“วิรัช” ประสาน “ชวน” บรรจุ พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เข้าพิจารณาสัปดาห์หน้า  มั่นใจไม่มีผลกระทบแม้จะมีการยื่นศาลปกครอง กำชับ ส.ส.รัฐบาล  “ห้ามป่วย -ห้ามลา –ห้ามขาด”

25 พฤษภาคม 2564 ที่พรรคพลังประชารัฐ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แถลงภายหลังการประชุม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 27-28 พฤษภาคม 2564 ว่า ตามที่ได้มีกำหนดการพิจารณา พ.ร.ก. จำนวน 2 ฉบับ ในวันที่ 27-28 พฤษภาคม 2564 แต่ทราบว่าเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมาได้มีการประกาศ พ.ร.ก. อีก 1 ฉบับ คือ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ.2564 ซึ่งตามกฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนดให้สภาต้องพิจารณาโดยไม่ชักช้า

ทั้งนี้ เบื้องต้นได้มีการประสานไปยังนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อนำ พ.ร.ก.กู้เงินฉบับดังกล่าวเข้าสู่วาระการพิจารณา ซึ่งขณะนี้มีระยะเวลา 2 วัน ในการพิจารณา พ.ร.ก. ทั้ง 3 ฉบับ โดยการประชุมในวันแรกจะเริ่มตั้งแต่ช่วงเช้า แล้วไปจบหลังเที่ยงคืน แล้วเช้าอีกวันกลับมาประชุมต่อให้แล้วเสร็จ แต่ทั้งนี้ได้มีการประสานไปยังวิปฝ่ายค้าน ซึ่งทราบว่ากำลังหารือกันอยู่เช่นกัน จึงยังไม่ทราบว่าจะต้องขยายการประชุมไปจนถึงวันที่ 29 พฤษภาคม 2564 หรือไม่

นายวิรัช กล่าวว่า ส่วนกรอบเวลาการอภิปรายของแต่ละฝ่ายที่กำหนดไว้เบื้องต้นอาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนอีกครั้งเนื่องจากมี พ.ร.ก.เพิ่มเข้ามาอีก 1 ฉบับ โดยเดิมทีได้กำหนดว่าจะโหวตเสร็จในช่วงเวลา 16.00 น. ของวันที่ 28 พฤษภาคม แต่ขณะนี้อาจจะต้องขยายออกไปจนถึงเที่ยงคืน ซึ่งเบื้องต้นในส่วนของพรรคพลังประชารัฐได้มีการกำชับให้สมาชิกสแตนบายเตรียมพร้อม และในวันที่ 28 พฤษภาคม ช่วงเช้าจะมีการประชุมวิปรัฐบาลอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตามในช่วงสถานการณ์โควิด-19ก็เข้าใจว่ามีสมาชิกหลายคนเป็นห่วง วันนี้จึงได้มีการเชิญตัวแทนจากสภามาให้ความรู้ในการใช้สถานที่และเตรียมการประชุมแก่สมาชิก

“อาจจะไปถึงวันที่ 29 หรืออาจจะจบในวันที่ 28 พฤษภาคม แต่ทั้งนี้จะเป็นไปในลักษณะไหนสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลทุกคนก็จะต้องอยู่ ทุกพรรค ทุกคน วันนี้ก็ได้บอกแล้วว่า ไม่ให้ป่วย ไม่ให้ลา ห้ามขาดด้วย” นายวิรัช กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการยื่นคำร้องต่อศาลปกครองให้เพิกถอนมติ ครม.เกี่ยวกับ พ.ร.ก.เงินกู้นั้น นายวิรัช กล่าวว่า ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของศาลในการพิจารณา ส่วนทางสภาก็จะดำเนินการไปตามที่รัฐบาลส่งเรื่องมา เพราะหากไม่ดำเนินการจะถือว่ามีความผิดด้วย ทั้งนี้เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาถึงแม้จะมีเรื่องอยู่ที่ศาล เพราะเชื่อว่าทางรัฐบาลได้มีการดูแลในเรื่องนี้ดีอยู่พอสมควร และมั่นใจว่า พ.ร.ก. ทั้ง 3 ฉบับจะผ่านการพิจารณาของสภา