"พรรคกล้า"ระดมสมองร่วมกับประชาชนในคลับเฮาส์ แนะรัฐสื่อสารชัดเจน ย้ำโยกงบช่วยภาคธุรกิจต้องเร่งทำ "กรณ์"ชี้ยังมีงบหลายแสนล้านที่ยังไม่ได้ใช้ แนะรัฐบาลโยกมาเยียวยาประชาชน ผู้ประกอบการ และซื้อวัคซีน "วรวุฒิ"ย้ำตั้งสภาเอสเอ็มอี ต่อลมหายใจผู้ค้ารายย่อย 4 ล้านรายทั่วประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงายว่า วันที่ 13 เมาษยน 64 เวลาประมาณ 19.30 น.พรรคกล้า และคนเจนกล้า เปิดพื้นที่ระดมสมองแบบคนต่างวัยต่างมุมมอง ผ่านแอปพลิชั่น "คลับเฮ้าส์" (Clubhouse) เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นในประเด็น "ถ้าเป็นรัฐบาลจะรับมือคิดรอบนี้อย่างไร" โดยมี ผู้บริหารของพรรคกล้า นำโดย นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค นายวรวุฒิ อุ่นใจ , นายพงษ์พรหม ยามะรัด รองหัวหน้าพรรคกล้า ร่วมด้วยสมาชิกพรรค คนเจนกล้า และคนทั่วไป ที่มาจากหลากหลายอาชีพรวมถึงนักการเมืองรุ่นเก๋าอย่าง นายจาตุรนต์ ฉายแสง ก็เข้ามาร่วมรับฟังและแสดงความคิดเห็นด้วย
นายกรณ์ กล่าวว่า ประเด็นปัญหาโควิด ขณะนี้มีหลายระดับมาก ตั้งแต่ผลกระทบเศรษฐกิจ จนถึงเรื่องของวัคซีนว่าเราจะได้รับเมื่อไร คุณภาพแต่ละประเภทวัคซีน ต้องเป็นอย่างไร ตลอดจนถึงเรื่องความชัดเจนในเรื่องของการให้ความรู้กับประชาชนว่า กลุ่มเสี่ยงที่ต้องได้รับการตรวจหาเชื้อนั้นต้องไปตรวจที่ไหน ประสบการณ์ตรงคือ มีน้องคนหนึ่งมาเล่าให้ฟังว่า เขาไปตรวจที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง แต่ไม่สามารถตรวจได้ สุดท้ายต้องไปโรงพยาบาลเอกชน ก็ได้รับแจ้งว่าตอนนี้ยุติการตรวจแล้ว ขณะที่อีกสองวันต่อมา ดาราชื่อดังได้โชว์ผลตรวจว่าตัวเองไม่ติดโควิด ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเดียวกับที่น้องคนนั้นไปขอเข้ารับการตรวจแต่ได้รับการปฏิเสธ มันก็เกิดประเด็นกระทบความรู้สึกกัน ดังนั้นความชัดเจน ถูกต้อง และรวดเร็วที่จะต้องสื่อสารกับประชาชนจึงเป็นเรื่องที่จะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพราะสถานการณ์ดูจะแย่ลงเรื่อยๆ
"หลายคนอึดอัดในสถานการณ์นี้ ตอนนี้สิ่งที่ต้องการจากรัฐ คือ ในกรณีของผู้ที่ต้องการตรวจหาเชื้อโควิด รัฐต้องให้ข้อมูลว่าโรงพยาบาลไหนบ้างที่รับหรือไม่รับตรวจ และถ้าไม่รับก็ต้องชัดเจนถึงเหตุผลที่ไม่รับ สถานพยายาลทุกที่ต้องรับผิดชอบต่อสังคม และในกรณี อีกกรณีถ้าติดแล้ว ตามกฎหมาย คือ กักตัวเองไม่ได้ ต้องในโรงพยาบาลเท่านั้น ปัญหาคือ โรงพยาบาลไม่ตอบรับ ด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม และการเชื่อมโยงของโรงพยาบาลไม่มีเลย แม้แต่ต้นสังกัด เช่น นาย ก.ไปตรวจที่โรงพยาบาลต้นสังกัดของตัวเอง พบว่าติดเชื้อ ก็ต้องหาเตียง และถ้าเตียงเต็ม ก็ต้องเชื่อมโยงหาเตียงให้กับผู้ป่วยให้ได้ แต่ปัจจุบันยังขาด กลายเป็นว่าต้องไปอาศัยระบบอุปถัมภ์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าระบบมีปัญหา และจะมากขึ้นเรื่อยๆ ระบบข้อมูลจึงสำคัญ การโหลดแอป หรือการเช็คอิน ก็ไม่ได้มีข้อมูลเตือนว่าใครเสี่ยง ใครติด และไม่มีสัญญาณเตือนอะไร จนมีข่าวว่าผู้ติดโควิดขึ้นเครื่องบินไปลงที่ จ.นครศรีธรรมราช ได้ สร้างความกังวลให้กับผู้ร่วมเดินทาง ตอนนี้รัฐบาลต้องสื่อสารให้ชัดเจน เฉพาะหน้าที่สำคัญคือการชี้แนะให้กับผู้ที่อยู่ในฐานะที่เสี่ยงสัมผัส และอยู่ในพื้นที่เสี่ยง เขาจะต้องไปตรวจที่ไหนบ้าง ถ้าตรวจแล้วติดต้องไปรักษาที่ไหน และถ้าไม่ติดต้องไปกักตัวที่ไหนได้บ้าง ทั้งนี้ เพื่อลดความสับสนและความกังวลให้กับประชาชนที่ไม่รู้จัดหันไปถามใคร ขณะเดียวกันในแต่ละจังหวัดมีมาตรฐานเหมือนกันหรือไม่อย่างไร ผู้ว่าของทุกจังหวัดก็มาจากกระทรวงมหาดไทยเหมือนกัน นโยบายจากส่วนกลางให้อำนาจาผู้ว่าฯ แค่ไหน ถ้าให้ใช้วิจารณญาณส่วนตัวของผู้ว่าฯ แต่ละจังหวัด ผมก็ว่าไม่น่าจะถูกต้องนัก" นายกรณ์ กล่าว
หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่ารัฐบาลจะเปิดโอกาสให้เอกชน สามารถซื้อวัคซีนมาฉีดได้เองว่า เท่าที่ดูข้อมูลประเทศอื่นยังไม่มีระบบนี้ ทั้ง อังกฤษ ญี่ปุ่น หรือแม้แต่สหรัฐอเมริกา ก็ยังถือว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะจัดสรรวัคซีนให้กับประชากรของเขา มีที่เดียวที่ถกกันเรื่องนี้คือประเทศมาเลเซีย แต่เขาก็ยังไม่ยอมให้เอกชนหรือประชาชนที่มีเงินสามารถซื้อวัคซีนได้ มองในมุมหนึ่งคือลดภาระของรัฐ ที่ไม่ต้องไปแย่งวัคซีนกับคนที่เงินไม่พอที่จะเข้าถึงวัคซีนได้เอง แต่มองอีกมุม เมื่อวัคซีนมีจำกัด การจัดสรรก็น่าจะเป็นหน้าที่ของรัฐบาลหรือไม่ นอกจากนี้ ฐานะทางการเงินของประเทศเพียงพอที่จะผลักดันหนี้สาธารณะให้เพิ่มขึ้นหรือไม่ ถ้าสามารถช่วยให้ประชาชนดีขึ้นตนเห็นด้วย แต่ก็ต้องไปดูงบที่ยังมีอยู่ด้วยว่า ได้ถูกใช้ไปอย่างเหมาะสมาแล้วหรือยัง
"งบฟื้นฟูที่กันไว้สี่แสนล้านนั้น วันนี้ใช้ไปนิดเดียว เท่าที่ทราบตอนนี้มีเหลืออยู่สองแสนกว่าล้านตอนนี้ ก็ควรจะโยกมาก่อน แทนที่จะนำไปใช้กับโครงการตามระบบราชการ ตามวิถีสภาวะปกติ แต่ให้นำมาใช้เพื่อ เยียวยาช่วยเหลือ เอสเอ็มอี ประชาชน และการซื้อวัคซีน ซึ่งหากรัฐบาลบอกว่าซื้อไม่ได้ ก็จะมีคำถามว่า แล้วที่บอกว่าจะเปิดให้เอกชนไปซื้อ เขาไปซื้อจากไหน อยากเรียนว่า ฐานะทางการคลังของประเทศขณะนี้ยังไม่มีปัญหา ถ้างบฟื้นฟูหมด ก็ยังมีงบฉุกเฉินแสนล้านที่ยังไม่ได้ใช้ และงบกระทรวงสาธารณสุขที่กันไว้ห้าหมื่นกว่าล้านเพิ่งใช้ไปนิดเดียว จากเดิมที่เราคิดว่าเรารอวัคซีนได้ เราจะซื้อที่เราจองไว้ รวมกับที่เราจะผลิตได้เอง จึงไม่ได้รีบร้อนเพราะคนไทยติดเชื้อน้อย แต่วันนี้ถ้าสถานการณ์เปลี่ยนไปก็ต้องเปลี่ยนวิธีคิด แล้วใช้เงินนี้แก้ปัญหาเฉพาะหน้า คือ การฉีดวัคซีน และเยียวยาประชาชน" นายกรณ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแลกเปลี่ยนข้อมูลเป็นไปอย่างเข้มข้น ทั้งผู้มีประสบการณ์ตรงในภาครัฐ ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง และผู้ที่อยู่วงนอกที่อยากรู้ โดยมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันคือ ประเด็นเฉพาะหน้า ถ้าต้องกักตัว กักที่ไหน ถ้าป่วยรักษาที่ไหน จึงอยากให้ภาครัฐทำการประชาสัมพันธ์ให้มากกว่าที่เป็นอยู่ และขยายการตรวจให้กว้างขึ้นเพื่อลดความแออัดในโรงพยาบาล ซึ่งกลายเป็นสถานที่เสี่ยงไปโดยปริยาย อย่างไรก็ตามทุกคนยอมรับว่า แม้จะมีการขยายเตียงไปยังโรงพยาบาลสนามก็ตาม แต่หากบุคลากรทางการแพทย์ยังคงที่การดูแลก็ไม่มีทางทั่วถึง นอกจากนี้ยังมีการยกตัวอย่างภูเก็ตโมเดล ที่เคยได้รับผลกระทบด้านการท่องเที่ยวสูงสุดในรอบการระบาดที่ผ่านมา จึงทำให้เอกชนกดดันเพื่อให้มีมาตรการช่วยเหลือ จนนำไปสู่นโยบายการเปิดเมืองให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวได้ จึงมีการระดมฉีดวัคซีนให้กับประชาชนไปแล้ว 1 แสนราย และเข้มงวดกับมาตรการการคัดกรองที่เข้มข้น ทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่จำนวนผู้ติดเชื้อกลับน้อยมาก เมื่อเทียบกับ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ และ ชลบุรีที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการฉีดวัคซีน จึงเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างเร่งด่วน เพราะภาวะที่ปลอดภัยจะต้องครอบคลุม 60-70% ของประชากรทั้งหมด และหากต้องปูพรมฉีดทั้ง 67 ล้านคน ต้นทุนคนละ 1,000 บาท รัฐบาลก็ควรทำ เพราะงบประมาณที่ใช้คิดเป็น 1% ของจีดีพีเท่านั้น แต่ปัญหาคือจะเอาวัคซีนจากที่ไหน เพราะรัฐบาลก็ประเมินผิดพลาดที่หวังพึ่งวัคซีนที่ผลิตในประเทศ โดยจะดำเนินการได้ในเดือนมิถุนายน เนื่องจากไม่คิดว่าการแพร่ระบาดจะมาเร็ว และสุดท้ายสิ่งที่ถกกันมากที่สุด คือถ้าต้องอยู่กับโควิดไปอีกนานรัฐบาลจะทำอย่างไร การให้ข้าราชการ work from home ร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่น่าจะเป็นทางออกที่ดี ธุรกรรม นิติกรรม หลายอย่างก็ไม่สามารถดำเนินการทางออนไลน์ได้ บางคนเสนอให้มีการปรับโครงสร้างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้เอื้อต่อการรับมือวิกฤต
นายพงษ์พรหม รองหัวหน้าพรรคกล้า กล่าวว่า มาตรการของภาครัฐต่อการตรวจคัดกรองในขณะนี้ มันทำหน้าที่ตรงไหน หลายคนใช้ชีวิตปกติทั้งที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง บางคนที่ตรวจพบว่าติดโควิด เขาโทรหาโรงพยาบาลเพื่อให้ส่งรถมารับ แต่โรงพยาบาลบอกไม่มีรถ และบอกแค่เพียงให้ปฏิบัติตัวอย่างไร ในโรงพยาบาลมีการแยกการตรวจหาเชื้อโควิด กับโรคอื่นๆ หรือไม่แค่ไหน มาตรการความปลอดภัยเป็นอย่างไร ตรงนี้ยังไม่ชัดเจน
ด้าน นายวรวุฒิ กล่าวถึง โครงสร้างด้านเศรษฐกิจที่ต้องปรับตัวตามสถานการณ์โควิดว่า การทำแอปพลิเคชั่น รวบรวมข้อมูลผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดนั้น เพื่อขอรับการเยียวยาจากภาครัฐบาลนั้น ในทางเทคนิคไม่ใช่เรื่องยาก อยู่ที่ว่าหน่วยงานภาครัฐยินดีที่จะแชร์ข้อมูลด้วยหรือไม่ เพราะต่อให้มีแอพ แต่หากการขาดกลไกการประสานงานที่ดีก็ไม่มีประโยชน์ ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมาหน่วยงานที่ทำหน้าที่ได้ดีคือ กระทรวงสาธารณสุขเนื่องจากมีกลไก อสม.ที่มีจำนวนนับล้านคนทั่วประเทศ ในขณะที่ผู้ประกอบการไม่มีกลไกที่จะไปเชื่อมผู้ประกอบการ 3 - 4 ล้านรายทั่วประเทศที่เข้ามาอยู่ด้วยกัน เราจึงพูดถึงสภาเอสเอ็มอี ที่ตอนนี้แฝงอยู่ใน สภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้า ซึ่งจริงๆ แล้วในทางปฏิบัติ ผู้ประกอบการรายย่อยเหล่านี้ก็อยู่ในฐานะที่ถูกลืม เพราะกรรมการในสภาฯ ต่างๆ ก็จะเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ ดังนั้นถ้าถ้าเรามีสภาเอสเอ็มอีของแต่ละจังหวัด ก็จะคล้ายกับ อสม.ที่มีหน่วยงานไปประสานงานตลาดสด ตลาดนัด และรายย่อยในพื้นที่ได้ การทำฐานข้อมูลจึงจะเป็นรูปธรรม การเยียวยาผู้ประกอบการก็จะง่ายขึ้น ผิดกับในขณะนี้ที่การเยียวยาจะยากยากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากผู้ประกอบการรายย่อยสายป่านสั้น สามารถทนได้กับสถานการณ์วิกฤตได้เพียงสามสี่เดือนเต็มที่แล้ว และยิ่งหากเข้าสู่การระบาดใหญ่จากการติดเชื้อวันละร้อยมาเป็นหลักพัน เชื่อว่าหากไม่มีมาตรการเยียวยาที่เป็นระบบ คงมีหลายรายที่ต้องล้มหายตายจากไป
นอกจากนี้ นายวรวุฒิ ยังเสนอให้รัฐบาล ใช้โอกาสนี้เอาสินค้าเกษตรกรเข้าสู่ตลาดการค้าปลีก ค้าออนไลน์ให้มากขึ้น เวลานี้ เกษตรกร เอสเอ็มอี ผู้ประกอบการ เป็นจำนวนมากที่ใช้ออนไลน์ไม่เป็น ถ้ารัฐใช้โอกาสนี้ เชื่อว่าทุกคนจะขายของออนไลน์กันเป็นทั้งประเทศ เนื่องจากเริ่มคุ้นชินกับการใช้แอพกระเป๋าตังก์มาแล้ว ซึ่งหากทำได้ ความแออัดในห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก หรือตามตลาดต่างๆ ก็จะลดลง ภาวะเสี่ยงต่อการติดเชื้อกับจะลดลงตามไปด้วย ขณะเดียวกัน แต่หากไม่ดำเนินการอย่างเร่งด่วนก็จะเกิดปรากฏการณ์ โดมิโน่เอฟเฟกต์ เพราะหากรายย่อยเจ๊ง ธุรกิจต่อเนื่อง รวมถึงรายใหญ่ก็จะทยอยเจ๊งลงไปเรื่อยๆ เนื่องจากเป็นห่วงโซ่เดียวกัน การสร้างตู้ปันสุขแบบที่รัฐเป็นศูนย์รวมข้อมูลการช่วยเหลือแบบถูกที่ถูกคนก็จะช่วยได้ แบบถูกที่ถูกคน ไม่ใช่เหวี่ยงแหแบบเดิม
ขณะที่ นายจาตุรนต์ ฉายแสง ให้ความเห็นว่า การดูแลเยียวยาประชาชน ต้องใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะรายได้ของภาครัฐในรูปของภาษี น้อยกว่ารายจ่ายประจำ งบประมาณที่จะต้องนำไปใช้คือต้องเป็นเรื่องของการลงทุน หากผิดวัตถุประสงค์ก็เข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญได้ ส่วนเรื่องวัคซีน ขณะนี้ประเทศไทย ตกขบวนติดอันดับโลก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี