนัง”นายนันทพงศ์ กล่าว
“ไมค์”นำม็อบบุกกระทรวงคลัง
เวลา13.00น.ที่กระทรวงการคลัง นายภาณุพงศ์ จาดนอก แกนนำม็อบคณะราษฎร ได้เดินทางมายื่นจดหมายเปิดผนึกจากราษฎรถึงรมว.คลัง เพื่อขอให้ลดงบประมาณที่สูงเกินความจำเป็น เช่น งบประมาณของกองทัพ 223,467ล้านบาท นำมาใช้ช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด นายภาณุพงศ์ ระบุว่าการมายื่นจดหมายครั้งนี้เพื่อต้องการเป็นกระบอกเสียงประชาชน ใช้รัฐบาลเยียวยาช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิดอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากยังมีประชาชนจำนวนมากเข้าไม่ถึงเงินเยียวยาจากโครงการคนละครึ่งเฟสสอง ทั้งจากที่ไม่มีอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ และประชาชนต้องแย่งชิงกันลงทะเบียน ดังนั้น คณะราษฎรจึงขอเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณา 3 ข้อ โดยให้เวลา 1 สัปดาห์ หากไม่ได้รับการตอบสนองจะเดินทางกลับมาอีกครั้งในวันศุกร์ที่ 29 ม.ค.64 พร้อมกับมวลชนที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
สำหรับข้อเสนอ 3 ข้อประกอบด้วย 1. เยียวยาประชาชนอย่างถ้วนหน้าเท่าเทียม โดยให้รัฐเยียวยาประชาชนผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เดือนละ 3,500 บาท เป็นเวลา 3 เดือน โดยมาตรการดังกล่าวจะใช้งบประมาณ 525,000 ล้านบาท ซึ่งหากมีการตัดลดและโยกย้ายงบที่ไม่จำเป็นก็จะมีงบประมาณเพียงพอ 2. นําเข้าและกระจายวัคซีนโควิด-19 แก่ทุกคนอย่างเท่าเทียม และ 3. ช่วยอุดหนุนค่าครองชีพของประชาชน ทั้งค่าสาธารณูปโภค ค่าไฟฟ้า ค่าประปา ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าโดยสาร อย่างน้อย 3 เดือน และสำหรับนักเรียน นักศึกษาจะต้องมีการลดค่าเล่าเรียน พร้อมทั้งช่วยอุดหนุนค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการเรียนออนไลน์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี