ฝ่ายค้านสำแดงธาตุแท้ ชงเปิดทางให้อำนาจส.ส.ร.แก้รธน.หมวด 1-2 อ้างเจตนาต้องการเติมเต็มถ้าในอนาคตมีการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ดีๆจะทำไม่ได้ ด้าน"โรม"โดดงับเต็มตัว ถ้ายิ่งห้ามยิ่งเป็นผลเสียต่อสถาบัน ขณะที่ส.ว.ดาหน้าค้านแหลก ‘กิตติศักดิ์’ ลุกสวนแตะสถาบันมากเกินไปแล้ว ถ้าอยากจะทำให้ไปทำตอนหาเสียง ขณะที่"สมชาย"ซัดหน้าหงายอย่าตะแบงตีเช็คเปล่า เผยวุฒิสภากดดันหนักเขียนให้ชัดห้ามยุ่งอีก 38 มาตราเกี่ยวกับพระราชอำนาจ จนต้องสั่งพักการประชุม
25 ก.พ.2564 ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ในฐานะรองประธานรัฐสภา ได้พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่....) พ.ศ..... วาระ2 โดยตั้งแต่เวลา 14.4 5น. ได้เข้าสู่การพิจารณา มาตรา 256/10 ที่กมธ.เสียงข้างมากกำหนดให้ กกต.จัดให้มีการเลือกตั้งส.ส.ร.แทนตำแหน่งที่ว่างลง ภายใน 45 วัน เว้นแต่จะเหลือเวลาไม่ถึง 90 วันในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ ไม่ต้องดำเนินการเลือกตั้ง ซึ่งที่ประชุมลงมติเห็นชอบตามที่กมธ.เสียงข้างมากเสนอมา ส่วนมาตรา256/13 ที่กมธ.เสียงข้างมากให้ส.ส.ร.จัดทำร่างรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จภายใน 240วัน และการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญที่มีผลเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมหมวด1และหมวด2 จะกระทำมิได้
โดยส.ส.ฝ่ายค้านหลายคน อภิปรายให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญสามารถแตะต้องหมวด 1 และ 2 ได้ อาทิ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ขอเพิ่มเติมในมาตรา 256/13ว่า “การจัดทำร่างรัฐธรรมนูญที่มีผลเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมหมวด 1 บททั่วไป และหมวด 2 พระมหากษัตริย์ จะกระทำมิได้ เว้นแต่เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมที่ ทำให้การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น” เพราะเป็นห่วงหมวด 1 และ 2 ถ้าในอนาคตมีการเปลี่ยนแปลงหรือมีสิ่งดีๆที่จะเติมเต็มเข้าไป เพื่อให้ระบอบการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขดีขึ้นนั้น จะทำมิได้ ถ้าไม่มีเขียนระบุไว้ ไม่ได้มีเจตนาแก้ไข แต้ต้องการเติมเต็มให้ดีขึ้น
ด้านนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะเกิดขึ้นจะต้องอยู่ภายใต้บังคับของมาตรา 255 ความกังวลที่จะนำไปสู่การล้มล้างสถาบันฯ หรือเปลี่ยนแปลงการปกครอง จะไม่มีทางเกิดขึ้นอยู่แล้ว แต่ในทางกลับกันการกำหนดห้ามแบบนี้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมา ประชาชนจะสงสัยว่าทำไมต้องห้าม เพราะในอดีตก็เคยมีการแก้ไข ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ให้เหมาะต่อกาลสมัยมาตลอด ซึ่งการแก้ไขหมวด 1 และ 2 สามารถทำได้ ในอดีตที่มีการรัฐประหารฉีกรัฐธรรมนูญ ก็มีการกระทบกระเทือนสถาบัน ก็เห็นทำกันได้ เหตุใดส.ส.ร.ที่จะมีการตั้งขึ้นมา เราถึงไม่ให้เขาทำรัฐธรรมนูญตามที่คิดว่าเหมาะสมกับปัจจุบัน
"เราไปบอกว่าหมวดนี้ห้ามยุ่ง มาตรานี้ห้ามแตะ ถามว่ามันเป็นผลดีต่อสถาบันหรือไม่ ถ้ายิ่งห้ามยิ่งเป็นผลเสียต่อสถาบัน ผมจึงไม่เห็นด้วย ที่ห้ามส.ส.ร.แตะหมวด 1 แล ะ2 ขณะเดียวกัน สิ่งที่เกิดความลักลั่นคือส.ส.ร.สามารถจัดทำรัฐธรรมนูญ แต่ไม่สามารถแตะหมวด 1 และ 2 ได้ แต่สภาฯถ้าดูตามรัฐธรรมนูญดีๆ ก็ยังมีอำนาจแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่ รวมถึงหมวด 1 และ2 ผมไม่เข้าใจว่า ส.ส.ซีกรัฐบาล และส.ว.จะเป็นปัญหาอะไรกับเรื่องนี้ ท่านรู้สึกว่าสถาบันฯต้องอยู่เหนือการเมือง แต่ก็ทำให้กระบวนการราวกับดึงสถาบันลงมา รัฐสภาถ้ามาจากประชาชนอย่างแท้จริง อย่าล็อกหรือบีบคอส.ส.ร. ให้เขาทำหน้าที่อย่างอิสระ คิดว่าจะได้รัฐธรรมนูญที่ดีกว่าที่เป็นอยู่แน่นอน ถ้าไปล็อกบางมาตรา ไม่ให้แก้ไขได้ เชื่อว่าจะไม่ได้รัฐธรรมนูญที่ดีที่สุด” นายรังสิมันต์ กล่าว
ขณะที่ส.ว.หลายคนอาทิ พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร พล.อ.ดนัย มีชูเวท นายเสรี สุวรรณภานนท์ อภิปรายยืนยันว่า ห้ามส.ส.ร.แตะต้องหมวด1และ2 เพราะจำเป็นต้องปกป้องสถาบัน โดยนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว. ลุกขึ้นประท้วงว่า มากเกินไปแล้ว พอแล้ว แตะสถาบันพระมหากษัตริย์จนกระทั่งเลือกตั้งแพ้ทุกคราว พอเถอะ ถ้าอยากจะทำเรื่องสถาบันฯให้ไปตอนหาเสียง จบมั้ย
ด้านนายสมชาย แสวงการ ส.ว. อภิปรายว่า ถ้าไม่กำหนดห้ามแตะต้องหมวด1 และ 2 เท่ากับตีเช็คเปล่าให้ส.ส.ร.แก้ไขรัฐธรรมนูญ นอกจากจะห้ามแตะต้องหมวด 1 และ 2 แล้ว เชื่อว่าส.ว.ทุกคน ยังอยากให้เติมว่า ห้ามส.ส.ร.แตะต้องอีก 38 มาตราที่เกี่ยวกับพระราชอำนาจเข้าไปด้วย เพื่อเป็นหลักประกันว่า พระราชอำนาจจะไม่ถูกแก้ไข เติมเข้าไปเสียหายตรงไหน อย่าตะแบง ตนไม่สบายใจในเรื่องนี้
ทั้งนี้ส.ว.หลายคนพยายามอภิปรายกดดันให้กมธ.เสียงข้างมากเพิ่มเติมข้อความ ห้ามส.ส.ร.แตะต้อง 38 มาตราที่เกี่ยวข้องกับพระราชอำนาจเข้าไปอยู่ในวรรค 5 ของมาตรา 256/13 ก่อนที่จะมีการลงมติโหวต ทำให้นายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภาที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม สั่งพักประชุม 15 นาที เพื่อให้กมธ.เสียงข้างมากไปตกลงกันจะทำตามข้อเสนอของส.ว.หรือไม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี