“อานนท์ แสนน่าน” ปลุกอดีตคนเสื้อแดง อย่าหลงเชื่อคำประธานนปช. ลากคนไปม็อบ อย่าลืมฝันร้าย สู้แล้วติดคุก-ตาย ไร้หัวแกนนำเหลียวแล
เมื่อวันที่ 1 เมษายน นายอานนท์ แสนน่าน ผู้ริเริ่มก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย ได้ออกมาเปิดเผยว่า วันนี้ตนออกมาส่งสัญญาณถึงอดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงทุกหมู่บ้านของประเทศไทย ที่มีอยู่กว่า 28,580 หมู่บ้าน ว่าอย่าไปหลงเชื่อคำเชิญชวนของ นายจตุพร พรหมพันธ์ุ ประธานนปช. ที่จะเรียกร้องให้ประชาชนออกไปขับไล่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เป็นนายกรัฐมนตรีมาจากการเลือกตั้งเพราะมักจะใช้วลีเดิม ๆ ที่ว่า ขับไล่รัฐบาลเผด็จการ แต่พรรคพลังประชารัฐ ชนะการเลือกตั้งแล้วเลือก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ
นายอานนท์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาพวกเรา อดีตหมู่บ้านเสื้อแดง ออกมาต่อสู้ ต้องติดคุก บ้านแตกสาแหรกขาด และ ล้มตาย แล้วกลุ่มแกนนำคนเหล่านี้พวกเขาหนีหายไปไหนกัน เคยได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของพวกเรากันบ้างหรือไม่ หากแต่ว่าวันนี้กลับเสนอหน้าออกมาร้องขอกำลังคนเข้าร่วมเพิ่มพูนศักยภาพให้กับพรรคพวก เสียงเรียกร้องของพวกเรามันคงเป็นเพียงเสียงกระซิบที่ผู้หลักผู้ใหญ่เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ทำเหมือนหูทวนลมไม่ต้องการรับรู้ใดๆทั้งสิ้น หากแต่ว่าวันนี้กลับถามหาอุดมการณ์จากพวกเรามันช่างดูน่าตลกขบขัน และสุดท้ายคนที่สบายคือแกนนำ
นายอานนท์ กล่าวอีกว่า ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ประโยคเหล่านี้เราได้ยินกันมาตั้งแต่เราจำความได้ อย่าพยายามเติมเชื้อเพลิงให้คนไทยต้องแตกแยกทางความคิดไม่ว่าคุณจะพยายามมากแค่ไหนก็ไม่มีวันสำเร็จ แผ่นดินที่เราเกิดและเป็นไทยได้ทุกวันนี้ก็เพราะพระมหากษัตริย์ที่ท่านได้เสียสละเลือดเนื้อเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทย สิ่งที่เราควรตระหนักคือความจงรักภักดีต่อสถาบัน ไม่จำเป็นต้องถูกซื้อตัวความจงรักภักดีมันอยู่ในสายเลือด
“พฤติกรรมของคนรุ่นลูกรุ่นหลานที่มีแนวความคิดที่เปลี่ยนไปการกล้าแสดงออกเป็นสิ่งที่ดีแต่บางครั้งก็ดูไม่เหมาะสม คำพูดเป็นนายก็ต่อเมื่อเราลั่นวาจาออกไป อย่าเห็นเป็นเรื่องคะนองปากเพราะเรื่องบางเรื่องเราก็ไม่ควรพูดจาพาดพิง เห็นผู้ใหญ่หลายคนว่ากล่าวตักเตือนกลับถูกมองเป็นไดโนเสาร์ เต่าล้านปีบ้างก็ถูกมองว่าเป็นสลิ่ม เพราะโลกของเรามันหมุนเร็วเกินไปจนบางครั้งเราเองก็ตามไม่ทัน ถึงคำตอบจะออกมาในรูปแบบใดคนที่มีความคิดเห็นต่างก็ไม่ยอมรับกันอยู่ดี”นายอานนท์ กล่าว
นายอานนท์ ว่า จากสถานการณ์ตอนนี้ใครจะเชื่อหรือไม่ ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่มวลชนที่อยู่กับตนต้องมีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ไม่ต้องเสียน้ำตาให้กับอดีตที่ผ่านมา เราทุกคนเหน็ดเหนื่อยและรู้สึกอ่อนล้าเมื่อต้องพูดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาบางชีวิตที่เหมือนตายทั้งเป็นบางคนติดคุกบางคนลี้ภัยบางคนหลบหนีคดี ครอบครัวต้องพลัดพรากจากกัน ตนเป็นคนหนึ่งที่ถูกกระทำ แต่ก็ไม่เคยปริปากบอกใคร เพราะรู้ดีว่าเส้นทางสายนี้ตัวเรากำหนดเอง ที่ผ่านมาถือว่าเป็นเพียงฝันร้ายเมื่อลืมตาตื่นชีวิตก็ต้องก้าวเดินไปต่อ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี