‘กิจการสภา’ชง‘ชวน’
เลื่อนเปิดประชุม22พ.ค.
ชี้โควิดยังระบาดหนัก
หวั่นจุดเสี่ยงแพร่เชื้อ
โควิดยังลามรัฐสภา “ขรก.-พนักงาน” ติดแล้ว 11 ราย ฝั่งวุฒิสภา 7 ราย ขณะฝั่งสภาผู้แทนฯ 4 ราย ส่งรักษาตัวรพ.ทั้งหมด “ไพบูลย์” รองหัวหน้า พปชร. เชื่อเปิดสมัยประชุมสภาฯ 22พ.ค.ได้แต่รอดูสถานการณ์ติดเชื้อโควิดก่อน ด้าน‘อนันต์ ผลอำนวย’ปธ.กมธ.กิจการสภา เสนอ‘ชวน’เลื่อนวันประชุมสภาออกไปก่อน ไม่ควรรีบเปิดประชุมช่วงโควิดระบาดหนัก อาจทำให้รัฐสภาเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ
เมื่อวันที่ 4พฤษภาคม รายงานข่าวจากรัฐสภาแจ้งว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ที่มียังแพร่ระบาดอย่างหนักขณะนี้ ในส่วนของรัฐสภา จากข้อมูลเมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมาพบว่ามีข้าราชการ เจ้าหน้าที่และพนักงานของรัฐสภาติดเชื้อโควิด-19 รวมทั้งสิ้น จำนวน 11 ราย โดยทุกคนเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้วเรียบร้อย
โดยเป็นแบ่ง ฝั่งสำนักเลขาธิการวุฒิสภา จำนวน 7ราย ประกอบด้วยเพศชาย 6 คน ได้แก่พนักงานราชการ สำนักบริหารงานกลาง 2 ราย,เจ้าพนักงานธุรการ ชำนาญงาน กลุ่มงานรองประธานวุฒิสภา คนที่สอง สำนักงานประธานวุฒิสภา 1ราย,พนักงานทำความสะอาด 2ราย,นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ชำนาญการ กลุ่มงานนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักนโยบายและแผน 1ราย ส่วนเพศหญิง 1ราย เป็นพนักงานทำความสะอาด
ขณะที่ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร มีจำนวน 4ราย ประกอบด้วย เพศชาย 1ราย คือพนักงานวิชาการเทคนิคโทรทัศน์รัฐสภา ส่วนเพศหญิง 3ราย ได้แก่ เจ้าพนักงานธุรการอาวุโส กลุ่มงานคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สำนักกรรมาธิการ1,กลุ่มงานเชาวเลข สำนักรายงานการประชุมและเชาวเลข และกลุ่มงานคณะกรรมาธิการกีฬา สำนักงานกรรมาธิการ 2
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในส่วนรัฐสภา ที่ผ่านมายังคงปฏิบัติตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุข และศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค.อย่างเคร่งครัด อาทิ การจัดจุดสแกนวัดอุณหภูมิร่างกายบริเวณทางเข้า ทุกคนต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาที่อยู่ภายในรัฐสภา 100% การใช้ลิฟท์โดยสารจำกัดครั้งละไม่เกิน 6 คน การจัดจุดบริการแอลกอฮอล์ในพื้นที่ต่างๆ การทำความสะอาดและพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อห้องประชุมใหญ่ ห้องประชุมกรรมาธิการ ห้องแถลงข่าว รวมถึงห้องสื่อมวลชน การห้ามนั่งรับประทานอาหารในโรงอาหาร การงดประชุมกรรมาธิการชุดต่างๆของสภาผู้แทนราษฎร หรือลดการรวมตัวของคนจำนวนมากเกินกว่า 20 คน ส่วนกรรมาธิการของวุฒิสภาได้สั่งงดการประชุมทั้งหมดออกไปก่อน
ทั้งนี้ สำหรับในการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญ ที่กำหนดไว้ ในวันที่ 22 พ.ค.นี้ ยังไม่มีการแจ้งว่า จะมีการเลื่อนเปิดประชุมแต่อย่างใด
ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้า พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ฝ่ายกฎหมาย ให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดประชุมสมัยสามัญในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ว่าตนคาดว่าน่าจะมีการประชุมได้ แต่คงต้องรอดูสถานการณ์จำนวนยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19ก่อน ซึ่งในการเปิดสมัยประชุมวันที่ 22 พฤษภาคมนั้นก็ยังไม่มีการประชุมอยู่แล้ว และ หากเป็นไปได้ ก็คงจะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันพฤหัสบดีที่ 27พฤษภาคม
ขณะที่ นายอนันต์ ผลอำนวย ส.ส.กำแพงเพชร พรรค พปชร.ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)กิจการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่าตนขอเรียกร้องให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรและนางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงสำนักการแพทย์ สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาถึงความเหมาะสมต่อการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญในปลายเดือนพฤษภาคมนี้ เนื่องจากสถานการณ์ระบาดไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ กทม.ยังรุนแรง รวมทั้งยังมีคลัสเตอร์แพร่เชื้อในชุมชนคลองเตยอีกทั้งรัฐสภาตั้งอยู่ในพื้นที่กทม.ควรปฏิบัติตามกติกา และประกาศของกทม.รวมถึงศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019( ศบค.) อย่างเคร่งครัด เช่น การห้ามรวมตัวเกิน 20 คน เป็นต้น ซึ่งตนมองว่ารัฐสภาไม่ควรทำตนเป็นอภิสิทธิชน
ประธาน กมธ.กิจการสภาฯกล่าวว่าทั้งนี้หลังจากวันที่14 พฤษภาคม ควรพิจารณาถึงสถานการณ์ระบาด และการเปิดประชุม ส่วนตัวมองว่าหากให้มีการประชุม อาจทำให้มีปัญหา เช่นกรณีของ ส.ส.ที่เดินทางจากพื้นที่ต่างจังหวัด เมื่อเดินทางเข้า กทม.ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงถูกจัดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด เมื่อกลับไปภูมิลำเนาต้องกักตัว 14 วัน อาจทำให้มีปัญหาต่อการประชุมสภาฯเพราะเมื่อมาประชุมครั้งหนึ่งต้องงดไปอีก 2 ครั้งเนื่องจากต้องกักตัว เป็นต้น
“การเปิดประชุมสภาฯเชื่อว่าจะทำให้เกิดคนรวมตัวหลักพันคนต่อวัน จึงเป็นความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อรวมถึงรับเชื้อในพื้นที่ ซึ่งเรื่องการเปิดประชุมสภาฯถือเป็นดุลยพินิจของนายชวน แต่ผมมองว่าหากสถานการณ์ระบาด ไม่ลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายวัน ไม่ควรเปิดประชุม เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงการแพร่ระบาด”นายอนันต์ ย้ำ
นายอนันต์ ยอมรับว่าการหารือเปิดประชุมสภาฯหรือไม่นั้น นายชวนยังไม่ส่งสัญญาณ หรือ เรียกประชุมฝ่ายที่เกี่ยวข้องแต่มองว่าการเปิดประชุมสภาฯที่แม้ว่ามีวาระพิจารณาสำคัญ ทั้งร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565หรือรัฐสภาต้องพิจารณาร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ยังสามารถเลื่อนการพิจารณาออกไปได้ เพราะงบประมาณสามารถใช้ของปีงบประมาณ2564ไปพรางก่อนได้เพราะการเปิดสภาฯช่วงโควิด-19ระบาดหนัก ซึ่งตนมองว่า คือความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้อย่างรวดเร็ว หากได้รับเชื้อ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี