‘บิ๊กตู่’ฮึมม็อบ
มีหลักฐานใครก่อเหตุ-ทำร้ายจนท.
อย่าปลุกระดม-บิดเบือนความจริง
4แกนนำม็อบราษฎรวืดประกันอีก
รัฐบาลเตรียมพร้อมสู้ศึกอภิปราย
“บิ๊กตู่”เตือนม็อบมีหลักฐานทำร้ายจนท.กล้องบันทึกภาพชัดเจน ใครก่อเหตุรุนแรง ขออย่าฟังความข้างเดียว-บิดเบือนข้อเท็จจริง หรือปลุกระดม ไม่เกิดประโยชน์กับประเทศชาติ ให้ดูแลการชุมนุมตามกม.ด้วยความละมุนละม่อม ด้าน “ชวน” ไร้กังวลศึกซักฟอก เตือนฝ่ายค้านพูดถึงสถาบันเท่าที่เขียนในญัตติ เชื่อไม่มีประท้วงหนัก จนประชุมเดินหน้าไม่ได้ขณะที่“วิรัช” ไร้ปัญหา“หมอระวี”ขอดูเชิงช่วงอภิปราย ชี้เป็นสิทธิส่วนบุคคลยันรบ.จะตอบเน้นๆ ไม่มีขี่ม้ารอบค่าย
เมื่อวันที่ 15กุมภาพันธ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็น ประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบวิดิโอคอนเฟอเรนซ์ โดยก่อนการประชุม ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่มีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อวันที่ 13ก.พ.พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นไปตามกฎหมาย เมื่อถามว่า ดูเหมือนการชุมนุมจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไปถามว่าทำไมถึงรุนแรงขึ้น แล้วใครเป็นคนทำล่ะ ถามย้ำว่า เป็นห่วงหรือไม่ว่าการชุมนุมจะกินเวลาไปจนถึงวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า “คนไทย ห่วงไหมล่ะ คนไทย”
‘บิ๊กตู่’ลั่นมีหลักฐานม็อบทุบตร.
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวหลังเป็นประธานการประชุม ครม.อีกครั้งหนึ่ง ถึงความกังวลต่อการชุมนุมมีการจุดกระแสเจ้าหน้าที่ทำร้ายและอาจมีการเคลื่อนไหวไปที่หน้ารัฐสภาในวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ และอาจมีการยกระดับความรุนแรงมีระเบิดในพื้นที่ชุมนุม ว่า ยืนยันว่าจะให้เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างเต็มที่ในการทำหน้าที่ตามกฎหมายด้วยความละมุนละม่อม ขณะเดียวกันขอฝากเตือนผู้ก่อเหตุด้วยว่า ทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐานจำนวนมาก รวมถึงกล้องต่างๆก็ออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน จึงขอให้เสนอข่าวสองทางว่ามีการปฏิบัติต่อเจ้าหน้าที่ด้วยและต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่ ที่ต้องทำงานด้วยความระมัดระวังและมีชีวิตจิตใจเหมือนกัน ถ้าใช้ความรุนแรงตอบโต้ไปมาก็มีแต่ทำให้เกิดความรุนแรงและไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติและประชาชนโดยรวม
รอสอบสวน-อย่าฟังความข้างเดียว
เมื่อถามว่า ในฐานะกำกับดูแลตำรวจจะชี้แจงหรือแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ตำรวจทำร้ายร่างกายทีมแพทย์ อย่างไร และต้องกำชับให้ระมัดระวังอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็บอกไปแล้วมีการทำร้ายเจ้าหน้าที่ด้วย ซึ่งต้องไปพิสูจน์ทราบ เจ้าหน้าที่แพทย์จริงหรือไม่ ขณะนี้อยู่ในกระบวนการสอบสวนและอย่าฟังความข้างเดียว ทุกคนต้องเคารพกฎหมาย เมื่อถามถึงการนัดหมายชุมนุม 17 ก.พ.และ20ก.พ.ซึ่งเป็นช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นห่วงหรือไม่ว่าผลการอภิปรายและลงมติในสภาฯ จะมีผลต่อการเคลื่อนไหวชุมนุมนอกสภา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนคิดว่า อย่ามีการเคลื่อนไหวในทางปลุกระดมปลุกปั่น ให้เกิดการชุมนุม ไม่เกิดประโยชน์อะไรต่อประเทศชาติในเวลานี้ เพราะประเทศชาติมีปัญหาอยู่ ทั้งโควิดและปัญหาต่างๆ มากมาย ถึงไม่ควรเพิ่มความขัดแย้งให้มากยิ่งขึ้น
เตรียมข้อมูลพร้อมลุยศึกซักฟอก
นายอนุชา บูรพไชยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังประชุม ครม.ว่า ก่อนการประชุมครม. พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวถึงเรื่องการเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯและรัฐมนตรี ในวันอังคารที่ 16กุมภาพันธ์นี้ โดยนายกฯได้เตรียมข้อมูลไว้ทั้งหมด พร้อมที่จะชี้แจงให้ประชาชนและสภาผู้แทนราษฎรได้รับทราบในการทำงานและความโปร่งใสในนโยบายต่างๆ ทั้งนี้ นายกฯ ได้กำชับให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเตรียมข้อมูลให้พร้อมพูดให้ประชาชนเข้าใจและทราบถึงประเด็นต่างๆ
‘บิ๊กป้อม’ชี้ปล่อยม็อบเรื่องของศาล
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีมีการระบุว่า ทีมแพทย์อาสาถูกตำรวจอารักขาและควบคุมฝูงชน (อคฝ.) กระทืบบาดเจ็บสาหัสในระหว่างการชุมนุมเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ว่า ตำรวจออกมาชี้แจงแล้วและเขาปฏิเสธไปแล้ว
พล.อ.ประวิตร ยังให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยหลังเกิดเหตุปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ชุมนุมราษฎรและพยาบาลอาสา วันที่ 13กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ว่า เราดูแลตามกฎหมาย และจะดูแลความปลอดภัยให้มากที่สุด ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์ชุลมุนที่เกิดขึ้น เมื่อไม่ทราบว่าเป็นฝีมือของใครจะดูแลเรื่องนี้อย่างไร พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า จะดูแลทั้งหมด เรื่องที่เจ้าหน้าที่ต้องดูแลทุกฝ่าย เมื่อถามถึงข้อเรียกร้องปล่อยตัว 4แกนนำราษฎร พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เป็นเรื่องของศาล ไม่ใช่ของตน จะไปปล่อยได้อย่างไร ให้ดำเนินไปตามกฏหมาย ส่วนที่ขีดเส้นว่าจะนัดชุมนุมใหญ่ หากไม่ปล่อยตัวแกนนำจะให้ทำอย่างไร เพราะเป็นเรื่องของศาล ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล
ยัน8คนไม่ใช่บุคลากรการแพทย์
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีเหตุการณ์ชุมนุมกลุ่มราษฎรในวันที่ 13 ก.พ.ว่า มีการควบคุมตัวผู้ชุมนุม 8ราย บางรายอ้างว่าเป็นแพทย์อาสา จึงทำการพิสูจน์ทราบว่ามีพฤติกรรมอย่างไรในเหตุการณ์การผู้ชุมนุมนั้น จากการตรวจประวัติทั้งหมดเบื้องต้นพบว่า ไม่ผ่านการอบรมหรือเป็นบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งนี้ ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ประกาศแจ้งเตือนให้ออกจากพื้นที่แล้ว ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ออกจากพื้นที่ยกเว้นแต่กลุ่มผู้ชุมนุมเท่านั้นเจ้าหน้าที่จึงได้จับกุม
อนุกก.แพทยสภาออกแถลงการณ์
วันเดียวกัน ศาสตราจารย์เกียรติคุณแพทย์หญิงสมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภา ประธานคณะอนุกรรมการบริหารแพทยสภา ออกแถลงการณ์อนุกรรมการบริหารแพทยสภา มีรายละเอียดว่า
เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ชุมนุมหลายครั้งในประเทศไทย จนเป็นเหตุให้มีประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่และอาสาสมัครทางการแพทย์ ได้รับบาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง กรรมการบริหารแพทยสภา ขอแถลงจุดยืนดังนี้ 1.ขอแสดงความไม่เห็นด้วยต่อการกระทำที่เป็นการยั่วยุ การละเมิดกฎหมาย และการใช้กำลังที่เกินความเหมาะสมของทุกฝ่าย ซึ่งอาจนำไปสู่เหตุการณ์ที่รุนแรงขึ้น ส่งผลต่อสุขภาวะของผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประชาชนที่อยู่ในบริเวณ หรือสัญจรผ่านพื้นที่ใกล้เคียง 2.ขอให้ทุกฝ่ายให้เกียรติและระมัดระวังที่จะไม่ทำให้เกิดอันตราย หรือความเสียหายใดๆ ต่อบุคลากรและอาสาสมัครทางการแพทย์ ตลอดจนอุปกรณ์ทางการแพทย์ และรถพยาบาลตามหลักกาชาดสากล
3.ขอหน่วยงานที่รับผิดชอบ จัดให้มีระบบการให้การดูแลทางการแพทย์ที่เหมาะสม มีการติดสัญลักษณ์ที่ระบุว่าเป็นบุคลากรหรืออาสาสมัครทางการแพทย์ที่ขัดเจน เพื่อให้บุคลากรเหล่านี้สามารถปฏิบัติการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บได้อย่างปลอดภัย ตามหลักสากล ที่สำคัญคือไม่เลือกปฏิบัติ ยึดถือความเป็นกลาง มีคุณธรรม จริยธรรมและปฏิบัติตามจรรยาบรรณของวิชาชีพอย่างเคร่งครัด 4.ขอแสดงความชื่นชมต่อบุคลากรและอาสาสมัครทางการแพทย์ทุกท่าน ที่เสียสละและมีจิตอาสาช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์การชุมนุมต่างๆ โดยมิได้หวังผลตอบแทนใดๆ
‘ชวน’เตือนพาดพิงสถาบันปชช.จับตา
ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฏร กล่าวถึงการควบคุมการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 16ก.พ.หลังยังกังวลเรื่องสถาบันว่า เมื่อญัตติเราพิจารณาว่าชอบแล้วก็ให้อภิปรายไป จะออกนอกญัตติไม่ได้ ส่วนที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ พูดได้เท่าที่เขียนไว้ ส่วนตัวไม่ได้กังวลและเชื่อว่า สมาชิกส่วนใหญ่ก็รู้อะไรควร อะไรไม่ควร ใครที่ออกนอกกติกา พฤติกรรมเหล่านั้นประชาชนกำลังจับตาดูอยู่ จะมีผลต่อเขาโดยตรง ประธานสภาฯมีหน้าที่ควบคุมการประชุมในสภาฯ แต่ข้างนอกประชาชนเป็นคนคุม พฤติกรรมใดที่ไม่ถูกต้องประชาชนจะลงโทษเอง
นายชวน กล่าวยืนยันว่า ญัตติสามารถอ่านได้ ถึงไม่อ่านก็เป็นญัตติแล้ว ทุกอย่างมีกติกาข้อบังคับอยู่ ทั้งนี้คนมองว่าการประท้วงมีบ้างเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ใช่เรื่องน่าวิตกและคิดว่าคงไม่มีการประท้วงกันอย่างรุนแรงจนไม่สามารถเดินหน้าอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ ส่วนที่ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เตรียมขออนุญาต นำแหนบถอนผมเข้าไปประชุมสภาด้วยเพื่อนำไปถอนหงอกผู้นำฝ้ายค้านหากพูดถึงสถาบัน นายชวน กล่าวว่า ทุกอย่างอยู่ที่กฎกติกา ไม่ใช่ใครจะทำอะไรตามอำเภอใจได้ และหากผู้อภิปรายพูดในกรอบก็ถือว่าไม่มีปัญหา เมื่อถามย้ำว่า สามารถเอาแหนบถอนผมเข้าสู่ที่ประชุมสภาได้หรือไม่ นายชวนกล่าวว่า “หากนำไปเป็นอาวุธถือว่าไม่ได้” ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่า แหนบถอนผมถือเป็นอาวุธหรือไม่ นายชวน ตอบว่า ไม่ทราบ
‘วิรัช’ชี้เป็นสิทธิ์ฟังซักฟอกก่อนโหวต
นายวิรัช รัตนเศรษฐ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีพรรคเล็กจะขอฟังเนื้อหาการอภิปรายก่อนจะตัดสินใจลงมติไว้วางใจ หรือไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีแต่ละคนว่า ขอยืนยันว่า เรื่องนี้จบแล้ว ได้เคลียร์กันเรียบร้อยแล้ว ส่วนที่ นพ.ระวี มาศฉมาดล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ยังจะขอฟังการอภิปรายก่อนลงมตินั้น ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่จะขอฟังก่อนได้ ไม่เป็นประเด็นอะไร
เมื่อถามถึงฝ่ายค้านระบุว่า การอภิปรายในครั้งนี้จะมีเซอร์ไพรส์ นายวิรัช กล่าวว่า ทุกครั้งที่มีการอภิปรายฝ่ายค้านก็บอกว่า มีเซอร์ไพรส์และตื่นเต้นตลอดเวลา เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการขยายเวลาการอภิปรายออกไปมากกว่า 4วัน ประธานวิปรัฐบาล กล่าวยืนยันว่า จะอภิปราย 4วันและลงมติ 1วัน โดยฝั่งรัฐบาลจะตอบเฉพาะประเด็นเน้นๆไม่ขี่ม้ารอบค่าย ซึ่งจะทำให้ประหยัดเวลาได้มากขึ้น
พท.ขู่ดำเนินคดี’ไพบูลย์’หากขัดขวาง
ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) มีการประชุมแกนนำ 6พรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยภายหลังการประชุม นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค พท.กล่าวว่า ญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ผ่านการพิจารณาของประธานสภาฯและได้บรรจุเรียบร้อย จึงไม่มีอะไรที่เป็นปัญหา ซึ่งเราจะอ่านญัตติตามตัวอักษร หากเกิดการประท้วง ขอให้เป็นเรื่องของประธานในที่ประชุมที่จะวินิจฉัย
นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวว่า การอ่านญัตติเป็นขั้นตอนปกติที่ต้องปฏิบัติ ทุกข้อความผ่านการพิจารณาจากประธานสภา ดังนั้นจึงไม่ควรมีปัญหาและเชื่อว่าประธานสภาจะสามารถควบคุมได้ เมื่อถามว่า สามารถอ่านญัตติข้ามเป็นบางช่วง เพื่อรักษาบรรยากาศไม่ให้มีการประท้วงได้หรือไม่ นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า เราจะไปจ้องเอาใจคนที่คิดจะป่วนเรา โดยการอ่านข้ามหรือหลบเลี่ยงนั้นไม่ถูกต้องและการอ่านญัตติไม่ครบหรือข้ามไปนั้นถือว่าไม่สมบูรณ์ และจะมีปัญหาแน่นอน หาก นายไพบูลย์ นิติตะวัน สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร.ขัดขวางหรือประท้วงการอ่านญัตติ ทั้งที่ประธานสภาได้วินิจฉัยแล้ว เรื่องนี้มีคนพร้อมดำเนินคดีและมีคณะทำงานเตรียมการเรื่องดังกล่าวนี้อยู่ และหลังอภิปรายจะโดนข้อหาขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ เพราะสส.ถือเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี