"ไอติม"ฝ่าโควิดซัดพปชร.-ส.ว.ยื้อแก้รธน.พรรคร่วมปอดเเหก เป็นนโยบายด่วน นายกฯ อย่าโบ้ยความรับผิดชอบ หันกระทุ้ง"ปชป.- ภท. "ต้องกล้าหาญเดิมพันการอยู่ร่วมรัฐบาลต่อรองขับเคลื่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เมื่อวันที่ 13 เม.ย.นายพริษฐ์ วัชรสินธุ์ หรือไอติม ผู้ก่อตั้งกลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้า ในฐานะแกนนำกลุ่ม Re-Solution กล่าวถึงท่าทีเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลในช่วงหลังสงกรานต์ ว่า ท่าทีรัฐบาลขยับขับเคลื่อนแก้รัฐธรรมนูญล่าช้ามาก สวนทางกับความตื่นตัวที่สูงขึ้นของประชาชน ตลอด2ปีล่าช้าเพราะความไม่จริงใจ ถ้าวิเคราะห์ว่ารัฐบาลควรทำอย่างไร ต้องมองไปถึง 3 ส่วนนี้ คือ
1. ความจริงใจของกลุ่มส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และส.ว.มีพฤติกรรมที่แสดงให้เห็นถึงความไม่ต้องการแก้รัฐธรรมนูญ ยื้อเวลาหลายครั้ง หยิบยกสารพัดข้ออ้างเช่นคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ มาคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ข้อ
2.เราอยากเห็นความกล้าหาญของพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทยที่พร้อมจะยืนยันว่ารัฐธรรมนูญต้องได้รับการแก้ไข และก็กล้าที่จะเอาการอยู่ต่อในรัฐบาลเป็นเดิมพันในการขับเคลื่อนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พูดเสมอว่าเป็นหนึ่งในเงื่อนไขร่วมรัฐบาล แต่พอมาถึงจุดสำคัญ ทั้งสองพรรคยังไม่เคยกล้าออกมาพูดชัดเจนว่า ถ้าไม่มีการแก้รัฐธรรมนูญ จะถอนตัวจากการเข้าร่วมรัฐบาล
3.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม จะเลี่ยงความรับผิดชอบไม่ได้ มักอ้างว่า เป็นเรื่องของสภาฯ แต่นายกฯมักเข้าใจผิด เช่น เราอยู่ในระบบรัฐสภา ไม่ใช่ระบบประธานาธิบดี ดังนั้น ฝ่ายบริหาร กับนิติบัญญัติมันแยกออกจากกันไม่ได้อยู่แล้ว นายกฯมีพรรคที่มีเสียงข้างมากในสภา บวกกับส.ว.ที่ตัวเองแต่งตั้งขึ้นมา จะบอกว่า ตัวเองขับเคลื่อนให้ไม่ได้ ตนว่ามันไม่จริงใจ แถมนายกฯเองเคยประกาศเป็นนโยบายเร่งด่วน แต่ไม่เห็นความพยายามเป็นผู้นำของนายกฯที่จะออกมาชี้แจงให้ชัดถึงไทม์ไลน์และกรอบเวลาในการแก้รัฐธรรมนูญ พอมีคนถาม นายกฯมักโบ้ยความรับผิดชอบ
นายพริษฐ์ กล่าวว่า 3 ส่วนนี้ ต้องการความจริงใจ จากส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และส.ว. ต้องการเห็นความกล้าหาญของพรรคร่วมรัฐบาล และต้องการเห็นความรับผิดชอบของนายกฯ ในการเป็นผู้นำแก้รัฐธรรมนูญ หากสามสิ่งที่ตนเสนอยังไม่เกิดขึ้นแต่เกิดการยุบสภาฯก่อนโดยที่ยังไม่แก้รัฐธรรมนูญนั้นไม่ใช่ทางออก ต้องตัดทิ้งต้นตอปัญหาก่อนเพื่อให้เกิดกติกาที่เป็นธรรมให้ทุกพรรคได้เเข่งขันกันด้วยกติกาที่เป็นกลาง ทั้ง พลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทยและฝ่ายค้าน แข่งขันกันได้บนกติกาเดียวกัน ไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีส.ว.ในมือ หนุนหลังร่วมโหวตนายกฯได้ หรือมีส.ว.แต่งตั้งองค์กรอิสระได้ ตนจึงมองว่า การที่นายกฯจะลาออก หรือจะมีการยุบสภาฯไม่สามารถแก้วิกฤติได้ ถ้ายังไม่แก้รัฐธรรมนูญในประเด็นที่เป็นปัญหา
"สิ่งที่ต้องระวังคือความพยายามของพรรคพลังประชารัฐ นำโดยนายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พยายามเสนอแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา 5 ประเด็น นอกจากไม่แตะต้นตอปัญหาเรื่องโครงสร้างที่มาอำนาจส.ว.แล้ว ยังมีของแถมแก้ระบบเลือกตั้งเพื่อให้ประโยชน์แก่พรรคตนเองด้วย ตนเกรงว่า ตรงนี้จะถูกใช้เป็นข้ออ้างว่ามีการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราแล้ว"นายพริษฐ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี