เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 26 มกราคม 2564 ที่ห้องพิจารณา 907 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.3049/2562 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ฟ้อง นายจือเซง แซ่โค้ว อายุ 80 ปี หรือนามปากกา "สมอล์ล บัณฑิต อานียา" นักเขียนนิยาย แนวร่วมคนเสื้อแดง เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
โจทก์ฟ้องสรุปว่า กรณีเมื่อวันที่ 12 ก.ย.2558 ได้มีการจัดเสวนาทางวิชาการหัวข้อ "รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช?" จัดโดยขบวนการประชาธิปไตยใหม่ (NDM) ที่คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ มีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 50 คน โดยจำเลยได้แสดงความคิดเห็นกล่าวถ้อยคำต่อผู้เข้าร่วมเสวนาตอนหนึ่งว่า คุณค่าแห่งความเป็นคน และศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ของคนไทยทั้งแผ่นดิน จะต้องสูงกว่าฝุ่นละอองที่ติดอยู่ที่ฝ่าเท้าของคนบางคน ทำให้ผู้ที่ได้ฟังเข้าใจได้ทันทีว่าเป็นการละเมิด หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ใส่ความในหลวงรัชกาลที่ 9 การกระทำของจำเลยทำให้พระองค์เสื่อมเสียพระเกียรติ ทรงถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาในพระองค์ เหตุเกิดที่แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กทม.
วันนี้ นายจือเซง จำเลย ซึ่งได้รับการประกันตัว ปัจจุบันมีโรคประจำตัวเป็นความดันสูง ภูมิแพ้ และเคยผ่าตัดมะเร็งในกระเพราะปัสสาวะ เดินทางมาศาล โดยมี น.ส.ณัฏฐธิดา มีวังปลา หรือแหวน พยาบาลอาสา แนวร่วมกลุ่มราษฎร เดินทางมาดูแล ขณะที่ภายในห้องพิจารณา มีทีมทนายความ ผู้แทนสถานทูต และผู้ติดตามเดินทางมาร่วมฟังคำพิพากษา
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานที่โจทก์และจำเลยนำสืบแล้ว พยานโจทก์เห็นว่า คำว่าฝุ่นละอองที่ติดอยู่ที่ฝ่าเท้า มาจากคำราชาศัพท์ว่าใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ขณะที่ฝ่ายจำเลยเห็นว่าฝุ่นละอองเป็นคำทั่วไป มีความแตกต่างจากคำว่าฝ่าละออง และไม่ได้เอ่ยชื่อผู้ใด ซึ่งอาจตีความแตกต่างกัน การใช้คำพูดดูหมิ่นหรือไม่ต้องพิจารณาภาพรวม โอกาส สถานที่ เป็นการใส่ความยืนยันหรือไม่ หมายถึงบุคคลใดโดยเฉพาะหรือไม่ ข้อความที่จำเลยกล่าวไม่มีข้อความสื่อถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นข้อความสามัญไม่ใช่ราชาศัพท์ ประกอบกับจำเลยเบิกความเป็นคนจีน คำว่าคุณค่าแห่งความเป็นคน จำเลยต้องการสื่อให้คุณค่าความเป็นคนสูงขึ้น คำว่าฝุ่นละอองมาจากหนังสือที่จำเลยอ่านใช้คำว่าใต้เท้า ไม่ได้หมายถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 พยานโจทก์มีหลักฐานสงสัยตามสมควรว่าหมายถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 หรือไม่ ให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลย พิพากษายกฟ้อง
ภายหลังฟังคำพิพากษา นายจือเซง เปิดเผยความรู้สึกว่า ที่ผ่านมาตนทำเพื่อคนไทยทั้งแผ่นดิน เรื่องที่ถูกนำมาฟ้องเป็นเรื่องเก่าตั้งแต่ปี พ.ศ.2540 แล้ว เมื่อศาลยกฟ้องก็ถือว่าความยุติธรรมยังมีอยู่จริง ถ้าทางโจทก์มีการอุทธรณ์ตนก็คงจะด่ากลับ แต่หลังจากนี้ตนจะไม่ฟ้องกลับ ตนไม่ชอบเท้าความ ตามสำนวนจีนที่ว่า ถ้าขึ้นโรงขึ้นศาลกินขี้หมาดีกว่า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี