วันจันทร์ ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2568
‘บิ๊กตู่’ลั่นไทยแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์
พระแก้วมรกตคุ้มครอง
ใครทำอะไรไว้ย่อมได้รับกรรม
ตร.เชือด11แกนนำสามนิ้ว
ปราศรัยเดือดราชประสงค์
มายด์-พวกรายงานตัวอัยการ
นัดสั่งคดีบุกสถานทูต13พ.ค.
“บิ๊กตู่” ร่วมสถาปนา “กระทรวงยุติธรรม” ครบรอบ 130 ปี ขอทุกคนยึดมั่น 3 สถาบันหลักของชาติ ทำบ้านเมืองสงบเรียบร้อย บอกแผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์ มี “พระสยามเทวาธิราช-พระแก้วมรกต”คุ้มครองใครทำอะไรไว้ย่อมได้รับกรรม ในขณะที่ตำรวจตั้งคดีเชือด 11 แกนนำชุมนุมปราศรัยแยกราชประสงค์พร้อมถอดเทปจ่ออีกหลายข้อหา “คนชูป้าย-การ์ด-รถเครื่องเสียง”โดนหมด
เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2564 ที่อาคารที่ทำการกระทรวงยุติธรรม ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานในงานสถาปนากระทรวงยุติธรรม ครบรอบ 130 ปี โดยทันทีที่เดินทางมาถึง นายกฯ ได้พบปะกับกลุ่มตัวแทนผู้เลี้ยงไก่ชนในหลายจังหวัด ที่มอบกระเช้าดอกไม้ขอบคุณที่รัฐบาลได้คลายล็อคในหลายพื้นที่ให้สามารถกลับมาเปิดได้อย่างถูกต้อง
ย้ำแผ่นดินไทยนี้ศักดิ์สิทธิ์
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวขอให้ทุกคนยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ตนขอเพียงแค่นั้น เพราะต้องทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยอยู่กันด้วยความรักความสามัคคีฉันท์พี่ฉันท์น้อง เพราะเราเป็นครอบครัวเดียวกัน เป็นครอบครัวคนไทยและประเทศไทย
“เราต้องมีความรักความสามัคคีและร่วมมือกันทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย อยู่ด้วยความรัก ความสามัคคี เป็นครอบครัวเดียวกัน นายกฯ ก็เป็นครอบครัวเดียวกับพวกเราทุกคน อยู่ด้วยความสงบเรียบร้อยไม่มีการใช้กฎหมายมากเกินไป เพราะเจ้าหน้าที่เองก็ลำบากและเหนื่อยไม่มีใครอยากทำผิดกฎหมายเว้นพวกเจตนา จึงอยากขอร้องพวกเราทุกคนดูแลลูกหลาน เยาวชนของเราให้ดี ไม่เช่นนั้นปัญหาจะเกิดขึ้นตามมามากมาย แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะเป็นโลกดิจิทัล สามารถสื่อสารส่งข้อมูลที่บิดเบือนถึงกันอย่างรวดเร็วจนสร้างความไม่เข้าใจ รัฐบาลยืนยันว่าจะดูแลทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เพื่อคนไทยทุกคน อย่าลืมว่าเราคือคนไทย เกิดบนผืนแผ่นดินไทย ทุกคนใช้ชีวิตบนผืนแผ่นดินไทย แผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์ ถ้าทำสิ่งที่ดีได้สิ่งที่ดีตอบ ทุกอย่างเป็นไปตามกรรมของแต่ละคน” นายกฯ กล่าว
มีพระสยามเทวาทิราชคุ้มครอง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้ำว่า ขอให้ทุกคนร่วมมือกัน เราฝึกไก่ชนยังฝึกได้ ทุกคนต้องเรียนรู้โลกยุคใหม่ ไม่เช่นนั้นจะเป็นช่องทางให้คนมาเอาประโยชน์จากเรา ซึ่งรัฐพยายามทำให้ทุกคนเท่าเทียมกันด้วยกฎหมาย ดังนั้น ทุกคนต้องเคารพกฎหมาย สิ่งที่รัฐบาลนี้ทำมาได้เดินหน้าและพัฒนาไปด้วยดี และจะดียิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ เป้าหมายรัฐบาลนี้เป็นเป้าหมายเดียวกันกับทุกคน โดยแก้ปัญหาที่หมักหมมมายาวนาน
“วันนี้ขอร้องให้ทุกคนช่วยกันรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ อย่าลืมว่าแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะพระสยามเทวาธิราช และพระแก้วมรกต ทรงดูแลคุ้มครองมาตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมา พ่อแม่ก็คือพระในบ้าน สังคมเราต้องเคารพผู้มีอาวุโส พ่อแม่พี่น้องครูบาอาจารย์ ถ้าสิ่งเหล่านี้หายไปก็ไม่ใช่คนไทยและประเทศไทยแล้ว หรือใครคิดว่ามันดีบ้าง ดังนั้น ใครที่ไม่พอใจหรือคิดอะไรที่แตกต่างก็ขอให้ถามเพื่อนดูบ้าง คุยกันเองก็แล้วกัน ผมบังคับไม่ได้ เพราะเป็นประชาธิปไตยอยู่แล้ว เราไม่เคยไม่มี ผมก็เข้าใจตรงนี้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ตำรวจดำเนินคดี11ผู้ร่วมชุมนุม
วันเดียวกันที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น.และโฆษกบช.น. กล่าวว่า จากกรณีการชุมนุมที่แยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 24 มี.ค. พนักงานสอบสวนสน.ลุมพินี ได้รับแจ้งคำร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยเฉพาะ 11 คนที่ขึ้นปราศรัยขณะนี้รู้ชื่อแล้ว 10 คน พนักงานสอบสวนได้ออกเลขคดีเรียบร้อยแล้ว และจะขยายผลไปยังกลุ่มบุคคลอื่นๆ ที่มีส่วนร่วมในการชุมนุม อาทิ รถเครื่องเสียง กลุ่มการ์ด กลุ่มผู้ร่วมชุมนุม นอกจากนี้ดำเนินคดีกลุ่มผู้กระทำผิดอื่น เช่น ผู้ที่ถือป้ายที่มีข้อความผิดกฎหมาย ตามความผิดม.112 ส่วนสื่อที่มีการถ่ายทอดสดเผยแพร่ภาพและเสียงต้องดูว่า ถ้ามีเจตนาทำผิดกฎหมายจะต้องถูกดำเนินคดีทางกฎหมายเช่นกัน การชุมนุมที่ราชประสงค์ได้ตั้งจุดตรวจค้นบริเวณพื้นที่โดยรอบพบกระทำผิด เช่น นำยาเสพติดพืชกระท่อม น้ำกระท่อม วัตถุผิดกฎหมายเข้ามาในที่ชุมนุม
ส่วนการดำเนินคดีคดีม.112 ต้องดูเป็นรายบุคคลไปโดยต้องดูการปราศรัยว่าพูดพาดพิงก่อให้เกิดความเสียหาย ตำรวจมีทีมตรวจสอบมีการบันทึกภาพและเสียงไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นจะออกหมายเรียกตัวมาแจ้งข้อกล่าวหา
ร้องเชือดผู้ปราศรัยผิดม.112
ช่วงสายวันเดียวกัน นายสนธิญา สวัสดี ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร นำเอกสารหลักฐานภาพถ่ายการขึ้นปราศรัยบนเวทีการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ นำมายื่นต่อ พ.ต.อ.ณรงค์ชัย น้อยศรี ผกก.ฝอ.5 บก.อก.บช.น. ขอให้มีการดำเนินการตรวจสอบเยาวชนชายและหญิง ที่ขึ้นปราศรัยบนเวทีการชุมนุมเข้าข่ายเป็นการหมิ่นสถาบันเบื้องสูงอย่างร้ายแรง ตรวจสอบสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมช่องหนึ่งถ่ายทอดการปราศรัยโดยไม่มีการกลั่นกรองเนื้อหานั้นมีความผิดเช่นเดียวกัน พ.ต.อ.ณรงค์ชัยแจ้งว่า จะนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ ถึงการชุมนุมกลุ่มม็อบราษฎรที่จะมีขึ้นต่อเนื่องว่า จะให้ทำอย่างไรทำไมไม่ไปถามม็อบ เมื่อถามว่าจะดูแลอย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เราดูแลความปลอดภัยอย่างเดียว เมื่อถามย้ำว่าแต่เนื้อหาบนเวทีจาบจ้วงมากขึ้นเรื่อยๆ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า อันนี้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะรับฟังและดูแลว่าพูดเกินเลยไปหรือไม่ เมื่อถามอีกว่าหากเป็นเช่นนี้ต้องเร่งรัดดำเนินการตามกฎหมายหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่าแล้วแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการชุมนุมข้างทำเนียบของหมู่บ้านทะลุฟ้าจะปล่อยให้มีการชุมนุมต่อเนื่องหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ทำอย่างไรได้เขาจะอยู่ ก็คงต้องดูว่าจะทำอย่างไรกันต่อ”
อัยการเลื่อนสั่งคดีมายด์
ที่สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารกรุงเทพใต้ น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์ พร้อมพวกผู้ต้องหาแกนนำและแนวร่วมกลุ่มราษฎร เดินทางมารายงานตัวตามที่อัยการนัดฟังคำสั่งคดีชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมนี ซึ่งถูกแจ้งข้อหาในความผิดตาม ป.อาญา ม.112 และยุยงปลุกปั่นฯ ม.116 และข้อหาอื่นๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารกรุงเทพใต้ในวันนี้ มีผู้ชุมนุมกลุ่มราษฎรและผู้ใกล้ชิดเดินทางมารอให้กำลังใจผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดี โดยผู้มาให้กำลังใจ มีอาทิ นายวิบูลย์ บุญภัทรรักษา บิดาของนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน และ นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดาของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน รวมถึงพระสงฆ์อีก 4รูป
อัยการนัดสั่งคดี13พฤษภาคม
ภายหลังผู้ต้องหาแกนนำและแนวร่วมกลุ่มราษฎร เข้ารายงานตัวต่ออัยการ คดีชุมนุมสถานทูตเยอรมนีแล้ว นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า อัยการเลื่อนนัดสั่งคดีไปเป็นวันที่ 13 พ.ค. 2564 เวลา 09.00 น. เนื่องจากอัยการอยู่ระหว่างพิจารณาสำนวน
ต่อมาหลังการรับทราบเลื่อนนัดคดี แกนนำกลุ่มราษฎรได้ให้สัมภาษณ์ โดยนายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ เปิดเผยว่า ขอให้กระบวนการยุติธรรมธำรงรักษาไว้ซึ่งความเป็นธรรม การเลื่อนเป็นสัญญาณที่ดี ได้เคลื่อนไหวต่อ ขณะที่ น.ส.เบนจา อะปัญ ระบุได้ยื่นร้องขอความเป็นธรรม ทำตามกระบวนการทุกอย่างในการทวงถามความยุติธรรม
น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล เชื่อว่าสถานการณ์ทางการเมืองมีส่วนต่อคดี ตนไม่กังวลกับการถูกดำเนินคดีเพิ่ม เชื่อมั่นในสิ่งที่เราทำ พูด สำหรับกรณีที่มีเจ้าหน้าที่สถานทูตต่างประเทศมาสังเกตการณ์วันนี้ ตนไม่ได้พูดคุยอะไรมาก เจ้าหน้าที่มาหลายประเทศ เห็นความสำคัญเรื่องสิทธิมนุษยชนจึงมาจับตาดู ขณะนี้ทุกคนไม่กังวลถูกขังหรือไม่ แต่กังวลจะสู้ได้อย่างเต็มที่ข้างนอกมากน้อยแค่ไหน
พุทธอิสระจี้ฟันอาจารย์มธ.
ที่ศูนย์เรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล นายภูภัทร แสงสุบิน ผู้ประสานงานกองทัพประชาชนปกป้องสถาบัน (กทปส) เป็นตัวแทนยื่นหนังสือที่ลงนามโดยนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ พุทธะอิสระ ถึงรัฐบาลผ่านไปยัง นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้พิจารณาพฤติกรรมการแสดงออกทั้งทางวาจาท่าทางและหนังสือเป็น ลายลักษณ์อักษรของกลุ่มคณะอาจารย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่เรียกตัวเองว่าคณะนิติราษฎร์ ที่ได้แสดงออกเชิงสนับสนุนการกระทำของนักศึกษาบางกลุ่มให้เกิดความเกลียดชังต่อสถาบัน ส่งผลกระทบให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง บ่อนทำลายความมั่นคง ก่อให้เกิดความแตกแยกและวุ่นวายในสังคม
จึงขอเรียกร้องให้ทางอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และคณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แสดงความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น ด้วยการหยุดยั้ง หรือจำกัดบทบาทของอาจารย์กลุ่มคณะนิติราษฎร์ และถอดถอนสถานภาพนักศึกษา ที่มีพฤติกรรมเป็นภัยต่อสถาบัน ต่อความมั่นคงและละเมิดรัฐธรรมนูญ ละเมิดข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งทางกทปส ขอรอฟังผลการดำเนินการ โดยให้ทางอธิการบดีแจ้งผลความคืบหน้า มาให้พวกทราบเป็นลายลักษณ์อักษร จึงหวังว่านายเอนก ในฐานะกำกับดูแลอุดมศึกษา จะดำเนินการประสานงานกับอธิการบดี และสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อหยุดยั้งความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อไปโดยเร็ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี