ศาลไม่ให้ประกันตัว/ชี้ทำผิดซ้ำๆ
‘เพนกวิน’นอนคุก
กับพวกร่วมแก๊งรวม4คน
ข้อหาผิดมาตรา112-116
คดีนัดชุมนุม19กันยายน
อัยการสั่งฟ้องแล้ว 4 แกนนำม็อบราษฎร “เพนกวิน-อานนท์-สมยศ-หมอลำแบงค์” คดีชุมนุม 19 กันยายน 2 สำนวน อ่วม 11 ข้อหา “เพนกวิน” โดนฟ้อง แถมคดีม็อบเฟส ด้านเจ้าตัวฉุนขาดฉะอัยการ ไม่เห็นความสำคัญเสรีภาพ อัยการเตรียมนำตัวส่งศาลฝากขัง
เมื่อช่วงสายของวันที่ 9 กันยายน 2564 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน,นายอานนท์ นำภา, นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และ นายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือ หมอลำแบงค์ แกนนำและแนวร่วมกลุ่มราษฎร ผู้ต้องหาคดีร่วมกันชุมนุมฯ เดินทางมารายงานตัวต่อพนักงานอัยการตามนัด กรณีการชุมนุมเมื่อวันที่ 19-20 ก.ย. 2563 ที่ผู้ต้องหาร่วมชุมนุมกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์-สนามหลวง(ปักหมุด)และดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112,ยุยงปลุกปั่นฯ ม.116 และข้อหาอื่นๆ
ขณะที่บรรยากาศบริเวณหน้าศาลอาญา มีตำรวจจากส น.พหลโยธินและตำรวจศาล วางกำลังไว้โดยรอบมีการนำแผงเหล็กมาปิดกั้น และมีการเพิ่มจุดคัดกรอกผู้ที่จะเข้า-ออก บริเวณศาลอย่างเคร่งครัด.
ต่อมา ทางอัยการ สำนักงานคดีอาญา7พิจารณาคำร้องขอความเป็นธรรมแล้ว สั่งฟ้อง เพนกวิน-อานนท์-สมยศ-หมอลำแบงค์ (เพนกวิน 2 สำนวน) ในความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112,116 และข้อหาอื่นถูกข้อกล่าวหา กรณีชุมนุมธรรมศาสตร์-สนามหลวง(ปักหมุด)
นายพริษฐ์ หรือ”เพนกวิน” แกนนำกลุ่มราษฎรโพสต์บนเฟซบุ๊กว่า”อัยการมีคำสั่งฟ้องผม พี่อานนท์ และพี่สมยศในข้อหา112 จากกรณีปราศรัยในชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยวันพรุ่งนี้พวกผมจึงต้องไปขึ้นศาลอาญา ถนนรัชดา เวลา09.00น.คงต้องลุ้นว่าจะมีการฝากขังหรือไม่”
ต่อมาเวลา 13.50น.ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงชี้แจงถึงการสั่งฟ้องคดีนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน, นายอานนท์ นำภา, นายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือหมอลำแบงค์ และนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ผู้ต้องหาที่ 1- 4 ซึ่งเป็นแกนนำและแนวร่วมกลุ่มราษฎรว่า คดีมี 2 สำนวน เรื่องแรก(คดีชุมนุมม็อบเฟส) มีผู้ต้องหารายเดียว คือนายพริษฐ์ ข้อหาหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ตาม ป.อาญา ม.112, ยุยงปลุกปั่นฯ ตาม ป.อาญา ม.116 และชุมนุมฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7ได้มีคำสั่งฟ้องทั้ง 3 ข้อหา
นายประยุทธกล่าวว่าสำหรับอีก1สำนวน คือ คดีชุมนุม ระหว่างวันที่ 19-20 ก.ย.2563ที่ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์-สนามหลวง ได้กล่าวหา ผู้ต้องหาทั้ง สี่ ในข้อหาตาม ม.112, ม.116,ร่วมกันมั่วสุม ตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปฯ ป.อาญา ม.215,ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะฯ, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ,กีดขวางทางสาธารณะฯ, ร่วมกันกีดขวางการจราจรฯ, ตั้งวางวัตถุบนถนนอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายฯ, ทำลายโบราณสถานฯ, ทำให้เสียทรัพย์ฯ และร่วมกันโฆษณาเครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตฯรวม 11 ข้อหา ทางพนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 สั่งฟ้องผู้ต้องหา ทั้งสี่ ทุกข้อหา
ส่วนที่ผู้ต้องหายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมมานั้นพนักงานอัยการคดีอาญา7พิจารณาแล้วเห็นว่าพยานที่ผู้ต้องหาจะให้สอบเพิ่มเติมนั้นไม่มีผลเปลี่ยนแปลงความเห็นและคำสั่งของอัยการ เนื่องจากในสำนวนมีพยานหลักฐานทำนองเดียวกัน ก็เพียงพออยู่แล้ว จึงไม่ดำเนินการตามหนังสือร้องขอความเป็นธรรมของผู้ต้องหา หลังจากนี้พนักงานอัยการจะนำผู้ต้องหาทั้งสี่ไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงและให้สัมภาษณ์ของ นายประยุทธ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว ปรากฎวว่า นายพริษฐ์ หรือ เพนกวิน ที่เดินเข้ามาฟังการแถลงด้วย ได้ถามนายประยุทธกลับ โดยย้ำถึงประเด็นตามหนังสือร้องขอความเป็นธรรมว่าหลักสิทธิเสรีภาพ ได้รับการคุ้มครองตามมาตรฐานสากลหรือไม่ นายประยุทธ ชี้แจงว่า งานโฆษกฯเป็นการนำผลการสั่งคดีของพนักงานอัยการมาเรียนต่อสื่อมวลชนเท่านั้น งานโฆษกไม่สามารถอธิบายในส่วนของสำนวนคดีได้ เพราะไม่ได้รับผิดชอบสำนวน และไม่แน่ใจว่าเป็นข้อต่อสู้ในชั้นศาลหรือไม่
นายพริษฐ์ จึงตอบโต้ว่า คดีนี้เป็นคดีที่ส่งผลต่อมาตรฐานสิทธิเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ ต้องชี้แจงบรรทัดฐานการดำเนินงานขององค์กรอัยการเป็นอย่างไร คดีนี้เป็นคดีการเมือง กระบวนการยุติธรรมสามารถปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชนได้มากน้อยเพียงใด
ขณะที่ นายประยุทธ ได้ชี้แจงว่า ตาม ป.วิ.อาญามีหลักสันนิษฐาน คนที่อัยการฟ้องเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำผิด ในส่วนสำนวนคดี อัยการพิจารณาแล้ว ถ้าพยานหลักฐานพอฟ้อง ก็ฟ้อง ประเด็นที่พูดสามารถนำไปต่อสู้ในชั้นศาลได้ แต่นายพริษฐ์ได้กล่าวถึงพยานที่ให้สอบเพิ่มเติมจะพูดเรื่องสิทธิเสรีภาพประชาชน พร้อมกล่าวโจมตีว่าองค์กรอัยการว่าไม่เห็นความสำคัญของการธำรงไว้ซึ่งเสรีภาพในการแสดงออก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี