รบ.ย้ำยังคงอัตรา"ภาษี"ที่ 7% เงินคงคลังยังสภาพคล่องกว่า 5.1 แสนล้านบาท พร้อมอัดฉีดเยียวยา-กระตุ้นเศรษฐกิจอีก 2.2 แสนล้าน
เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจจากการรายงานความเสี่ยงทางการคลังว่า การหารือเรื่องการเงินการคลังในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันอังคารที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยกระทรวงการคลังรายงานความเสี่ยงทางการคลังประจำปีงบประมาณ 2563 ซึ่งสื่อมวลชนและประชาชนอาจมีความเข้าใจคลาดเคลื่อน โดยการรายงานนี้เป็นการรายงานประจำปีปกติ ตามข้อกฎหมายมาตรา 78 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ที่กำหนดว่าภายในเดือน มี.ค.ของทุกปี กระทรวงการคลังจะต้องทำรายงานความเสี่ยง เพื่อแสดงผลความเสี่ยงที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากผลกระทบเศรษฐกิจมหภาค ระบบการเงิน นโยบายของรัฐบาล และผลการดำเนินงานของนโยบายของรัฐ ที่อาจก่อให้เกิดภาระทางการคลังของรัฐบาล และแนวทางการบริหารความเสี่ยงนั้น เมื่อกระทรวงการคลังทำรายงานเสร็จสิ้นก็ให้เสนอคณะกรรมการนโยบายการคลังของรัฐ เพื่อจัดทำแผนการคลังระยะปานกลาง และเสนอ ครม.เพื่อทราบ ยืนยันเป็นการรายงานปกติประจำปี ไม่ใช่เพราะประเทศไทยเกิดความเสี่ยงทางการคลังแล้วถึงเข้ามารายงาน
นายอนุชา กล่าวว่า ทั้งนี้ ไม่ใช่เฉพาะรัฐบาล แต่ส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งของเอกชน และบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ก็มีคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง ที่จะรายงานให้ทราบถึงสถานการณ์ จึงขอให้เข้าใจตรงกัน ไม่ใช่เพราะประเทศไทยอยู่ในสถานะต้องดูแลความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม ข้อสรุปของการประเมินความเสี่ยงครั้งนี้ กระทรวงการคลังแจ้งว่าสถานการณ์ยังอยู่ในระดับปกติ สอดคล้องกับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาลที่ยังอยู่ในระดับเดียวกับช่วงก่อนการเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19
นอกจากนี้ กระทรวงการคลัง ยังรายงานยอดจัดเก็บรายได้ในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 64 ซึ่งยอดการจัดเก็บรายได้เป็นไปตามคาดว่าต่ำกว่า ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวจากผลกระทบของการแพร่ระบาดโควิด ซึ่งมีผลต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ รวมถึงมีการขยายระยะเวลาการยื่นแบบรายการและชำระภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีหัก ณ ที่จ่าย จากเดือน ก.พ.เป็นเดือน มี.ค.เพื่อบรรเทาผลกระทบ
นายอนุชา กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ฐานะทางการคลังของรัฐบาลตามกระแสเงินสดในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 64 คือ เดือน ต.ค.63 ถึง ก.พ.64 รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 926,770 ล้านบาท ขณะที่มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้น 1,406,827 ล้านบาท โดยรัฐบาลได้กู้เงินชดเชยการขาดดุลจำนวน 386,810 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือน ก.พ.64 มีจำนวนทั้งสิ้น 516,229 ล้านบาท และถ้าเปรียบเทียบกับ 5 เดือนแรกในปีงบประมาณ 63 มีอัตราที่มากกว่าร้อยละ 50.8
นอกจากนี้ ยังมีเงินกู้ที่ยังไม่ได้ใช้จ่ายและจะนำมาเป็นเงินเยียวยากระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในปี 64 จำนวน 220,000 ล้านบาท ขอยืนยันว่า รัฐบาลยังไม่มีความคิดที่จะขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT จากอัตราปัจจุบัน 7 เปอร์เซ็นต์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี