"เลขา ครป."อัด"นายกฯ"คับแคบ ใช้อารมณ์ชี้แจงประชาชน ผิดหวังสภาประท้วงวุ่นวาย แนะ 10 รัฐมนตรีแถลงชี้แจงข้อกล่าวให้เคลียร์อีกรอบ
เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2564 นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวว่า หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจจบลง ผมผิดหวังนายกรัฐมนตรีที่จิตใจคับแคบ หลงอำนาจและขี้งอน ขณะที่ประชาชนทั้งประเทศรอฟังคำชี้แจงกลับไม่แถลงให้จบเพียงแค่เห็นสมาชิกในสภาไม่ตั้งใจฟัง นอกจากนั้นยังไม่ทำการบ้าน เพราะคำตอบต่างๆ ไม่เคลียร์และยังไม่สามารถแก้ข้อกล่าวหาได้
"การชี้แจงการถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น นายกฯ ต้องพูดกับประธานสภา ไม่ใช่เฉพาะคนที่นั่งอยู่ในสภาเท่านั้นที่รับฟัง ยังมีประชาชนทั่วประเทศนั่งรอรับฟังคำตอบอยู่ด้วย นอกจากหลงอำนาจ ไม่ทำการบ้าน และชี้แจงไม่ตรงประเด็นแล้ว เป็นนายกฯ ที่วุฒิภาวะต่ำแบบนี้ ผมว่าลาออกเถอะครับ"
นอกจากนี้ โครงการพัฒนาขนาดใหญ่ของรัฐต้องฟังเสียงประชาชนด้วย ถ้ามีเสียงคัดค้านและไม่ชอบก็ยกเลิกได้ ไม่ใช่ดันทุรังทำไปอ้างผลประโยชน์ชาติ แต่แท้จริงเป็นผลประโยชน์กลุ่มทุน หลายโครงการที่อนุมัติผ่านคณะรัฐมนตรีและ BOI มีการตรวจสอบหรือไม่ว่าประเทศและประชาชนได้รับผลกระทบอย่างไร นอกจากตัวเลขเศรษฐกิจปลอมๆ ที่คาดว่าประชาชนจะได้รับ แต่นายทุนได้ที่ดินไปฟรีๆ
"ผมเห็นว่าข้อกล่าวหาทุจริตประพฤติมิชอบในหลายเรื่อง รัฐมนตรีบางคนตอบคำถามไม่ได้และชี้แจงไม่หมด หลายเรื่องคงต้องขยายไปสู่การตรวจสอบนอกสภา และกลไกที่เกี่ยวข้องต้องนำไปสอบต่อ เช่น ป.ป.ช. , ป.ป.ท. , ป.ป.ง.ขอแนะนำให้รัฐมนตรีที่ตอบคำถามไม่เคลียร์ แถลงนอกสภาชี้แจงต่อสาธารณะให้เป็นระบบอีกรอบ"
เรื่องที่น่าสนใจในครั้งนี้สภานั้น มีทั้งประเด็นการคอร์รัปชั่นเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง ส่วนต่างซื้ออาวุธและยุทธภัณฑ์ของกองทัพและหน่วยงานต่างๆ รวมถึงการปฏิรูปกองทัพที่ล้มเหลว การปฏิรูปตำรวจที่ย่ำอยู่กับที่โดยอนุญาตให้ระบบการเมืองและพวกพ้องไปแทนที่ระบบคุณธรรมในการเลื่อนขั้นและซื้อขายตำแหน่ง ซึ่งผู้บัญชาการเหล่าทัพและตำรวจต้องออกมาชี้แจงเรื่องนี้ด้วย
น่าเสียดายที่การอภิปรายยังไม่ทำให้เห็นปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจที่รัฐไปเอื้อเจ้าสัวบางคนให้ผูกขาดในหลายเรื่อง เรื่องปากท้องประชาชนพูดถึงกันน้อยมาก และยังมีข่าวว่านายทุนใหญ่บางคนแจกเงินว่อนสภา ได้กันแทบทุกพรรค เรื่องพลังงาน ไฟฟ้า น้ำมันแพงจึงแทบไม่มีใครพูดถึง สถานการณ์วิกฤติแบบนี้ ทุกฝ่ายต้องเสียสละและออกกฎหมายพิเศษเพื่อแก้ปัญหาโครงสร้างแล้ว
ทั้งนี้ การอภิปรายไม่ไว้วางใจยังวุ่นวาย เต็มไปด้วยการประท้วงที่ไร้ระเบียบ โดยเฉพาะจาก 3 องครักษ์พิทักษ์รัฐบาล ประท้วงได้น่ารำคาญมาก ทำให้ประชาชนเบื่อหน่ายระบบรัฐสภาที่ควรถือว่าเป็นสถาบันแสงสว่างและทางออกของปัญหาประเทศ บางคนประท้วงตามคำสั่งเหมือนมีสัญญาณให้ประท้วงรบกวนการอภิปรายต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเด็นตามญัตติที่เกี่ยวข้องกับการนำสถาบันเป็นข้ออ้างเพื่อแบ่งแยกประชาชน และแอบอ้างมาเป็นเกราะปิดบังความผิดพลาดล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน รวมถึงการอภิปรายโจมตี พล.อ.ประวิตร แทบจะไม่ให้กล่าวถึง แตะต้องไม่ได้ มีการส่งสัญญาณให้ประท้วงตลอดเวลา
จริงๆ แล้ว การพาดพิงถึงบุคคลภายนอกไม่ว่าบุคคลใดสามารถกระทำได้ในสภาผู้แทนราษฎร ไม่เช่นนั้นจะมีสภาผู้แทนราษฎรไปทำไม เพราะต้องตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ซึ่งครอบคลุมไปถึงทุกองคาพยพในประเทศและในต่างประเทศที่ส่งผลถึงประชาชนไทย ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานราชการใดๆ หรือบริษัท ห้างร้าน เอกชน องค์กรต่างๆ รวมถึงประชาชนทั้งแผ่นดิน
"ผมเห็นว่าบ้านเมืองล้มเหลวแตกแยกมากว่า 7 ปีนี้ และยังไม่สามารถหาทางออกได้ เป็นความรับผิดชอบของ พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี โดยตรง ที่สมควรรับผิดชอบด้วยการลาออก ให้คนอื่นเข้ามาแก้ปัญหาเถอะครับอย่าหวงอำนาจอยู่เลย บางปัญหาคนอื่นอาจจะแก้ได้ดีกว่าก็ได้เพราะวิสัยทัศน์ไม่เหมือนกัน อย่ารอเวลาและจังหวะฉวยโอกาสยุบสภาภายใต้กติกาเดิมเลย เพราะจะทำให้ประเทศไม่เดินหน้าสักที ลาออกและให้กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญเดินหน้าไป แล้วค่อยเลือกตั้งภายใต้กติกาใหม่ที่เป็นธรรม เป็นทางออกที่ดีที่สุดของประเทศไทย"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี