ปชป.ย้ำภารกิจยังไม่จบ
เมิน‘อันวาร์’จี้ไขก๊อกพ้นรบ.
ขอเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ
พรรคกล้าตามเขย่าธรรมนัส
แนะ‘บิ๊กตู่’ถอดพ้นรัฐมนตรี
“ประชาธิปัตย์” เมิน สส.อันวาร์ จี้ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล โฆษกราเมศ บอกยังต้องเดินหน้าแก้ปัญหาประชาชน รวมทั้งเร่งแก้รัฐธรรมนูญตามที่ประกาศไว้ ในขณะที่พรรคกล้าแนะ“บิ๊กตู่”รับฟัง ปรับ“ธรรมนัส”พ้นครม.
เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ที่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) นายราเมศ รัตนะเชวงโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีการยื่นหนังสือของนายอันวาร์ สาและ ส.ส. ปัตตานี เรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลว่า คิดว่าหนังสือดังกล่าว ที่ยื่นกับหัวหน้าพรรคและสมาชิกพรรคจะมีการนำเสนอตามขั้นตอนปกติ แต่เราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ เราได้ทำความเข้าใจกับสมาชิกอยู่ตลอดโดยเฉพาะนายอันวาร์แต่ก็จะมีการออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อภายนอกในลักษณะเช่นนี้
ตนเชื่อว่าสมาชิกทั่วประเทศเข้าใจการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเราเข้ามาร่วมรัฐบาลเราไม่ได้คิดว่า อยากมาเป็นรัฐบาล หรือเป็นรัฐมนตรี แต่เรามีสาระสำคัญ 3 ข้อ ที่เราได้เคยยื่นเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาล คือ1.การแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม 2.การผลักดันการประกันรายได้ให้กับเกษตรกร3.การทำหน้าที่ยึดหลักคือ ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ตั้ง อีกทั้งกระบวนการเข้าร่วมรัฐบาล ในโฆษกพรรคฯก็ไม่สามารถวินิจฉัยพิจารณาได้แค่คนเดียว ตามข้อบังคับพรรคข้อที่ 96 ระบุไว้ชัดว่า การจัดตั้งรัฐบาลนั้น ให้ที่ประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้ลงมติว่า จะจัดตั้งรัฐบาลหรือร่วมรัฐบาลรวมถึงการถอนตัวร่วมรัฐบาลหรือไม่ นี่คือกระบวนการประชาธิปไตยภายในพรรคซึ่งสมาชิกลงคะแนนเสียง 61/16เสียง นี่คือคะแนนเสียงของพรรค ที่ให้ตัวแทนของพรรคเข้าไปร่วมทำงานในฐานะรัฐบาลรับใช้พี่น้องประชาชน
ยันเดินหน้าแก้ปัญหาปชช.-แก้รธน.
“ขณะนี้หนังสือของ นายอันวาร์ พรรคยังไม่ได้มีการพูดคุยกันกับหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคซึ่งหนังสือจะเป็นไปตามกระบวนการทุกอย่าง ผมขอยืนยันว่าเราไม่ได้หนักใจกับสิ่งที่นายอันวาร์ได้ทำหนังสือมา เพราะเป็นหลายครั้งที่นายอันวาร์ทำในลักษณะนี้แต่เราเชื่อว่าเราสามารถทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนและสมาชิกพรรคได้ ที่ขณะนี้เรามุ่งแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนและแก้ไขปัญหารัฐธรรมนูญเพิ่มเติม”โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
ปมธรรมนัสจบแล้ว/ควรลุยทำงาน
นายราเมศ ยังกล่าวอีกว่า กรณีร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ไม่พ้นตำแหน่งรัฐมนตรีและส.ส.นั้น เป็นเรื่องที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้วและจบแล้ว เราเห็นแล้วว่ากระบวนการต่างๆได้เดินตามครรลองกระบวนการยุติธรรม ไม่ควรนำกรณีนี้มาผูกรวมกับการร่วมรัฐบาล
เมื่อถามว่าการที่นายอันวาร์ ออกมาเคลื่อนไหวมีวาระซ่อนเร้นหรือไม่เพราะที่ผ่านมาทำตัวเป็นฝ่ายค้านอยู่เสมอ นายราเมศ กล่าวว่า ความคิดเห็นที่แตกต่างเป็นเรื่องปกติแต่ความคิดเห็นนั้นต้องดูกฎระเบียบหลักเกณฑ์ของพรรคด้วย หากจะบอกว่านี่คือความปั่นป่วน หรือความไม่เป็นเอกภาพของพรรค คงไม่ได้ เพราะจะนำปัญหาของคนคนเดียวมาตัดสินไม่ได้
“ส่วนที่ถามว่าหลังนายอันวาร์ยื่นหนังสือแล้วคนในพรรคให้ความสนใจหรือไม่นั้นส.ส.อดีต ส.ส. สมาชิกพรรคเฉยๆไม่ค่อยให้ความสนใจเพราะเหตุการณ์แบบนี้ไม่ใช่ครั้งแรกแต่หลายครั้งแล้วและทุกคนกำลังตั้งหน้าตั้งตาทำงานให้พี่น้องประชาชนที่กำลังประสบกับการแพร่ระบาดเชื้อโควิด19”Fฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
‘พนิต’ตามบี้รบ.กระทุ้งจริยธรรม
ด้านนายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์โพสต์เฟสบุ๊คระบุว่า“ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย รัฐบาลต้องรับผิดชอบ การได้รับการพิพากษาถึงที่สุด(ติดคุก)ในต่างประเทศถือเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตของคนคนหนึ่ง ซึ่งจากการอ่านคำวินิจฉัยของศาล รธน.กล่าวถึงอำนาจอธิปไตยของรัฐในแต่ละประเทศ ซึ่งผมเคารรพคำวินิฉัยของศาล รธน. และเข้าใจเป็นอย่างดี แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้น คือจริยธรรมของการทำผิด ผมเห็นด้วยกับการให้โอกาสคนกลับตัวแล้วเริ่มต้นใหม่ แต่การมารับใช้ประเทศนั้นมีอะไรมากกว่านั้น ผมอยากฝากให้รัฐบาลคิด ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ประชาชนและสังคมจะเป็นคนให้โอกาสเราเอง”
‘บิ๊กตู่’เสี่ยงถูกยื่นสอบจริยธรรม
นายแสนยากรณ์ สิงห์วีรธรรม รองโฆษกพรรคกล้า กล่าวถึงกรณีรองเลขาธิการ ป.ป.ช. ระบุถึงการร้องสอบจริยธรรมร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะต้องเป็นการกระทำผิดระหว่างปฏิบัติหน้าที่เป็น ส.ส.หรือรัฐมนตรีว่า เรื่องนี้ควรให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นผู้ตัดสินว่า จะรับเรื่องไว้หรือไม่ แต่หากจะให้ดี นายกรัฐมนตรีควรตัดสินใจปรับร้อยเอกธรรมนัสด้วยตัวเอง ไม่ต้องรอให้ใครยื่น ป.ป.ช. เพื่อรักษาภาพลักษณ์และมาตรฐานทางจริยธรรม ไม่เช่นนั้นเผือกร้อนอาจย้อนกลับมาที่นายกรัฐมนตรี เสี่ยงถูกยื่นสอบจริยธรรมเสียเอง ในฐานะที่ใช้อำนาจหน้าที่ แต่งตั้งบุคคลที่เคยต้องคดียาเสพติดในต่างประเทศมาเป็นรัฐมนตรี
“ถ้ายังมีความเกรงใจจริยธรรมอยู่ ก็ขอให้นายกรัฐมนตรีไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน เลือกว่าจะปลดออก หรือจะปล่อยให้คนที่มีคดียาเสพติดต่างประเทศ มานั่งเป็นรัฐมนตรีอยู่แบบนี้ซึ่งคงเป็นเรื่องไม่ดีแน่ เพราะท่านนายกฯ อาจถูกสอบจริยธรรมเสียเอง ในฐานะใช้อำนาจแต่งตั้งเข้ามา และจะทำให้บรรทัดฐานสังคมผิดเพี้ยนไป”นายแสนยากรณ์ ย้ำ
แนะปรับ‘ธรรมนัส’ออกพ้นครม.
รองโฆษกพรรคกล้า ยังระบุว่าตอนนี้ รัฐบาลต้องรับแรงกดดันหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ผลกระทบทางเศรษฐกิจ การชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาล แต่เชื่อว่ากระแสความกดดันจะลดน้อยถอยลงไป หากนายกรัฐมนตรี รับฟังและตัดสินใจตามกระแสสังคมต้องการ ปรับตัวบุคคลที่ไม่เหมาะสมออกจากรัฐมนตรี ส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ ความเชื่อมั่นในรัฐบาล และการบริหารราชการแผ่นดินในสถานการณ์ปัจจุบัน
กวิ้น อยู่ในรพ.ราชฑัณฑ์
นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าขณะนี้ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน จำเลยคดีม.112 อยู่ระหว่างรับการรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ แพทย์ได้ตรวจร่างกายนายพริษฐ์ พบว่า สภาพร่างกายทั่วไปรู้สึกตัวดี พูดคุยรู้เรื่อง ช่วยเหลือตัวเองได้ สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่มีอาการปวดท้อง แม้เจ้าตัวจะปฏิเสธการรับประทานอาหาร แต่สามารถดื่มผลิตภัณฑ์ที่ให้สารอาหารที่ร่างกายต้องการได้หมดตามแผนการรักษาของนักโภชนาการ รวมทั้งไม่มีอาการแสดงของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด – 19
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี