เรื่องชิงอำนาจเอาไว้ก่อน! “ไพบูลย์” หอบ “110รายชื่อพปชร.” ยื่น “ชวน” แก้รธน.รายมาตราเพื่อประโยชน์ปชช. เอาใจทุกฝ่ายชงบัตรลต.2ใบ - สกัดแปรญัตติงบฯหาปรธโยชน์ - ดึงส.ส.ร่วมตามปฏิรูปประเทศ ไม่แตะอำนาจ ส.ว. อ้างลดขัดแย้ง สร้างเงื่อนไข
เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2564 เมื่อเวลา13.30น. ที่รัฐสภา นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เป็นตัวแทนเข้ายื่นร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พ.ศ. .... ของพรรคพลังประชารัฐ จำนวน 5ประเด็น 13มาตรา พร้อมแนบรายชื่อสมาชิกพรรคพลังประชารัฐที่เข้าชื่อขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ จำนวน110ราย ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทั้งนี้ในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชารัฐ มี5ประเด็น ได้แก่ (1.)แก้ไขเพิ่มเติมหมวด 3 สิทธิและเสรีภาพ มาตรา 29 41 และมาตรา 45 (2.)แก้ไขระบบการเลือกตั้ง มาตรา 83, 85, 86, 90, 92, 92และมาตรา 94 (3.)แก้ไขการพิจารณาพระราชบัญญัติงบประมาณ มาตรา 144 (4.)แก้ไขอุปสรรคการทำหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา มาตรา 185 และ(5.)แก้ไขบทเฉพาะกาล มาตรา 270 ให้อำนาจรัฐสภาแทนวุฒิสภา โดยแก้ไขรวมทั้งสิ้น13มาตรา
โดยนายชวน กล่าวว่า จะนำรายชื่อของส.ส.ที่เข้าชื่อเสนอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ ตรจสอบอีกครั้งซึ่งหากตรวจสอบแล้วเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ก็จะนำสู่การบรรจุในระเบียบวาระการประชุมได้ภายใน 15 วัน นับจากวันที่เปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร คือวันที่ 22 พ.ค.นี้ และคาดว่าในช่วงต้นเดือนมิ.ย.จะบรรจุระเบียบวาระการประชุมได้
ด้านนายไพบูลย์ กล่าวว่า การยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชารัฐครั้งนี้ เพื่อทำหน้าที่ส.ส.ในการช่วยเหลือประชาชนให้เกิดประโยชน์ โดยประเด็นสำคัญ อย่างเช่น การแก้ไขระบบการเลือกตั้ง ได้แก้ไขกลับมาเป็นแบบบัตรเลือกตั้ง2ใบ มีส.ส.แบบแบ่งเขต 400 คน และส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 100คน ถือว่าเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ปี2540 โดยใช้หลักคิดรัฐธรรมนูญปี50 และเป็นความต้องการของส.ส.หลายพรรค ทั้งพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายค้าน รวมถึงเราได้ลงพื้นที่รับฟังเสียงของประชาชนส่วนใหญ่ต้องการบัตรเลือกตั้ง2ใบ จึงไม่มีข้อขัดข้อง และยังเป็นการลดความขัดแย้งอีกด้วย ดังนั้นกรณีที่มีข้อทักท้วงว่าพรรคพลังประชารัฐได้รับประโยชน์จากบัตรเลือกตั้งแบบใบเดียว และไม่ยอมให้มีการแก้ไข จึงไม่เป็นความจริง เราเดินหน้าเพื่อให้มีการแก้ไขในเรื่องนี้ ให้การเลือกตั้งเป็นไปตามที่เสียงส่วนใหญ่ต้องการ
นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้เรายังแก้ไขการพิจารณาพ.ร.บ.งบประมาณ มาตรา144 โดยนำบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญปี50 มาตรา168มาใช้แทน เพื่อป้องกันสมาชิกนำไปแปรญัตติเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง และได้แก้บทเฉพาะกาล มาตรา270 เพื่อให้อำนาจรัฐสภาแทนส.ว. จากเดิมที่ส.ว.มีอำนาจติดตามการปฏิรูปประเทศ และยุทธศาสตร์ชาติเพียงฝ่ายเดียว จึงปรับให้ส.ส.ซึ่งมีจำนวนมากกว่าส.ว.เข้าไปดำเนินการร่วมด้วย ทั้งนี้ การยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ได้รับความเห็นชอบจากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐแล้ว โดยเฉพาะประเด็นการเพิ่มสิทธิและเสรีภาพของประชาชนในกระบวนการยุติธรรม สิทธิชุมชน และสิทธินักการเมือง
“ผมหวังว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชารัฐ จะเป็นฉบับแรก และจะมีฉบับที่ 2 3 และ4ตามมา เพื่อเริ่มต้นให้เป็นประโยชน์กับประชาชน ไม่อยากให้แก้เพื่อชิงอำนาจกัน และลดความขัดแย้ง เราแสดงให้เห็นถึงความจริงใจ จริงจัง จึงดำเนินการด้วยความรวดเร็ว ขอให้ส.ว. ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล และฝ่ายค้านช่วยกันพิจารณาเพื่อให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญ” นายไพบูลย์ กล่าว
เมื่อถามว่า ทางพรรคพลังประชารัฐไม่ได้มีการแก้ไขในเรื่องที่เกี่ยวกับที่มาของส.ว. นายไพบูลย์ กล่าวว่า เราจะไม่แก้ไขอะไรที่ขัดแย้ง และอาจไม่สำเร็จ แต่ตนไม่ห้ามหากจะมีการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่จะตามมาในประเด็นดังกล่าว เราไม่อยากเอาประโยชน์ของประชาชนมาเป็นเงื่อนไขว่าจะต้องแก้ไขในเรื่องนี้ ดังนั้นสิ่งใดทำได้เพื่อประชาชนเราจะทำก่อน สิ่งใดเป็นการแย่งชิงอำนาจกัน ก็ค่อยมาดำเนินการภายหลัง เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้า ส่วนประเด็นการตัดอำนาจส.ว.โหวตเลือกนายกฯนั้น ต้องไปถามส.ว. เพราะเขาก็หวงของเขา และต้องไปถามรัฐบาลเพราะต้องใช้งบประมาณในการทำประชามติ การไปเสนอไปลดแย่งอำนาจของส.ว. เขาก็มีสิทธิ์ไม่เห็นด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี