โพลเปิดมุมมองปชช. อะไรคือทางออก‘จุดกึ่งกลาง ม็อบกับรัฐบาล’.?
7 มีนาคม 2564 “สวนดุสิตโพล”มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศที่สนใจติดตามข่าวการเมือง จำนวนทั้งสิ้น 1,147 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 1-5 มีนาคม 2564 หัวข้อ “จุดกึ่งกลางระหว่างการชุมนุมกับรัฐบาล” กรณีการชุมนุมทางการเมือง ณ วันนี้ มีหลายประเด็นที่อยู่ในความสนใจของประชาชน โดยเฉพาะเหตุปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีความเป็นห่วงกังวลว่าสถานการณ์จะยืดเยื้อต่อไป เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนและช่วยกันหาทางออก เพื่อหาจุดกึ่งกลางระหว่างการชุมนุมกับรัฐบาล สรุปผลได้ ดังนี้
1. ประชาชนติดตามข่าวการชุมนุมจากสื่อใด
อันดับ 1 โทรทัศน์ 70.04%
อันดับ 2 เฟซบุ๊ก 65.33%
อันดับ 3 การไลฟ์สด (Live) 37.29%
อันดับ 4 การพูดคุยกับคนอื่นๆ 36.33%
อันดับ 5 เว็บไซต์ข่าว 31.00%
2. ประชาชนคิดเห็นอย่างไรกับการชุมนุม ณ วันนี้
อันดับ 1 การเคลื่อนไหวชุมนุมแตกต่างจากสมัยก่อน 55.33%
อันดับ 2 มีเยาวชนคนรุ่นใหม่เป็นแกนนำ 50.61%
อันดับ 3 เป็นสิทธิตามระบอบประชาธิปไตย 49.04%
อันดับ 4 มีการปะทะ กระทบกระทั่งกันมากขึ้น 48.43%
อันดับ 5 มีผู้ไม่หวังดีปะปนเข้ามาสร้างสถานการณ์ 47.90%
3. ประชาชนคิดเห็นอย่างไรกับท่าทีของรัฐบาลที่มีต่อการชุมนุม ณ วันนี้
อันดับ 1 เน้นการสกัดกั้นการชุมนุม/จับกุมแกนนำ 51.41%
อันดับ 2 มีการใช้กำลังเกินกว่าเหตุ/ใช้มาตรการที่รุนแรง 50.35%
อันดับ 3 พยายามควบคุมสถานการณ์ 48.94%
อันดับ 4 ไม่รับฟัง/ไม่ให้ความสำคัญกับข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม 46.92%
อันดับ 5 ต้องการรักษาความสงบของบ้านเมือง 41.11%
4. ประชาชนคิดว่า “จุดกึ่งกลาง” ระหว่างการชุมนุมกับรัฐบาลคืออะไร
อันดับ 1 ทุกฝ่ายต้องยอมรับความเห็นต่าง ถอยคนละก้าว 50.07%
อันดับ 2 รัฐบาลต้องเปิดใจ รับฟังข้อเรียกร้อง สนใจไม่ละเลย เพื่อทบทวนการทำงาน 13.67%
อันดับ 3 นายกฯต้องลาออก /แก้ไขรัฐธรรมนูญ/ ยุบสภา 10.79%
อันดับ 4 การชุมนุมโดยสงบ สันติ ปฏิบัติตามกฎหมาย 9.64%
อันดับ 5 ทั้ง 2 ฝ่ายต้องจัดตั้งตัวแทนเจรจา หาข้อตกลงร่วมกัน 5.04%
5. ความคิดเห็นของประชาชนต่อการชุมนุม ณ วันนี้
ไม่เห็นด้วย 27.63%
ค่อนข้างเห็นด้วย 25.20%
ค่อนข้างไม่เห็นด้วย 23.98%
เห็นด้วย 23.19%
6. ความคิดเห็นของประชาชนต่อท่าทีของรัฐบาลที่มีต่อการชุมนุม ณ วันนี้
ไม่เห็นด้วย 39.49%
ค่อนข้างไม่เห็นด้วย 28.60%
ค่อนข้างเห็นด้วย 23.63%
เห็นด้วย 8.28%
นางสาวพรพรรณ บัวทอง นักวิจัย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยว่า ผลการสำรวจสะท้อนให้เห็นว่าถึงแม้ประชาชนจะไม่เห็นด้วยกับการชุมนุม แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับท่าทีของรัฐบาลที่ออกมาตอบโต้เช่นกัน การควบคุมสถานการณ์ที่เน้นการจับกุม การสลายการชุมนุมด้วยแก๊สน้ำตา กระสุนยาง และการฉีดน้ำแรงดันสูง หลายฝ่ายมองว่าเป็นการกระทำที่รุนแรง ไม่ว่าสถานการณ์การชุมนุมและท่าทีของรัฐบาลจะเป็นไปในทิศทางเช่นไร สุดท้ายแล้วก็ควรเร่งหาทางออกที่เป็นจุดกึ่งกลางสำหรับเรื่องนี้ให้ได้โดยเร็ว
ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ อัญชลี รัตนะ อาจารย์ประจำหลักสูตรรัฐศาสตร์ โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยว่า ในระบอบประชาธิปไตย การชุมนุมถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนและได้กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญตั้งแต่ปี 2475 เป็นต้นมา ดังนั้น การที่รัฐบาลเลือกวิธีการใช้กำลังเข้าสกัดกั้น ปราบปราม จับกุมคุมขัง แกนนำและผู้เข้าร่วมชุมนุมแทนการรับมือด้วยสันติวิธี จึงเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้โดยหลักการสากล เพราะนี่คือการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน
“รัฐบาลควรแสดงวุฒิภาวะผู้นำและความสามารถในการบริหารจัดการด้วยการเปิดพื้นที่ปลอดภัยอย่างแท้จริง ให้เกิดการพูดคุยด้วยความจริงใจ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาและทางออกร่วมกัน ขณะที่ฝั่งผู้ชุมนุม ซึ่งมารวมกลุ่มกันโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงออกทางความคิดในเรื่องที่ได้รับผลกระทบหรือได้รับความเดือดร้อน เพื่อให้รัฐได้รับทราบปัญหาและนำไปสู่การกำหนดแนวทาง ก็ต้องปรับแก้ท่าทีหรือวิธีการเช่นเดียวกัน เพื่อไม่ให้เสียขบวนหรือเสียมวลชนและยังคงมีความชอบธรรมในการชุมนุมตามหลักการประชาธิปไตยต่อไป” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ อัญชลี กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี