‘ปธ.ชวน’วางกฎเข้ม
ไม่ฉีดวัคซีนห้ามเข้าสภา
เว้นมีใบรับรองไม่ติดเชื้อ
ฝ่ายค้านยื่นปปช.ฟันบิ๊กตู่
“ปธ.สภาฯชวน” วางกฎเข้มใครไม่ฉีดวัคซีน ไม่ให้เข้าสภา เว้นแต่มีใบรับรองแสดงไม่ติดเชื้อย้ำ “ใครมีไข้-ไม่สวมแมส”
ห้ามเข้า เผยทยอยฉีดวัคซีนแล้ว ก่อนเปิดสภา อาจไม่ครบ100%นัดถกวิป4ฝ่าย รับประชุมสภาฯเร่งถก กม.ช่วยผู้ประกอบการจากพิษโควิด-งบฯปี65 ด้านฝ่ายค้านยื่นปปช.สอบเอาผิด‘บิ๊กตู่’ขัดจริยธรรมร้ายแรง ล้มเหลวแก้โควิด hล็งยื่นซักฟอกทั่วไปไม่ลงมติ
เมื่อวันที่ 13พฤษภาคม นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรในฐานะประธานรัฐสภากล่าวว่าในวันที่ 14พฤษภาคม นัดประชุม 4 ฝ่าย ทั้ง ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล วุฒิสภา และ ตัวแทนรัฐบาล เพื่อมาหารือวิธีการจัดประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 27 พ.ค.ท่ามกลางสถานกานการณ์แพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19และไม่ทราบว่าอนาคตเป็นอย่างไร จึงคิดว่าการหนีปัญหาไม่มีวันจบ ดังนั้น ต้องหาวิธีการบริหารจัดการอยู่ให้ได้
ปธ.สภาฯวางกฎคุมเข้มเข้าสภา
“มาตรการเบื้องต้นจะกำหนดให้ทุกคนที่เข้ามาสภา ต้องฉีดวัคซีน ตั้งแต่ ส.ส.รวมถึง ฝ่ายเจ้าหน้าที่สภาฯที่เกี่ยวข้องใกล้ชิด อาทิ สำนักการประชุม สำนักกรรมาธิการฯ โดยได้เริ่มทยอยให้ฉีดวัคซีนแล้วซึ่งน่าจะพร้อมก่อนการเปิดสมัยประชุมสภาฯ แต่อาจฉีดวัคซีนได้ไม่ครบ100% เพราะมี ส.ส.และบุคลากรบางส่วนแสดงความประสงค์ไม่ฉีดวัคซีน กรณีนี้ก็ต้องมีใบรับรองผลการ ไม่ติดเชื้อมาแสดงก่อนเข้าสภา”
นอกจากนี้ ยังขอให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเพิ่มความเข้มข้นต่อมาตรการป้องกันในทางปฏิบัติ หากพบว่าส.ส.หรือบุคคลใด ไม่สวมหน้ากากอนามัย หรือ มีอุณหภูมิสูงเกินเกณฑ์ก็ไม่อนุญาตให้เข้าสภาทันทีโดยไม่ต้องเกรงใจ”นายชวน กล่าวย้ำ
‘ชวน’นัดถกวิป4ฝ่ายรับเปิดสภา
ที่รัฐสภา นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ในวันที่14 พ.ค.เวลา11.00 น.นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา มีกำหนดการประชุมร่วมวิป 4 ฝ่าย คือ พรรครัฐบาล พรรคฝ่ายค้าน วุฒิสภา และตัวแทนคณะรัฐมนตรี เพื่อหารือถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎรและการประชุมร่วมรัฐสภา เนื่องจากจะต้องมีการพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.)2ฉบับได้แก่พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายเพ่งและพาณิชย์ และพ.ร.ก.การให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพรระบาดไวรัสโควิด-19
รวมถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 เบื้องต้นคาดว่าครม.จะส่งมายังสภาในวันที่ 17 พ.ค. ซึ่งตามกรอบเวลาเมื่อ ครม.ส่งร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวมายังสภาฯ แล้วจะต้องเร่งพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 105วัน โดยจะครบกำหนดวันที่ 29 ส.ค.64 จากนั้นจะส่งร่างดังกล่าวไปให้วุฒิสภาพิจารณาภายใน 20วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 18 ก.ย.64 ยืนยันว่าประธานรัฐสภา ต้องเร่งพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ทั้งหมดอย่างเร่งด่วน โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ
นพ.สุกิจ กล่าวว่า ส่วนกำหนดการในการประชุมเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.ก.2ฉบับได้กำหนดวันไว้คือวันที่ 27พ.ค.แต่หากยืดเยื้อจะประชุมต่ออีกครั้งไปถึงวันที่ 28 พ.ค. ส่วนการประชุมเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี2565 คาดการณ์ว่าจะประชุมในวันที่ 31พ.ค.และวันที่ 1-2 มิ.ย.แต่กำหนดการทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับที่ประชุมร่วมวิป3ฝ่ายรวมถึงตัวแทนครม.ว่าจะเห็นด้วยกับวันดังกล่าวหรือไม่
ถกคุมเข้มสภารับมือสกัดโควิด
ที่ปรึกษาประธานสภาฯ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ในที่ประชุมวันพรุ่งนี้(14พ.ค.) จะหารือถึงมาตรการป้องกันโควิด-19ว่าจะมีการเตรียมความพร้อมรับมืออย่างไรโดยให้พรรคการเมืองไปหารือกับ ส.ส.ภายในพรรคว่าจะปฏิบัติตัวอย่างไรเบื้องต้นทางสำนักงานเลขาธิการสภาฯได้มีการกำหนดมาตรการต่างๆไว้แล้วอาทิ การตรวจสอบ ส.ส.ที่ฉีดวัคซีน หากใคร ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน จะต้องดำเนินการตรวจสวอบเทสต์ก่อนเข้ามาในพื้นที่หรือไม่ ส่วนส.ส.ที่มีอายุ60ปีขึ้นไปจะให้เข้าร่วมประชุมด้วยวิธีการอย่างไรรวมถึงมาตรการดูแลผู้ติดตามหากยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน จะต้องจัดพื้นที่เฉพาะให้หรือไม่ ทั้งนี้ต้องรอความเห็นจากตัวแทนในที่ประชุมวันพรุ่งนี้ด้วย
‘ฝ่ายค้าน’ยื่นปปช.เอาผิด‘บิ๊กตู่’
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) เวลา 10.00 น.ตัวแทน 6 พรรคร่วมฝ่านค้าน อาทิ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) นายวิรัตน์ วรศสิริน นพ.เรวัต วิศรุตเวช รองหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย (สร.) นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ (พช.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ (ปช.) นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย พร้อมด้วยแกนนำและ ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน และนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้เข้าชื่อร่วมกันยื่นหนังสือต่อ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
โดยขอให้ไต่สวนและมีความเห็น กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)หรือศบค.มีพฤติการณ์ไม่สุจริตส่อไปในทางทุจริต ไม่ถือผลประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน
และรู้เห็นหรือยินยอมให้ข้าราชการในปกครองใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบอันเป็นการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา26,47,53, 55,62,164,234 และมาตรา 235, พรบ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558, พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542, พรบ.ส่งเสริมการลงทุน พ.ศ.2520, พรบ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561, ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 28 (1), (2) และฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
ฝ่ายค้านพร้อมชำแหละงบปี65
นอกจากนี้ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทยให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเตรียมความพร้อมในการเปิดสมัยประชุมสภาสมัยสามัญวันที่27-28 พ.ค.นี้ว่าเป็นการเปิดประชุมรัฐสภาจะมีพิจารณาร่าง พ.ร.ก.2 ฉบับก่อน ส่วนการพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณฯปี65คาดว่าจะพิจารณาวันที่31 พ.ค.-2 มิ.ย.ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้านได้เตรียมการอภิปรายงบประมาณไว้แล้ว จากการศึกษาร่างดังกล่าว พบว่า6 ยุทธศาสตร์ ที่ได้กำหนดเอาไว้ ไม่มีการพูดถึงเรื่องโควิดแต่อย่างใด เป็นการจัดงบแบบเก่า ฝ่ายค้านมีความห่วงใยเป็นอย่างมาก ปัญหาโควิดเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ พรรคฝ่ายค้านขอเตือนรัฐบาลว่าการใช้งบประมาณควรใช้เพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศ ควรเรียงลำดับความสำคัญของปัญหานำงบฯไปใช้แก้ปัญหาที่จำเป็น
เล็งยื่นซักฟอกทั่วไปไม่ลงมติ
เมื่อถามว่าการขอเปิดอภิปรายแบบไม่ลงมติเหมาะสมหรือไม่ในช่วงนี้ นายประเสริฐ กล่าวว่า ขณะนี้ เรามีข้อมูลที่เพียงพอในการขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติแต่จะต้องมีการหารือกันในพรรคร่วมฝ่ายค้านอีกครั้งหนึ่งก่อน
ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน รองหัวหน้าพรรคพท.กล่าวว่าตนจะเสนอพรรคร่วมฝ่ายค้านให้ยื่นเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเนื่องจากแก้ปัญหาบกพร่อง ล้มเหลวอย่างรุนแรง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการหารือร่วมกันของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ส่วนตัวสมองว่า สถานการณ์นี้เหมาะสมที่สุดที่เราจะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเพราะระบบสาธารณสุขของเราล้มเหลว จากการบริหารงานของ พล.อ.ประยุทธ์ส่งผลกระทบไปถึงระบบเศรษฐกิจพังพินาศหลายแสนล้าน เสียหายมากกว่าคดีจำนำข้าว หากเรายื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ เราอาจจะมีปรากฏการณ์ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลเกิดขึ้น เพราะหากเขายังอุ้มชูกันไป เขาไม่ได้ตายเอง แต่ตายทั้งประเทศ ตายทุกพรรคการเมือง”นพ.ชลน่าน ย้ำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี