เร่งฉีด‘วัคซีน’ให้ได้ 15-30 ล้านโดสต่อเดือน พรึ่บ!ตั้งจุดบริการใน-นอกรพ.
เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 29 เมษายน 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงภายหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ครั้งที่ 6/2564 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผอ.ศบค. เป็นประธาน (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ศบค.ยกระดับคุมโควิด ‘แดงเข้ม’ห้ามรับประทานอาหารในร้าน งดข้ามจังหวัด) ว่า สำหรับมาตรการเรื่องวัคซีนโควิด-19 ที่มีแผนการฉีดวัคซีนให้ครบทุกกลุ่มเป้าหมาย 100 ล้านโดส โดยจากประชากร 70 ล้านคนต้องได้รับวัคซีน 70% คิดเป็นจำนวน 50 ล้านคน ขณะนี้ประเทศไทยจัดหาได้แล้ว 63 ล้านโดส จึงต้องจัดหาวัคซีนเพิ่มอีก 37 ล้านโดสสำหรับประชากรในประเทศ จำนวน 18.5 ล้านคน
ทั้งนี้ สิ่งที่เราจะต้องทำคือต้องหาวัคซีนให้ได้เพียงพอและทันเวลาโดยจะต้องฉีดเข็มที่ 2 เสร็จสิ้นภายในเดือนธันวาคม 2564 หากสามารถจัดหาวัคซีนได้ 20 ล้านโดสต่อเดือน จะทำให้สามารถฉีดวัคซีนได้ครอบคลุมตามแผนที่ตั้งไว้ ทางกระทรวงสาธารณสุขได้เสนอเป็นแผน เพื่อฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่อื่นที่สัมผัสโรค เช่น ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ที่ทำงานสถานกักกัน อาชีพเสี่ยง พนักงานขับรถสาธารณะ ครู ประชาชนผู้มีโรคเรื้อรัง ผู้สูงอายุ และประชาชนทั่วไป ซึ่งแผนต่างๆได้วางไว้ทั้งหมดแล้ว นอกจากนี้ยังมีการลงไปในรายละเอียดว่าเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าการฉีดจะเป็นไปตามแผนที่จะครอบคลุมประชากรภายในปี 2564
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ทางกระทรวงสาธารณสุข แจ้งว่า จะมีจุดบริการที่จะฉีดวัคซีนทั้งในและนอกโรงพยาบาล จำนวน 1,000 แห่ง แห่งละ 500-1,000 โดสต่อวัน รวม 5 แสน ถึง 1 ล้านโดสต่อวัน เป็นระยะเวลา 30 วัน คิดเป็น 15-30 ล้านโดสต่อเดือน ทั้งนี้ จะฉีดครบ 100 ล้านโดส ภายในระยะเวลา 4-7 เดือน คือ ตั้งแต่เดือนกันยายน-ธันวาคม 2564
“ส่วนกรุงเทพมหานครที่เป็นพื้นที่เปราะบางทาง พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะ ผอ.ศบค. ได้มีความเป็นห่วงมาก จึงต้องให้จัดจุดบริการต่างๆ และให้เพิ่มจุดบริการนอกโรงพยาบาล เช่น สนามกีฬา มหาวิทยาลัย ศูนย์ประชุม ฯลฯ จุดบริการทั้งในและนอกโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนจำนวน 100 แห่ง แห่งละ 1,000 โดสต่อวัน รวม 1 แสนโดสต่อวัน เป็นระยะเวลา 30 วัน เท่ากับ 3 ล้านโดสต่อเดือน โดยจะได้รับเข็มที่ 1 ครบภายในระยะเวลา 3 เดือน คือ เดือนมิถุนายน-สิงหาคม 2564” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า กระทรวงสาธารณสุขขอเสนอให้พิจารณาใน 3 ข้อ คือ
1.แผนการจัดหา การจัดฉีดวัคซีน โควิด-19 จำนวน 100 ล้านโดส
2.ทราบโครงการการจัดหา จัดซื้อวัคซีน โควิด-19 เพิ่มเติม สำหรับประชากรในประเทศไทยจำนวน 18.5 ล้านคนหรือ 37 ล้านโดส โดยการจัดซื้อรวมเป็นวัคซีนที่ประเทศไทยจัดหาจัดซื้อสำหรับประชากรทั้งสิ้นจำนวน 50 ล้านคนหรือวัคซีนจำนวน 100 ล้านโดส
3.ขออนุมัติหลักการ ให้ทางภาครัฐและเอกชน จัดหาจัดซื้อวัคซีน โควิด-19 ให้วัคซีนที่มีความหลากหลายทั้งชนิดและราคา เพื่อให้ประชากรกลุ่มเป้าหมายได้รับวัคซีนครอบคลุมร้อยละ 70 โดยเร็วที่สุด โดยภาครัฐจัดหาวัคซีน ไฟเซอร์จำนวน 5-20 ล้านโดส สปุตนิกวี จำนวน 5-10 ล้านโดส Johnson & Johnson จำนวน 5-10 ล้านโดส และซิโนแวค 5-10 ล้านโดส หรือวัคซีนอื่นเช่น โมเดิร์นนา ซีโนฟาร์ม หรือบารัท หรือวัคซีนอื่นที่จะมีการขึ้นทะเบียนในอนาคต โดยภาคเอกชนไม่ได้ถูกตัดออกจากความร่วมมือ ยังสามารถที่จะร่วมจัดซื้อได้
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า โดยข้อสรุปสุดท้าย ทางคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ได้มอบหมายให้ นายทศพร ศิริสัมพันธ์ ในฐานะประธานอนุกรรมการวิเคราะห์และสนับสนุนข้อมูลเศรษฐกิจรายสาขาภายใต้ คณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ ทำงานร่วมกับภาคเอกชน 4 ด้านคือ
1.การจัดทำแผนกระจายวัคซีนให้กับแรงงานในระบบประกันสังคมและประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชนในระยะถัดไป
2.ประสานงานกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และภาคเอกชนในการกำหนดสถานที่ที่เหมาะสมเพื่อสนับสนุนการกระจายวัคซีนให้กับแรงงานในระบบประกันสังคมในจังหวัดต่างๆ
3.ประสานงานกับ สปสช. แรงงาน และภาคเอกชนในการรวบรวมตรวจสอบข้อมูลความต้องการวัคซีนของแรงงานในระบบประกันสังคม และจัดส่งให้กรมควบคุมโรคทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อดำเนินการต่อไป
4. ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อลดปัญหาอุปสรรค ในกรณีที่ภาคเอกชนจะนำเข้าวัคซีนด้วยตนเองในระยะต่อไป โดยจะนำเสนอผลการดำเนินงานต่อนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และผู้อำนวยการศูนย์สถานการณ์ โควิด-19 ต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี