พปชร.ประชุมร่วมพรรคคอมมิวนิสต์จีน ผนึกกำลังแก้ปัญหายากจน ยกจีนโมเดลต้นแบบ พร้อมเปิดเวทีสัมมนาพิเศษผ่านวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ ขับเคลื่อนเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงเป็นต้นแบบร่วมรัฐบาลท้องถิ่นของไทย พร้อมชู 6 ด้านยกระดับรายได้ให้คนไทย
เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา พรรคพลังประชารัฐ และ กระทรวงนิเทศสัมพันธ์พรรคคอมมิวนิสต์จีน ร่วมประชุมหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นภายใต้ความร่วมมือ “การลดความยากจนของประชาชน ระหว่างพรรคการเมืองไทย-จีน” นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นหัวหน้าคณะฝ่ายไทย พร้อมด้วย นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช. , นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค , นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค , นายอรรถกร ศิริลัทธยากร เลขานุการวิปรัฐบาล , นางสาวพัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ โฆษก พปชร.
ส่วนฝ่ายจีนประกอบด้วย นายเฉิน โจว รมช.กระทรวงวิเทศสัมพันธ์พรรคคอมมิวนิสต์ , นายหลิวเสี่ยวหมิง รองเลขาธิการของคณะกรรมการเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง , นายหยาง ซิง อุปทูตรักษาการเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย
โดยประชุมทางไกลผ่านวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชนทั้งสองประเทศ โดยนำความสำเร็จของแก้ไขปัญหาความยากจนในประเทศจีน เป็นแนวทางการขับเคลื่อนในเชิงนโยบายและแนวทางการปฏิบัติ โดยยึดหลักพื้นฐานความต้องการประชาชน ควบคู่ไปกับการนำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ให้สามารถก้าวข้ามการเปลี่ยนแปลงของโลกที่มีความซับซ้อน โดยการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ พัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีในการบริหารประเทศบนความร่วมมือในทุกมิติ ที่จะนำไปสู่การเสริมสร้างมิตรภาพระหว่างประชาชนสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
นายเฉิน โจว กล่าวว่า การประชุมทั้งสองฝ่ายครั้งนี้เป็นที่น่ายินดีในการเดินหน้าโครงการลดความยากจน ที่เป็นเป้าหมายเดียวกันของทั้งสองประเทศ ที่มีพันธกิจการสร้างความสุขให้กับประชาชน ในส่วนของพรรคคอมมิวนิสต์จีน นับตั้งแต่มีการประชุมใหญ่ครั้งที่ 18 ของพรรค ที่ ประธานาธิบดี สี จินผิ้ง ที่ได้ประกาศชัยชนะอย่างสมบรูณ์ ในช่วงเวลาสำคัญ
ในโอกาสสถาปนาพรรค ครบ 100 ปี ที่ทำให้ประชาชนจีนในชนบท 99 ล้านคน หลุดพ้นจากความยากจน หลังจากที่มีการเปิดประเทศมา กว่า 40 ปี ขณะเดียวกัน หากวัดความยากจนนับตั้งแต่การเปิดประเทศ พบว่าประชาชนในชนบทปัจจุบัน ที่มีอยู่ 770 ล้านคนสามารถช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตคนได้ราว 70%
"รัฐบาลไทยเองก็ตระหนักถึงการแก้ไขปัญหาความยากจน ด้วยนโยบายและแผนงานที่ครอบคลุมในหลายด้าน ดั้งนั้นในโครงการความร่วมมือทั้งสองประเทศครั้งนี้จะทำให้เกิดการส่งเสริม และสนับสนุน ซึ่งกันและกันเนื่องจากขณะนี้ปัญหาของแต่ละประเทศซับซ้อนจำเป็นที่ต้องแลกเปลี่ยนเชิงยุทธศาสตร์ โดยเริ่มจากความต้องการพื้นฐานของประชาชนเป็นสำคัญเพื่อนำไปสู่ความร่วมมือ และความสัมพันธ์ในระดับทวิภาคี ตลอดจนความร่วมมือในรูปแบบพรรคการเมือง ที่ร่วมกันพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งด้าน การเกษตรและการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อยกระดับศักยภาพไปพร้อมๆ กัน ร่วมไปถึงการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เข้ามาขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานมากขึ้น" นายเฉิน กล่าว
ร.อ.ธรรมนัส ในฐานะประธานคณะทำงานฝ่ายไทย กล่าวว่า ความร่วมมือดังกล่าวนับเป็นสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย ให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกเพื่อที่จะบรรเทาความยากจนของคนไทย และได้เสนอความร่วมมือระหว่างไทย-จีนมาหลายครั้ง ในเวทีการพบปะ ฯพณฯ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน และ ฯพณฯ หลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน
"พรรคพลังประชารัฐขอแสดงความยินดีต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่ได้สถาปนาพรรคครบรอบ 100 ปี และเชื่อว่าความร่วมมือระหว่างกันจะยังคงแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ซึ่งการประชุมครั้งนี้ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคก็ได้มอบให้ผมมาทำหน้าที่ประชุมครั้งนี้ ก็มีเป้าหมายให้ลดปัญหาความยากจนอีกครั้งหนึ่ง ส่วนตัวผมได้เดินทางไปประเทศจีนหลายครั้ง โดยเฉพาะเขตปกครองตนเองกวางซีจ้วงที่มีการบริหารจัดการลดความยากจนให้กับพี่น้องประชาชนจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในฐานะที่เป็นเขตนำร่อง และหน้าต่างของความร่วมมือจีน-อาเซียน ไทยจึงยินดีที่จะสนับสนุนเขตปกครองตนเองกวางซีจ้วงและรัฐบาลท้องถิ่นไทยในการส่งเสริมทุกมิติเพื่อขจัดความยากจน" ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
นางนฤมล กล่าวว่า เป้าหมายหลักของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มุ่งส่งเสริมการดูแลกลุ่มเปราะบางของประเทศ ทั้งกลุ่มคนพิการ กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้มีรายได้น้อย ที่มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ให้สามารถเข้าถึงสวัสดิการแห่งรัฐอย่างเท่าเทียม ซึ่งปัจจุบันผู้มีรายได้น้อยได้ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรยากจน) แล้ว 14.6 ล้านคน
"รัฐบาลมุ่งช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย และการสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นด้วยการพัฒนาทักษะเพื่อให้การแก้ไขความยากจนเป็นไปอย่างยั่งยืน รวมถึงศึกษาแนวทางประเทศจีนที่ร่วมมือกันระหว่างรัฐและเอกชน ในการเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชนคนไทยมากขึ้น และในยุคปัจจุบันที่หลายอย่างเปลี่ยนไปพรรคยังมุ่งที่จะขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเพื่อไม่ให้เทคโนโลยีสร้างความเหลื่อมล้ำทางสังคม เพื่อให้พี่น้องประชาชนที่อยู่ในชุมชนห่างไกลเข้าถึงอินเตอร์เน็ต Wifi และให้ความรู้ดิจิทัลขั้นพื้นฐานที่สำคัญเพื่อให้ก้าวทันโลกยุคใหม่" นางนฤมล กล่าว
นายไพบูลย์ ในฐานะผู้ประสานงานฝ่ายพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า รู้สึกยินดีต่อการร่วมประชุมในครั้งนี้ และในโอกาสที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนจะมีอายุครบ 100 ปี ซึ่งนับเป็นพรรคการเมืองที่เก่าแก่ และมีสมาชิกการเมืองมากที่สุดในโลก ซึ่งมีจำนวนถึง 91 ล้านคนและขอชื่นชม ฯพนฯ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่ได้สานต่อการดำเนินงานขับเคลื่อนให้จีนมีความเจริญทางเศรษฐกิจ ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลก สามารถลดจำนวนประชาชนที่ยากจนได้ 800 ล้านคน และทราบว่าประเทศจีนมีเป้าหมายที่จะสร้างประเทศสังคมนิยมที่มีความทันสมัย มีความมั่นคง มีความเป็นประชาธิปไตย มีอารยธรรม และมีความปรองดอง ให้สำเร็จก่อนปี 2049
"การประชุมครั้งนี้จะมีการสนับสนุนเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ซึ่งมีประชากรประมาณ 50 ล้านคน ที่มีประสบการณ์ในการลดความยากจนให้กับประชาชนของตนที่จะนำมาร่วมมือกับ ผู้บริหารเขตจังหวัดต่าง ๆในทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคอื่นๆ ของประเทศไทยให้เป็นรูปธรรมต่อไป" นายไพบูลย์ กล่าว
นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค และประธาน คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่าการพัฒนาประเทศจีนได้สะท้อนให้เห็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งระบบคมนาคม รถไฟความเร็วสูง ทั่วภูมิภาค และประสิทธิภาพการพัฒนระบบการสื่อสารอินเตอร์เน็ตที่สามารถเข้าถึงทุกโรงเรียนทั้งในพื้นที่ชนบท และกลุ่มผู้ยากไร้ ซึ่งเห็นว่าความสำเร็จในการยกระดับคนยากไร้จะส่งผลให้เป็นต้นแบบให้กับประเทศต่างๆ ได้ โดยเฉพาะประเทศไทย ความร่วมมือระหว่างพรรคการเมืองครั้งนี้ เป็นกรอบความร่วมมือที่สำคัญ ในการลดความยากจน ซึ่งเกิดผลดีต่อแนวทางการดำเนินงานของพรรคการเมืองและประเทศด้วย
นางสาวพัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม. เขต 2 ในฐานะโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนกับพรรคพลังประชารัฐ บรรลุความเห็นพ้องต้องกันในการดำเนินความร่วมมือในรูปแบบ "พรรคการเมือง+การลดความยากจน" ซึ่งประกอบด้วย 6 ด้าน ได้แก่
1.การจัดโครงการอบรมเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาความยากจนให้แก่ผู้บริหารไทยโดยกระทรวงวิเทศสัมพันธ์พรรคคอมมิวนิสต์จีนเพื่อจัดอบรมให้กับพรรคพลังประชารัฐขณะที่เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงยินดีจัดโครงการอบรมให้กับเจ้าหน้าที่รัฐของไทย 2 รุ่น จำนวน 40 คน และหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ดีขึ้นก็ยินดีที่จะเชิญผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐไปศึกษาดูงานที่ประเทศจีน ฯลฯ
2.การสนับสนุนความร่วมมือ และการแลกเปลี่ยนระหว่างบุคลากร ยินดีที่จะเชิญฝ่ายไทยคัดเลือกผู้ที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญในภาคการเกษตร และการลดความยากจน ฯลฯ เดินทางไปศึกษาดูงานโดยผ่านช่องทางการแลกเปลี่ยนระหว่างพรรคการเมือง ฯลฯ เพื่อสร้างแผนงานนักวิทยาศาสตร์วัยเยาว์ดีเด่นของอาเซียนมาทำงานที่กว่างซี รวมทั้งสนับสนุนฝ่ายไทยคัดเลือกนักศึกษาไทยมาเรียนต่อที่กว่างซีมากยิ่งขึ้น
3.การสนับสนุนความร่วมมือในการลดความยากจนด้วยอุตสาหกรรม โดยสนับสนุนสินค้า หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์หรือ OTOP ของไทยเข้าสู่ตลาดกว่างซีผ่านงานแสดงสินค้าจีน-อาเซียนครั้งที่ 18 และการประชุมสุดยอดว่าด้วยการลงทุนและธุรกิจระหว่างจีน-อาเซียน เพื่อผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมท้องถิ่นของไทย ยินดีต้อนรับฝ่ายไทยส่งออกสินค้าเกษตร เช่น ทุเรียนและผลไม้อื่น ๆ ไปยังกว่างซีโดยผ่าน “ระเบียงการค้าระหว่างประเทศเชื่อมทางบกกับทางทะเลสายใหม่” หรือ New International Land-Sea Trade Corridor (ILSTC) หรือผ่านกว่างซีจำหน่ายไปยังตลาดภาคตะวันตกของจีน
4.การสนับสนุนความร่วมมือในการลดความยากจนด้วยการท่องเที่ยว ฝ่ายจีนยินดีที่จะอำนวยบูธพิเศษฟรีให้แก่ฝ่ายไทยในช่วงเวลาจัดงานนิทรรศการการท่องเที่ยวของงานแสดงสินค้าจีนๅ-อาเซียนที่จะจัดขึ้นในปี ค.ศ 2021 เพื่อประชาสัมพันธ์ทรัพยากรการท่องเที่ยวของไทย และส่งเสริมการลดความยากจนด้วยการท่องเที่ยว
5.การสนับสนุนความร่วมมือในการลดความยากจนด้วย พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดน โดยแบ่งปันประสบการณ์ของกว่างซีในการบรรเทาความยากจน อย่างตรงจุดผ่านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ข้ามพรมแดน และสร้างฐานอบรมบุคลากรด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดน เพื่อผลักดันบริษัทขนาดเล็ก และกลางด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดนให้พัฒนาอย่างยั่งยืน
6.การส่งเสริมความร่วมมือในการลดความยากจนด้วยการเกษตร โดยแสดงบทบาทของกว่างซี ในฐานะที่เป็นศูนย์ย่อยความร่วมมือการเกษตรแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเทคนิคการเกษตร ร่วมวิจัยและดำเนินความร่วมมือในการลงทุนและการค้า ฯลฯ เพื่อขับเคลื่อนการสร้างสรรค์ ของเขตพัฒนาเศรษฐกิจแถบลุ่มแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี