‘บิ๊กตู่’ส่งทนายความฟ้องหมิ่นฯ
‘เลขาฯก้าวไกล’อ่วม
ใส่ร้ายปมคดี‘ร.อ.ธรรมนัส’
หมิ่นประมาท-พรบ.คอมพ์
“นายกฯ”ส่งทนาย เข้าแจ้งความเอาผิด“เลขาธิการพรรคก้าวไกล-แอดมินเพจ”ข้อหาหมิ่นประมาท-ผิด พ.ร.บ.คอมพ์หลังโพสต์ภาพคู่‘ธรรมนัส’กับข้อความ‘โจรอุ้มโจร’ส่วน‘ชัยวุฒิ’หนุน นายกฯดำเนินคดีพรรคก้าวไกลไม่พอใจคำวินิจฉัยศาลรธน. คดี’ธรรมนัส’ ชี้ควรวิจารณ์ด้วยเหตุผล บนพื้นฐานวิชาการ ไม่สร้างผลกระทบเสียหาย ตัวบุคคล-สถาบัน ‘แรมโบ้’ป้อง‘บิ๊กตู่’ไม่เกี่ยว เป็นเรื่องศาลฯวินิจฉัย จี้เอาผิดฐานใส่ร้าย
เมื่อวันที่ 7พฤษภาคม นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยถึงกรณีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ไม่ต้องพ้นจากตำแหน่งสส.และรัฐมนตรี จนเกิดเสียงวิพากย์วิจารณ์อย่างมากในโซเชียลมีเดียว่า เมื่อศาลวินิจฉัยแล้วย่อมถือเป็นที่สิ้นสุด ตนไม่ขัดข้องหากการวิพากย์วิจารณ์อยู่บนพื้นฐานเหตุและผล หรืออยู่บนพื้นฐานวิชาการ ไม่สร้างผลกระทบ หรือก่อให้เกิดความเสียหายกับตัวบุคคลหรือสถาบัน แต่ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในโซเชียลมีเดีย มีการวิพากย์วิจารณ์ไม่อยู่บนพื้นฐานเหตุผล แต่เป็นการใช้อารมณ์และความรู้สึกมากกว่า จึงสุ่มเสี่ยงที่จะทำผิดกฎหมาย อย่างกรณีเพจเฟซบุ๊กของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ที่ออกมาโพสต์ข้อความภายหลังทราบคำตัดสินของศาลด้วยการโจมตีรัฐบาลที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมว่า เป็นโจรอุ้มโจร พร้อมภาพคู่ระหว่างนายกฯกับร.อ.ธรรมนัส โดยเป็นการอ้างอิงคำให้สัมภาษณ์ของ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ตนได้มอบหมายฝ่ายกฎหมายให้ตรวจสอบโพสต์ดังกล่าวแล้วพบว่า มีความผิดชัดเจน เข้าข่ายเป็นการหมิ่นประมาท ทำให้นายกฯและรัฐบาล ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ซึ่งล้วนไม่ใช่ข้อเท็จจริงและผู้ที่เกี่ยวข้องเตรียมดำเนินคดีแจ้งความเอาผิดฐานหมิ่นประมาทและอาจเข้าข่ายความผิดพรบ.คอมพิวเตอร์อีกด้วย
“ผมไม่เป็นห่วงฝ่ายการเมือง เพราะถือว่ามีวุฒิภาวะ รู้ผิดชอบชั่วดี และพร้อมจะรับผลที่จะเกิดขึ้นจากการกระทำ แต่สิ่งที่ผมห่วงคือประชาชนทั่วไปที่อาจได้รับข้อมูลข่าวสารไม่ครบถ้วนจนแสดงความคิดเห็นที่ผิดไปจากข้อเท็จจริง รวมถึงการแชร์เฟคนิวส์ที่นอกจากจะยิ่งสร้างความไม่เข้าใจในสังคมแล้ว ยังอาจถูกดำเนินคดีอีกด้วย ที่ผ่านมาก็มีหลายกรณีเกิดขึ้นให้เห็นเป็นบทเรียนแล้ว” นายชัยวุฒิ กล่าว
บิ๊กตู่ส่งทนายความแจ้งตร.เอาผิด
เวลา 14.00น.วันเดียวกัน ที่ สน.นางเลิ้ง นายอภิวัฒน์ ขันทอง ทนายความของพล.อ.ประยุทธ์ เดินทางมายัง สน.นางเลิ้ง เพื่อแจ้งความเอาผิดแอดมินเพจก้าวไกลและนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาและความผิด พรบ.คอมพิวเตอร์ ฐานนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จากกรณีโพสต์ภาพ พล.อ.ประยุทธ์ คู่กับ ร.อ.ธรรมนัส โดยมีข้อความที่เป็นการหมิ่นประมาท จึงได้แจ้งความดำเนินคดีเพื่อเอาผิดตามข้อมูลที่ตรวจพบ
นายอภิวัฒน์ กล่าวว่าในส่วนการโพสต์โจมตี นายกฯประเด็นอื่นๆทั้งการบริหารจัดการโควิด-19 และวัคซีนโควิด มีการตรวจสอบและดำเนินคดีไปบางส่วนแล้ว โดยเฉพาะคนที่บิดเบือนข้อเท็จจริงการนำเข้าวัคซีนโควิดที่กล่าวหาว่าไม่ให้เอกชนนำเข้า ก็ดำเนินคดีไปแล้ว ขณะเดียวกันได้ให้เจ้าหน้าที่ติดตามตรวจสอบบัญชีเฟซบุ๊กที่เข้ามาคอมเม้นต์ในลักษณะหมิ่นสถาบันในเพจเฟซบุ๊กของนายกฯด้วย หากตรวจพบว่า ทำผิดก็จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีด้วย ส่วนกรณีการให้สัมภาษณ์ของ นายธีรัจชัย พันธุมาศ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เห็นว่า เป็นการโต้แย้งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมากกว่า ไม่ใช่การหมิ่นประมาท จึงไม่ได้แจ้งความเอาผิดแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม นายกฯไม่ได้สั่งการ หรือกำชับอะไรเป็นพิเศษ เพราะเป็นหน้าที่ของทนายที่ได้รับมอบหมาย
‘แรมโบ้’วอนเลิกใส่ร้ายนายกฯรายวัน
ด้าน นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงพรรคก้าวไกลโพตส์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กพรรควิพากษ์วิจารณ์การวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญกรณี ร.อ.ธรรมนัสและมีภาพของนายกฯและร.อ.ธรรมนัสขึ้นในเฟซบุ๊ก ว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ ร.อ.ธรรมนัส ไม่ต้องพ้นจากตำแหน่งนั้น เป็นการพิจารณาของศาล ที่ทุกคนต้องยอมรับ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับนายกฯพรรคก้าวไกลไม่ควรนำมาเชื่อมโยงกับนายกฯและกล่าวใส่ร้ายป้ายสีนายกฯเช่นนั้น ตนได้ปรึกษาหัวหน้าทีมกฏหมายของนายกฯ นายอภิวัฒน์ ขันทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯได้ตรวจสอบข้อมูลและรวบรวมหลักฐานเพื่อแจ้งความดำเนินการตามกฎหมายกับพรรคก้าวไกลแล้ว
“พรรคก้าวไกลควรจะหัดยอมรับคำตัดสินของศาลและยอมรับกติกาของบ้านเมืองบ้าง ไม่ใช่พอมีเรื่องอะไรที่ทำให้พรรคตนเองไม่สมหวังดั่งใจ ไม่พอใจ ก็จะออกมาตำหนิ กล่าวโจมตีโทษนายกฯ เป็นถึงพรรคการเมืองตัวแทนของประชาชน เหตุใดถึงไม่ทำเรื่องดีๆให้เป็นตัวอย่างกับประชาชน มีแต่คิดเรื่องลบตลอดเวลา ไม่เคยคิดบวกเลยสักเรื่อง การพาดพิงมากล่าวหานายกฯและใช้ภาพเขียนและโพสต์ใส่ร้ายป้ายสีข้อความให้นายกฯเสียหายนั้น ไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง พรรคก้าวไกลต้องมีจิตสำนึกทางการเมืองบ้าง ไม่ควรเอานายกฯมาเกี่ยวข้องด้วย วันๆเล่นแต่ทิ่มแทงเพื่อให้นายกฯเสียสมาธิที่จะต้องทุ่มเทแก้ปัญหาให้ประชาชนในภาวะวิกฤตโควิดเช่นนี้ แต่พรรคการเมืองและนักการเมืองประเภทนี้เกิดขึ้นมา ไม่ได้มีประโยชน์และเป็นที่พึ่งพาของประชาชนได้เลย จ้องแต่จะใส่ร้ายโจมตีสร้างความวุ่นวาย’นายเสกสกล กล่าว
‘สิระ’ชี้ต้องยึดตามกม.รัฐธรรมนูญ
ขณะที่ นายสิระ เจนจาคะ สส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญต่อกรณี ร.อ.ธรรมนัส ไม่ต้องพ้นจากสถานภาพ สส.และรัฐมนตรี ว่า สิ่งที่ทุกคนต้องยอมรับคือกฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่คนไทยทั้งประเทศต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ถ้าใช้ความรู้สึกส่วนตัวมาตัดสินคงไม่สามารถยึดใช้ได้ เพราะต่างคนก็ต่างความคิดเห็น อย่าง นายทักษิณ ชินวัตร โกงกินประเทศไปมหาศาล มีความผิดทางกฎหมายชัดเจน แต่ทำไมยังมีคนพอใจนิยม นายทักษิณ เพราะฉะนั้นเรื่องของบ้านเมืองจะใช้ความรู้สึกมาตัดสินไม่ได้และกฎหมายรัฐธรรมนูญระบุชัดว่า แห่งราชอาณาจักรไทย เพราะฉะนั้นความผิดที่เกิดขึ้นที่ต่างประเทศไม่สามารถบังคับใช้ได้ เรื่องนี้ชัดเจนอยู่แล้ว ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกลและพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เตรียมยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) เพื่อสอบจริยธรรม ร.อ.ธรรมนัส ประเด็นนี้ใครจะยื่นก็ได้ ไม่จำกัดสิทธิที่จะยื่น แต่เรื่องจริยธรรมกับกฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นคนละเรื่องกัน
‘ศรีสุวรรณ’แนะยื่นปปช.ฟันจริยธรรม
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ให้สัมภาษณ์ถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณี ร.อ.ธรรมนัส ว่า เรื่องของ ร.อ.ธรรมนัส สังคมให้ความสนใจอย่างมาก แต่เราต้องเคารพคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเพราะถือว่าเป็นที่สุด ผูกพันทุกองค์กรในประเทศไทยและเป็นการยืนยันอำนาจอธิปไตยของไทย ซึ่งเราไม่สามารถจะไปให้อำนาจอธิปไตย หรือคำพิพากษาของประเทศอื่นมาเกี่ยวข้องได้ แต่ในเรื่องของจริยธรรมนั้น จำเป็นต้องมีการดำเนินการตรวจสอบต่อไป ส่วนผลจะออกมาอย่างไรก็คงต้องรอและเชื่อมั่นว่า ปปช.จะใช้อำนาจและหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดในการหาข้อเท็จจริงและวินิจฉัยเรื่องนี้เพื่อเป็นบรรทัดฐานในอนาคตต่อไป
ปชป.หนุน‘ชวน’ประชุมสภาตามกำหนด
นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะวิปรัฐบาล กล่าวว่า หากมีการเรียกประชุมวิปรัฐบาลตนจะเสนอให้ประชุมสภาผู้แทนราษฎรตามปกติ ตามแนวทางที่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ไว้ เนื่องจากมีกฎหมายสำคัญรอการพิจารณา โดยเฉพาะพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ2565 ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานของรัฐบาลและมีผลกระทบต่อประชาชน ส่วนมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19นั้น ตนขอเรียกร้องให้ สส.ทุกคนมีการเตรียมตัวที่จะเข้าประชุม เพื่อไม่ให้การทำงานของสภาผู้แทนราษฎรได้รับผลกระทบ โดยการเริ่มเข้าไปรับการฉีดวัคซีนตั้งแต่ช่วงนี้ เพื่อที่จะได้ฉีดเข็มที่ 2 ในอีก 3สัปดาห์ ซึ่งก็จะทันกับช่วงเวลาของการเปิดสมัยประชุมพอดี เท่าที่ตรวจสอบทราบว่า บุคคลากรทางการแพทย์ได้ฉีดวัคซีนไปเกือบครบแล้ว ดังนั้นข้อกังวลว่าการฉีดวัคซีนจะกระทบกับบุคลากรทางการแพทย์ขณะนี้ ไม่มีแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี