"ทิพานัน"โต้ยิบ"รองโฆษกเพื่อไทย"โหนกระแส"หมอพร้อม" ตอกไอเดียซ้ำซ้อนรัฐบาล แนะคิดใหม่ทำใหม่ ย้ำทุกฝ่ายกำลังเร่งทำงานฝ่าวิกฤตเพื่อคนไทยทุกคน
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2564 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาวิจารณ์เรื่องระบบหมอพร้อมที่ไม่พร้อม ว่า เป็นการวิจารณ์ที่เกินจริงแบบติเรือทั้งโกลน การติดขัดของระบบเป็นเพียงช่วงเวลาเดียวที่มีผู้เข้าใช้งานเป็นจำนวนมาก แต่จะเห็นว่าในช่วงเวลาหลังจากนั้นไม่พบการติดขัดในการใช้งานระบบหมอพร้อม อย่างไรก็ตาม ผู้เกี่ยวข้องพร้อมตรวจสอบและปรับปรุงให้ดีขึ้นตลอดเวลา อีกทั้งข้อเสนอทั้ง 6 ข้อ ของนายชนินทร์ก็เป็นสิ่งที่รัฐบาลได้ดำเนินการอยู่ รองโฆษกพรรคเพื่อไทยได้เสนอซ้ำซ้อน และอาจล่าช้ากว่าสิ่งที่นายกฯ ได้ประกาศและดำเนินการอยู่แล้ว จึงอยากแจ้งข่าวสารมายังพรรคเพื่อไทยเพื่อสื่อสารกับประชาชนที่ติดตามท่านอีกครั้งหนึ่ง
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ข้อเสนอที่ 1 และ 4 นั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย.64 แล้ว ให้วาระสำคัญเร่งด่วนสูงสุดคือการยกระดับการกระจายวัคซีน โดยจัดเตรียมให้มีการฉีดวัคซีน 100 ล้านโดส เพื่อประชาชน 50 ล้านคน ให้เรียบร้อยภายในสิ้นปี 2564 และดำเนินการร่วมมือกับภาคเอกชนโดยเมื่อวันที่ 28 เม.ย.ได้ประชุมร่วมกับหอการค้าไทย สภาหอการค้าไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จนได้ข้อสรุปและความเข้าใจร่วมกันว่า รัฐบาลไม่เคยปิดกั้นเอกชนจัดหาวัคซีนแต่เนื่องจากวัคซีนที่ทางภาคเอกชนเจรจาซื้อจะได้รับในช่วงเวลาหลังจากที่รัฐบาลจัดหาเตรียมไว้ให้ ดังนั้น รัฐบาลและภาคเอกชนจะร่วมมือกันนำวัคซีน 100 ล้านโดส เข้าไปให้บริการใกล้ประชาชนที่สุดโดยจัดทีมทำงานสนับสนุนการฉีดวัคซีน 4 ทีม คือ ทีมสนับสนุนการกระจายและฉีดวัคซีน ทีมการสื่อสาร ทีมเทคโนโลยีและระบบ ทีมจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมซึ่งทำงานประสานกับทางสมาคมโรงพยาบาลเอกชนจัดหาวัคซีนทางเลือกตามกลไกของคณะกรรมการจัดหาวัคซีนทางเลือก ที่มี นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาธร เป็นประธาน
ข้อเสนอที่ 2 , 3 และ 5 นั้น ระบบหมอพร้อมได้มีข้อมูลประชาชนจากบัตรประจำตัวประชาชนและประวัติการรักษาในโรงพยาบาลในระบบมาแยกกลุ่มที่ต้องฉีดก่อน - หลัง ตามลำดับความสำคัญแล้ว ประชาชนที่ประสงค์จะนัดหมายสามารถทยอยใช้บริการหมอพร้อมได้ โดยในดือนพฤษภาคมจะให้กลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มคนโรคเสี่ยง 7 โรคจำนวน 16 ล้านคน เข้าทำการนัดหมายก่อน และเดือนกรกฎาคมจะเปิดให้กลุ่มประชาชนทั่วไปเข้านัดคิว การจัดกลุ่มดังกล่าวเป็นไปตามความเร่งด่วนการฉีดและตามมาตรฐานสากลของนานาประเทศ เพราะกลุ่มผู้สูงอายุและ 7 โรคประจำตัวเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการเกิดโรครุนแรงและเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ดังนั้น เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตและอาการโรครุนแรง กลุ่มดังกล่าวต้องได้รับวัคซีนเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน ส่วนการติดตามผลหลังการฉีดนั้น หมอพร้อมจะมีฟังก์ชันติดตามผลโดยมีการประเมินอาการไม่พึงประสงค์อย่างเป็นระบบ หลังฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 ด้วย
และสำหรับข้อเสนอที่ 6 ที่ให้มีการเรียกกลุ่มถัดไปมาฉีดตามลำดับโดยส่งแจ้งเตือนไปยังผู้ที่ต้องการฉีดในระบบได้เลยนั้น นายชนินทร์น่าจะเข้าใจผิดและไม่เข้าใจว่าระบบหมอพร้อมเป็นการแจ้งความสมัครใจรับวัคซีนและเพื่อนัดหมายจัดคิว วัน - เวลา สถานที่ฉีดวัคซีนที่ประชาชนสะดวก ดังนั้นรัฐจึงใช้แนวทาง opt - in เพื่อให้ประชาชนมาแจ้งความประสงค์แม้ว่ารัฐจะมีฐานข้อมูลอยู่แล้วก็ตาม รัฐไม่ได้มัดมือชกโดยใช้แนวทาง opt - out ที่ให้ประชาชนที่ไม่ต้องการฉีดวัคซีนต้องมาแจ้งยกเลิกสิทธิเพราะจะเป็นการสร้างภาระให้ประชาชนกลุ่มดังกล่าว
"วัคซีนเพียงพอให้ประชาชนโดยวัคซีน 100 ล้านโดสจะจัดสรรฉีดฟรีให้ประชาชนภายในสิ้นปีนี้ รัฐบาลได้ใช้เทคโนโลยีต่างๆ เพื่อใช้ระบบฐานข้อมูลของระบบสารธารสุขเชื่อมกับระบบหมอพร้อม ทั้งนี้ ยังไม่ทิ้งกลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน โดยจัดให้การนัดหมายฉีดวัคซีนทำได้ 3 ทางทั้งติดต่อโรงพยาบาลทุกแห่งที่มีประวัติการรักษา ติดต่ออสม. หรือทางหมอพร้อม ถ้าหากมีข้อสงสัยการใช้หมอพร้อมสามารถสอบถามได้ที่เบอร์โทร 02-5901493 02-5901495 02-5901497 และ 02-5901206 จึงอยากขอให้ประชาชนรับฟังข้อมูลข่าวสารจากรัฐบาลโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นการดีที่สุด" น.ส.ทิพานัน กล่าว
น.ส.ทิพานัน กล่าวทิ้งท้ายว่า ยิ่งพรรคเพื่อไทยเสนอสิ่งที่รัฐบาลทำมาอยู่แล้ว แสดงว่ารัฐบาลกำลังมาถูกทาง ขอย้ำว่ารัฐบาล บุคลากรทางการแพทย์ และทุกฝ่ายกำลังทำในสิ่งที่เสนออยู่แล้ว และกำลังดำเนินการให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อชีวิตของคนไทย เราจะฝ่าวิกฤตนี้ไปให้ได้เร็วที่สุด ปลอดภัยที่สุด หากพรรคเพื่อไทยจะเสนอก็ขอให้เสนอแบบคิดใหม่ ทำใหม่ ไม่ซ้ำซ้อนกับสิ่งที่ทำอยู่ อย่าเสนอโหนกระแสเพื่อดิสเครดิตกันไปมา เพราะจะเป็นการบั่นทอนกำลังใจบุคลากรทางการแพทย์และคณะทำงานทุกฝ่ายเสียเปล่าๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี