ศาลปค.ไต่สวนคดีBTSขึ้นค่าโดยสารสายสีเขียว 104 บาทตลอดสาย "สิริพงศ์"นำทีม ส.ส.ภท.เข้าให้ข้อมูล ชี้สร้างภาระปชช.-ดำเนินการไม่ชอบ ย้ำควรกลับไปยึดสัญญาเดิม 65 บาท
เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 ศาลปกครองออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนคดีที่ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย พร้อม ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ยื่นฟ้องกรุงเทพฯ ขอให้สั่งยกเลิกประกาศกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 29 มี.ค.2560 เรื่องค่าโดยสารโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ ส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท ตอนที่ 1 (ซอยสุขุมวิท 95 ซอยสุขุวิท 107) ระยะทาง 5.25 กิโลเมตร และส่วนต่อขยายสายสีลม ตอนที่ 2 (ตากสิน-เพชรเกษม) ระยะทาง 6.3 กิโลเมตร ทำให้การจัดเก็บอัตราค่าโดยสารตลอดเส้นทางไม่เกิน 104 บาท ซึ่งต่อมามีประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่องการกำหนดค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ให้เรียกเก็บในอัตราเดียวกัน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ.นี้ โดยนายสิริพงศ์ เดินทางพร้อม ส.ส.ภูมิใจไทย อาทิ น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี ส.ส.บัญชีรายชื่อ , นายมณฑล โพธิ์คาย ส.ส.กทม. , นายโชติพิพัฒน์ เตชะโสภณมณี ส.ส.กทม. , นายพิษณุ พลธี ส.ส.ปทุมธานี และนายอนาวิล รัตนสถาพร ส.ส.ปทุมธานี
นายสิริพงศ์ กล่าวก่อนการเข้าไต่สวนว่า เป็นการมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับศาล โดยจะชี้ให้ศาลเห็นว่าก่อนหน้านี้ปี 2562 กทม.ได้มีการเจรจาทำสัญญากับบีทีเอส โดยสัญญากำหนดราคาไว้ที่ 65 บาทตลอดสาย เมื่อเทียบกับรถไฟฟ้าสายอื่น เช่น สายสีน้ำเงิน ตอนนี้มีค่าบริการที่ 42 บาทตลอดสาย มีประชาชนขึ้นวันละ 300,000 คน บีทีเอสก็สามารถดำเนินการได้ ดังนั้น ถ้าบีทีเอสยึดอัตราค่าโดยสารตามร่างสัญญาเดิม และมีผู้ใช้บริการสายสีเขียวที่คาดว่าจะอยู่ที่วันละ 800,000 - 1,000,000 คน ก็เชื่อว่าสามารถดำเนินการได้
ทั้งนี้ การจะตั้งราคา 104 บาทตลอดสาย ต้องคิดว่าคนคนหนึ่งเดินทางไปทำงานทั้งไปและกลับ ต้องมีการขึ้นลงหลายสถานี เท่ากับว่าภาระของเขาวันหนึ่งต้องมี 100 - 200 บาท ดังนั้น จะเป็นภาระมากสำหรับคนที่คนที่มีรายได้ปานกลางถึงรายได้น้อย และเราคาดการณ์ว่าในปี 2572 สัญญาสัมปทานของบีทีเอสในส่วนตรงกลางจะหมดลง เมื่อไม่มีภาระสัมปทานอัตราค่าโดยสารย่อมถูกลงได้อีก ดังนั้น การที่จะมาเก็บค่าโดยสาร 104 บาทตลอดสาย และตลอดอายุสัญญาสัมปทาน หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา มันไม่สามารถเยียวยาประชาชนได้ทันแล้ว
นอกจากนี้ จะชี้ให้ศาลเห็นว่า ยังมีการดำเนินการไม่ชอบด้วยกฎหมาย เช่น ร่างสัญญาที่กทม.ทำกับบีทีเอส ยังไม่เคยผ่านการพิจารณาของ ครม.เลย ในอดีตมีแต่ผ่านสำนักเลขาธิการ ครม.ดังนั้น ครม.จึงยังไม่เคยเห็นเลยว่าร่างสัญญานี้กำหนดให้เก็บค่าโดยสารเท่าใด และตามมติ ครม.มีการกำหนดชัดเจนว่าการจะปรับขึ้นค่าโดยสาร กทม.จะต้องหารือกับทุกภาคส่วน ทั้ง กระทรวงคมนาคม กระทรวงการคลัง ให้ครบถ้วน เพื่อให้การเก็บค่าโดยสารไม่เป็นภาระแก่ประชาชน แต่ กทม.ก็ไม่ได้ดำเนินการตามมติ ครม.เลย ซึ่งการฟ้องครั้งนี้ทำในฐานะประชาชน และ ส.ส.ที่ทำหน้าที่แทนปวงชน หากเราไม่ฟ้องถือว่าเราทำหน้าที่ไม่สมบูรณ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี