“สิระ” ซัดม็อบชุมนุม เหิมเกริม บังอาจละเมิดอำนาจศาล แถมยังข่มขู่ผู้พิพากษา ย้ำชัดคนไทยต้องเคารพฝ่ายตุลาการ ถาม “ผบ.ตร.” ทำไมปล่อยศาลให้โดดเดี่ยว หากคุ้มครองไม่ได้ สมควรเปลี่ยนตัว น.1 หรือยัง
3 พฤษภาคม 2564 นายสิระ เจนจาคะ สส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่ม REDEM วานนี้(2 พฤษภาคม 2564) ที่รวมตัวเรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำราษฎร และสมาชิกแนวร่วม ที่ถูกคุมขัง ว่า การรวมตัวในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อกดดันและแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของนายชนาธิป เหมือนพะวงศ์ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา และต้องการโจมตีที่ศาลอาญาไม่อนุญาตให้ประกันตัวบรรดาแกนนำม็อบ ซึ่งการกระทำของผู้ชุมนุมคือการ ละเมิดอำนาจของฝ่ายตุลาการอย่างชัดเจน โดยสัปดาห์ที่ผ่านมามีการบุกเข้าไปภายในบริเวณศาลอาญา เพื่อกดดันให้มีการปล่อยตัวแกนนำถูกคุมขัง ซึ่งพฤติกรรมของผู้ชุมนุมและแกนนำ ดูหมิ่น ข่มขู่ศาล ข่มขู่ผู้พิพากษา
“ตอนที่ไปชุมนุมหน้าที่ทำการศาลยุติธรรม มีการเรียกร้องให้ปล่อยตัวเพื่อนเรา กดดันให้ผู้พิพากษาลงมารับหนังสือข้อเรียกร้อง ปรากฏภาพ ส.ส.ฝ่ายค้านบางคนอยู่ในพื้นที่ ทั้งๆที่ตัวเองเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ แถมยังมีการใช้วาจาข่มขู่ศาล ว่า จะเป็นฟางเส้นสุดท้าย และต้องได้รับการประกันตัว ผมสงสัยว่าตกลงบ้านเมืองนี้จะปกครองกันด้วยความรู้สึก ไม่ต้องยึดหลักกฎหมาย ไม่ต้องเคารพกฎของบ้านเมือง พยายามใช้กฎหมู่ให้อยู่เหนือกฎหมาย ถ้าการทำหน้าที่ของศาลถูกละเมิดและแทรกแซงเช่นนี้ ประเทศจะอยู่กันอย่างไร ความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการยุติธรรมจะอยู่ตรงไหน การกระทำของพวกป่วนเมืองตอนนี้อย่าอ้างว่าเป็นการใช้สิทธิ แต่มันคือพฤติกรรมก้าวร้าวไม่เคารพกฎหมาย” นายสิระ กล่าว
นายสิระ กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายต้องรักษาความปลอดภัยให้ศาลและเจ้าหน้าที่ของศาลทุกคนมากกว่านี้ ที่ผ่านมาตำรวจปล่อยให้ศาลเผชิญกับความไม่ปลอดภัยในชีวิตและครอบครัวอยู่ฝ่ายเดียว และจะมีตำรวจไว้ทำไม ถ้าตำรวจไม่สามารถให้ความคุ้มครองให้เกิดความปลอดภัยได้ ปล่อยให้พวกขยะสังคมท้าทายกฎหมายอยู่เช่นนี้ ผบ.ตร.ต้องเข้ามาดูแลการทำหน้าที่ของผู้บัญชาการตำรวจนครบาล หรือ น.1 ถ้าตำรวจไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้ น.1 ยังมีความเหมาะสมที่จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปหรือไม่ หรือถึงเวลาแล้วที่ต้องหาผู้ที่เหมาะสมกว่ามาทำหน้าที่แทน เพราะคงจะรอไปจนถึงวันที่คนพวกนี้ลุกขึ้นมาเผาศาลไม่ได้
“การพิจารณาพิพากษาหรือออกคำสั่งใดศาลต้องพิจารณาโดยปราศจากอคติ ปราศจากความกดดันใดๆมิใช่พิจารณาพิพากษาโดยความกลัว ความรัก ความเกลียดชังใดๆ การที่ผู้ชุมนุมกระทำเช่นนี้เป็นการกดดันศาลให้ขาดความยุติธรรมหรือไม่ ละเมิดอำนาจศาลแล้วหรือยัง” นายสิระ กล่าว
นายสิระ กล่าวด้วยว่า นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ “เพนกวิน” รวมถึงมารดา อย่าเอาเรื่องการอดข้าวมาเป็นข้ออ้าง ทั้งแม่ทั้งลูก ไม่มีใครบังคับให้อดอาหาร จะกินหรือไม่ขึ้นอยู่ที่ปากของเจ้าตัว ไม่ใช่เอาเรื่องไม่กินข้าวมากดดันในการขอประกันตัว เพราะการจะได้ประกันตัวหรือไม่ ศาลท่านมีดุลยพินิจที่ยึดกฎหมายในการตัดสิน ถ้าสุดท้ายจะยอมอดข้าวจนตายก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล หากคิดว่าอดข้าวแล้วจะได้ออกจากคุก ผู้ต้องขังทุกคนไม่ต้องลุกขึ้นมาประกาศอดข้าวทั้งเรือนจำหรือ
นายสิระ ยังกล่าวถึงกรณีที่ปรากฏภาพของนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ในการชุมนุมเมื่อวานนี้ว่า ศาลให้ความเมตตา อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว โดยที่นายสมยศได้กล่าวว่า หากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว จะไม่เข้าร่วมกิจกรรมการชุมนุมอีก โดยยินดีที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขในการปล่อยตัวชั่วคราวทุกประการ ตนมีคำถามว่า การกระทำของนายสมยศที่เกิดขึ้นผิดเงื่อนไขการประกันตัวหรือไม่ และการกระทำผิดซ้ำๆซากๆ ไร้จิตสำนึก สมควรที่ต้องถอนประกันแล้วยัดเข้าคุก คนแบบนี้ปล่อยให้ลอยนวลอยู่ปนกับคนปกติไม่ได้ เพราะจะก่อความวุ่นวายในสังคมไม่รู้จักจบจักสิ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี