กกต.รับจดทะเบียนพรรคการเมืองใหม่ 3 พรรค รวมล่าสุด 79 พรรคแล้ว "ปรีชา"อดีต รมต.พรรคเพื่อไทย ตั้งพรรคเพื่อประชาชน "พีระพงษ์"อดีตผู้เชียวชาญพิเศษ กกต.นั่งหัวพน้าพรรคไทยรักกัน
เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2564 คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเห็นชอบให้นายทะเบียนพรรคการเมือง รับจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมือง ตามมาตรา 17 วรรคหนึ่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 จำนวน 3 พรรคการเมือง ได้แก่ พรรคเพื่อประชาชน , พรรคพลังสยาม และพรรคไทยรักกัน ซึ่งจะส่งไปประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
มีรายงานว่า พรรคเพื่อประชาชน มี นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข อดีต รมต.พรรคเพื่อไทย เป็นหัวหน้าพรรค นายบุญทา ชัยเลิศ เป็นเลขาธิการพรรค และดร.เดชาวัต คงคาน้อย เป็นนายทะเบียนพรรค, พรรคพลังสยาม มี นายทรงธรรม โรจนเครือวัลย์ เป็นหัวหน้าพรรค ว่าที่ร้อยตรี อภิรักษ์ สาคร เป็นเลขาธิการพรรค และพรรคไทยรักกัน มี นายพีระพงษ์ ไพรินทร์ อดีตผู้เชี่ยวชาญพิเศษ กกต.เป็นหัวหน้าพรรค พ.ต.อ.ชนะ สุวรรณโกมล เป็นเลขาธิการพรรค
ทั้งนี้ หลังนายทะเบียนรับจดแจ้งแล้ว ภายใน 1 ปี คือตั้งแต่ 12 พ.ค.64 - 12 พ.ค.65 ทั้ง 3 พรรคการเมือง ต้องดำเนินการให้มีสมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่า 5,000 คน และต้องเพิ่มจำนวนสมาชิกให้มีจำนวนไม่น้อยกว่า 10,000 คน ภายใน 4 ปี นับแต่วันที่นายทะเบียนพรรคการเมืองรับจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมือง ต้องจัดให้มีสาขาพรรคการเมืองในแต่ละภาคตามบัญชีรายชื่อภาคและจังหวัดที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนดอย่างน้อยภาคละ 1 สาขา โดยสาขาพรรคการเมืองแต่ละสาขาต้องมีสมาชิกที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ที่รับผิดชอบของสาขานั้นตั้งแต่ 500 คนขึ้นไป หากพรรคการเมืองไม่สามารถดำเนินการได้ภายในระยะเวลาดังกล่าว จะเป็นเหตุให้พรรคการเมืองนั้นสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีพรรคการเมืองที่ยังดำเนินกิจการอยู่ จำนวน 79 พรรคการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี